รีวิว Apple iPad mini 7 ควรอัปเกรดไหม? แตกต่างจาก iPad mini 6 อย่างไร!

รีวิว Apple iPad mini 7 แตกต่างจาก iPad mini 6 อย่างไร ควรอัปเกรดไหม?

เป็นระยะเวลานานเลยกว่าทาง Apple จะเปิดตัวรุ่นใหม่ของ iPad mini ย้อนกลับไป iPad mini 6 เปิดตัวช่วงปี พ.ศ. 64 ทิ้งช่วงเกือบ 3 ปี และมีข่าวลือคอยให้ติดตามอยู่บ้าง จนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้เปิดตัวเงียบๆ สำหรับแท็บเล็ตรุ่นใหม่ iPad mini 7 เชื่อว่าหลายคนเกิดคำถาม เมื่อรุ่นใหม่ออกจะซื้อรุ่นไหนดี และถ้าใช้งานรุ่นเก่าอยู่ (iPad mini 6) ควรอัปเกรดหรือไม่ แตกต่างอย่างไรบ้าง รีวิวนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยให้ได้ทราบกัน สรุปราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

สรุปราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

Apple iPad mini 7 รุ่น Wi-Fi

• โมเดลความจุ 128GB : ราคา 17,900 บาท
• โมเดลความจุ 256GB : ราคา 21,900 บาท
• โมเดลความจุ 512GB : ราคา 28,900 บาท

Apple iPad mini 7 รุ่น WiFi + Cellular

• โมเดลความจุ 128GB : ราคา 23,900 บาท
• โมเดลความจุ 256GB : ราคา 27,900 บาท
• โมเดลความจุ 512GB : ราคา 34,900 บาท

สั่งซื้อคลิก!

• Lazada : https://c.lazada.co.th/t/c.YcCypn?sub_aff_id=siamphone
• Shopee : https://s.shopee.co.th/8AETsx5yKo

ก่อนจะพาไปทำความรู้จักและสรุปข้อแตกต่างระหว่างทั้งสองรุ่น เชื่อว่าหลายคนมีข้อสงสัยว่า แล้วจะซื้อรุ่นไหนดี!

สำหรับ iPad mini 6 ต้องบอกว่าหายากมากๆ แล้ว อาจเป็นของค้างสต็อก ซึ่งราคาถูกกว่า ราคาเปิดตัวอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ถูกกว่ามากนัก อย่าลืมว่าแท็บเล็ตรุ่นดังกล่าวเปิดตัวมากว่า 3 ปีแล้ว จุดเด่นและสเปคทุกอย่าง แม้จะใช้งานได้ แต่ก็ล้าสมัย ดังนั้นหากใครมีงบประมาณในมือ แนะนำให้ซื้อ iPad mini 7 ไปเลย ซึ่งจะสรุปไว้ให้ในรีวิวนี้!!

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

iPadOS 18 พัฒนามาเพื่อให้ใช้งานได้ดีกว่าที่เคย

iPad mini 7 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iPadOS18 ยกระดับการใช้งานให้มีความหลากหลายและฉลาดมากขึ้น มีการเปลี่ยนหน้าจอหลักให้ใกล้เคียงกับ iOS18 โดยสามารถปรับแต่งเมนู, สี หรือวิดเจตได้หลากหลาย ไอคอนแอปและวิตเจ็ตวางบนหน้าจอที่ไหนก็ได้ไม่เรียงตามกริดแล้ว ส่วน Control Center ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น

แอป Calculator เครื่องคิดเลข

เชื่อว่าหลายคนรอมานานสำหรับเครื่องคิดเลข ใช้คิดโจทย์เลขต่างๆ ได้สบาย มาพร้อมฟังก์ชันแปลงหน่วย หรือคำนวณแปลงสกุลเงินต่างประเทศได้ มาพร้อม Math Notes : สมุดโน้ตคณิตศาสตร์ใหม่ที่สามารถสร้างกราฟและจัดการตัวแปรได้

วัสดุตัวเครื่องแข็งแรงทนทานและรักษ์โลก

iPad mini 7 ผลิตจากวัสดุโลหะรีไซเคิลชนิดพิเศษแบบ 100% ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน ไม่แพ้โลหะทั่วไป และมีน้ำหนักที่เบาด้วย อีกทั้งมีขนาดตัวเครื่องที่บางแค่ 6.3 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าใช้งานในลักษณะใดก็ถือสบายไม่เมื่อยแขนง่าย

Apple Intelligence มาแล้ว ใช้งานสนุกยิ่งขึ้น

เบื้องต้น Apple Intelligence รองรับการใช้งานเฉพาะภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (U.S. English) จากนั้นจะเพิ่มภาษาอื่นๆ ตามมาเรื่อยๆ ซึ่งยังไม่มีภาษาไทย แต่ก็ดีกว่าไม่มีให้ใช้งานนะ ส่วนรายละเอียดต่างๆ อ่านบทความนี้ได้เลย : สรุปฟีเจอร์ Apple Intelligence เริ่มใช้งานเดือนหน้า ยังไม่มีภาษาไทย iPhone 15 รุ่นไหนได้ใช้งาน ?

