รีวิว ROG Phone 9 Pro Edition ‘AI ON, GAME ON’ เกมมิ่งโฟนระดับโปร ที่เกินกว่าคำว่าธรรมดา

ROG Phone 9 Series สมาร์ทโฟนเกมมิ่งระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เกมเมอร์โดยเฉพาะ ด้วยดีไซน์อันหรูหรา และฟีเจอร์ล้ำสมัยอย่าง AniMe Vision และ AniMe Play มอบความสนุกผ่านเกมสุดคลาสสิกด้านหลังตัวเครื่อง ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Elite ที่ทรงพลัง จับคู่ RAM LPDDR5X สูงสุด 24GB และพื้นที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 ขนาด 1TB ให้ประสิทธิภาพเหนือชั้น รองรับการเล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล ระบบระบายความร้อน GameCool 9 ช่วยควบคุมอุณหภูมิอย่างมีประสิทธิภาพ หน้าจอ AMOLED ใหญ่จุใจ ขนาด 6.78 นิ้ว รีเฟรชเรทสูงถึง 185Hz ให้ความคมชัดและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เสริมด้วยกล้องหลังคุณภาพสูง 50MP และระบบเสียง Hi-Res Audio แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,800 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 65W พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานและการเล่นเกมที่เหนือระดับอย่างแท้จริง!

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

@siamphone.com Unbox ส่องดีไซน์ ROG Phone 9 Series เท่ๆ ตัวตึงสำหรับเกมเมอร์ เตรียมวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ รอเลย! #Siamphone #SiamphoneDotCom #ROG #ROGPhone9 #ROGPhone9Series เสียงต้นฉบับ - Siamphone.com

ดีไซน์อันโดดเด่น สะท้อนถึงความหรูหราเหนือกาลเวลา ผสานความล้ำสมัยไม่เหมือนใคร

ROG Phone 9 Series ถูกออกแบบให้มีตัวเครื่องที่เล็กกระทัดรัด ทำให้ถือจับได้อย่างสบายมือ ไม่รู้สึกหนักจนเกินไปขณะเล่นเกม มาพร้อมดีไซน์ที่มีความหรูหราและทันสมัย ตัวเครื่องสีดำ Phantom Black สะท้อนความหรูหราด้วยการเคลือบผิวด้านหลังด้วยเทคโนโลยีนาโนคริสตัล ที่ช่วยให้สัมผัสของตัวเครื่องนุ่มนวลและดูมีระดับ ด้านกรอบโมดูลกล้องสำหรับใน ROG Phone 9 Pro และ ROG Phone 9 Pro Edition มีการออกแบบที่โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยเส้นตัดทแยงสีแดงสด สร้างเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร

เพิ่มความน่าสนใจด้วยฟีเจอร์ AniMe Vision รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟ Mini-LED ทั้งสีขาวและสีแดงมากถึง 648 ดวง (จากเดิมที่มี 341 ดวง) ในรูปแบบ dot matrix ที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบมากขึ้น และฟีเจอร์ใหม่อย่าง AniMe Play ให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการเล่นเกมสุดคลาสสิค 4 เกม แนว Pixel Games ได้ทันทีที่ด้านหลังเครื่อง ได้แก่ Brick Smasher, Snake Venture, Aero Invaders และ Speedy Runner ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในยุค 80-90 

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามาด้วย เมื่อผู้ใช้แตะด้านหลังเครื่อง ROG Phone 9 Pro และ ROG Phone 9 Pro Edition เข้ากับเครื่องอื่นๆ ที่รองรับฟีเจอร์นี้ จะสามารถปลดล็อคแอนิเมชันพิเศษทั้ง 12 แบบที่ซ่อนไว้ได้ ทำให้ประสบการณ์ใช้งานเต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและไม่เหมือนใคร

ประสบการณ์ที่ลื่นไหลไร้สะดุด ขีดสุดของความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน

ROG Phone 9 Edition มาพร้อมขีดสุดของประสิทธิภาพ ด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Elite ที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน ทำให้เครื่องสามารถตอบสนองการใช้งานหนักๆ ได้อย่างลื่นไหลและรวดเร็ว ยกระดับประสิทธิภาพอีกขั้นด้วยโหมด X Mode ที่ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ Armoury Crate ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ ROG Phone

นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมาพร้อมแรม LPDDR5X ที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นถึง 12.5% ทำให้สามารถใช้งานหลายแอปพลิเคชันได้พร้อมกันอย่างไม่มีสะดุด โดยมีขนาดสูงสุดถึง 24GB และที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 ขนาดใหญ่ถึง 1TB ซึ่งมีความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลที่เร็วที่สุดในตอนนี้ ทั้งหมดนี้ทำให้ ROG Phone 9 Pro ทำคะแนนในการทดสอบประสิทธิภาพ Antutu benchmark สูงถึง 3.1 ล้านคะแนน ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนอย่าง ROG Phone 8 ถึง 33% มั่นใจได้เลยว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดและไม่สะดุดแม้ในขณะเล่นเกมหรือการทำงานที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง

ระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาเพื่อเกมมิ่งโดยเฉพาะ

มีระบบระบายความร้อน GameCool 9 ที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้การเล่นเกมที่ยาวนานและหนักหน่วงสามารถทำได้อย่างเสถียร ไร้อาการสะดุด ระบบระบายความร้อนนี้มีโครงสร้าง 5 ส่วนหลัก โดยเริ่มต้นที่การวางตำแหน่งชิปประมวลผลไว้