ชิปเซ็ตเร็วแรงของ Apple ทลายทุกข้อจำกัด

ถือว่าเป็นไฮไลท์ของ iPad mini 7 เลยก็ว่าได้ โดยได้ชิปเซ็ต Apple A17 Pro มาเป็นหัวใจในการประมวลผล มาพร้อมฟีเจอร์ เรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ สำหรับใช้เล่นเกมระดับ AAA ที่เน้นกราฟิกหนักๆ ส่วนรายชื่อเกมที่เปิดให้ดาวน์โหลดและเล่นได้แล้ว : เปิดขายแล้ว! ส่อง 8 เกม ระดับ AAA เล่นเพลินใน iPhone 16 ทุกรุ่น มีอะไรบ้าง

ระบบเชื่อมต่อครบครัน ไปให้สุดทุกกิจกรรม

iPad mini 7 มีระบบเชื่อมต่อที่ครบครัน โดยเฉพาะพอร์ตเชื่อมต่อที่รองรับสาย Thunderbolt / USB 4 สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล แท่นวาง และจอภาพภายนอกประสิทธิภาพสูง ได้อย่างง่ายดาย มาพร้อม WiFi 6E (รองรับ MIMO แบบ 2x2), 5G (รองรับ MIMO แบบ 4x4), Bluetooth 5.3

• USB 3 (ความเร็วสูงสุด 10Gb/s)

Game Mode โหมดเล่นเกมก็มีแล้วนะ

พัฒนามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม ลดการใช้งานทรัพยากรที่ไม่จำเป็นภายในเครื่อง เพื่อรักษาอัตราของเฟรมเรทให้สูงอยู่ตลอดเวลา พร้อมปรับปรุงการตอบสนองของเสียงและคอนโทรลเลอร์ไร้สายเมื่อเล่นเกมผ่านหูฟังไร้สาย AirPods

กล้องหน้าที่ช่วยให้คุณเป็นมืออาชีพ พร้อมรายละเอียดของภาพมากกว่าเดิม

กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เก็บรายละเอียดต่างๆ ได้มากขึ้น มีเทคโนโลยี HDR เหมาะสำหรับวิดีโอคอลด้วยคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลางเสมอ แม้คุณจะอยู่ตรงจุดใดก็ตาม เมื่อใช้งานในแนวนอน จึงทำให้คุณเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้นขณะประชุม

ขีดเขียนสร้างสรรค์ไอเดียของคุณได้อย่างอิสระ

แท็บเล็ต iPad mini 7 แม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่ก็ดีที่รองรับการใช้งาน Apple Pencil Pro ด้วย กับ Apple Pencil (USB‑C) พร้อมรองรับการใช้งานฟีเจอร์คุณสมบัติการยกปลาย Apple Pencil เพื่อให้คุณสามารถดูตัวอย่างได้ก่อนว่า จุดที่คุณจะสัมผัสบนหน้าจอ ใช่จุดที่ต้องการไหม เพื่อให้คุณสามารถเขียน สเก็ตช์ และวาดภาพด้วยความแม่นยำ ช่วยลดความผิดพลาดได้ดียิ่งขึ้น

เครื่องมือ Writing Tools ผู้ช่วยของคุณในงานเอกสาร

Writing Tools จะรองรับการใช้งานในแอป Mail, Messages Note, Pages และบางแอปฯ เท่านั้น ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ได้ โดยฟีเจอร์นี้คือ การทำงานของ AI มีคุณสมบัติช่วยรีไรต์ข้อความ, ตรวจคำผิด, แปลงข้อความ, แนะนำการเขียนจดหมายให้เป็นทางการ หรือไม่เป็นทางการ หรือสรุปเนื้อหากระชับให้ชัดเจน

Smart Script ผู้ช่วยแนะนำการเขียน (ไกด์ไลน์)

อีกหนึ่งคุณสมบัติการเขียนจาก Apple Pencil ที่สามารถแปลงข้อความเป็นรูปแบบที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น การใช้ประโยค, การใช้คำ หรือข้อแนะนำบริบทต่างๆ ทั้งเลือกปรับแต่งสไตล์ลายมือได้ตามต้องการและเหมือนลายมือจริง

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

iPad mini 7 ดีไซน์เหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง มีขนาดตัวเครื่อง 195.4 x 134.8 x 6.3 มิลลิเมตร มาพร้อม 4 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ ฟ้า, ม่วง, สตาร์ไลท์ และเทาสเปซเกรย์

• รุ่น Wi-Fi : 293 กรัม
• รุ่น Wi-Fi + Cellular : 297 กรัม

หน้าจอแสดงผล Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้ว ความละเอียด 2266 x 1488 พิกเซล มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 326ppi ให้ความสว่างสูงสุด 500 นิต มีเคลือบสารกันรอยนิ้วมือและเคลือบสารกันแสงสะท้อน เหนือหน้าจอขึ้นไป มีเลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับการถ่ายภาพแบบ HDR มีRetina Flash พร้อม True Tone และระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ สามารถบันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps

ตัวเครื่องด้านซ้าย ไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ ขอบเครื่องจะเป็นโทนสีเดียวกับสีของตัวเครื่อง

ด้านขวาตัวเครื่องมีตัวเชื่อมแม่เหล็ก สามารถนำ Apple Pencil มายึดติด เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้

ปุ่มควบคุมต่างๆ อยู่บนด้านบนตัวเครื่องทั้งหมด อาทิ ลำโพง, ปุ่มปรับระดับเสียง, ไมโครโฟน มาพร้อมปุ่ม Power มีเซนเซอร์ Touch ID ด้วย สำหรับสแกนลายนิ้วมือ

ด้านล่างตัวเครื่องมีพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนข้อมูล พร้อมลำโพง

ด้านหลังตัวเครื่องมีเลนส์กล้องหลัง แบบ ไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส มีแฟลช True Tone ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น มาพร้อม ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ ด้านหลังตัวเครื่องผิวสัมผัสด้าน ทำให้เกิดคราบรอยนิ้วมือได้ยาก สามารถเช็ดทำความสะอาดง่าย และจุดที่เปลี่ยนแปลง คือ ทาง Apple ได้สลักคำว่า iPad mini แทนคำว่า iPad เฉยๆ เหมือนรุ่นก่อนที่ผ่านมา

ข้อมูลรายละเอียดกล้องหลัง

iPad mini 7 มีเลนส์กล้องหลังแบบไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มีชุดเลนส์ทั้งหมด 5 ชิ้น ออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels โดยมีคุณสมบัติดังนี้...

• ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า
• แฟลช True Tone ที่ปรับตามสภาวะ
• พาโนรามา (สูงสุด 63MP)
• บันทึกภาพถ่ายและ Live Photo ด้วยขอบเขตสีกว้าง
• การแก้ไขตาแดงขั้นสูง
• แนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งในภาพถ่าย
• ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ
• โหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง
• ผลึกแซฟไฟร์ป้องกันหน้าเลนส์
• บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps
• บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps
• บันทึกวิดีโอระดับ HD 720p ที่ 30 fps
• รองรับวิดีโอสโลว์โมชั่น 1080p ที่ 120 fps หรือ 240 fps
• วิดีโอไทม์แลปส์พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว
• วิดีโอออโต้โฟกัสแบบต่อเนื่อง
• ซูมขณะเล่น
• รูปแบบไฟล์วิดีโอที่บันทึก: HEVC และ H.264
• บันทึกเสียงสเตอริโอ และสามารถบันทึกแบบซูมเสียงได้

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• iPad mini 7
• สายชาร์จ USB‑C (1 เมตร)
• อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB‑C ขนาด 20 วัตต์

5 ประเด็น ที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อ iPad mini 7 ? เมื่อเปรียบเทียบกับ iPad mini 6

1. ชิปเซ็ตระดับท็อป : ชิปเซ็ต Apple A17 Pro สามารถเล่นเกมเพลิน แม้ระดับเกมเกรด AAA หรือใช้งานกราฟิกหนักๆ สบาย

2. ถ้าจะซื้อรุ่น Wi-Fi+Cellular : จะไม่มีถาดใส่ซิมการ์ดให้แล้ว ถ้าอยากใช้งานสัญญาณ 5G ต้องใส่เฉพาะ eSIM เท่านั้น

3. Apple Intelligence : ใช้งานได้เลย ไม่ต้องรอลุ้น มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้ใช้งานต่อไปแน่นอน

4. ราคาเริ่มต้น ได้ความจุ 128GB : หากเปรียบเทียบกับ iPad รุ่นก่อน เมื่อจ่ายราคา 17,900 บาท จะได้แค่ความจุ 64GB แต่ iPad mini 7 ได้ความจุเริ่มต้น 128GB แล้ว

5. รองรับ Apple Pencil Pro : รุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้งานคุณสมบัติต่างๆ ได้ เช่น การรับรู้เมื่อผู้ใช้บีบ, การบีบเพื่อแสดงชุดเครื่องมือ, บีบเพื่อสลับเครื่องมือ, ลากพร้อมหมุน, การตอบสนองแบบสั่น และ Find My เป็นต้น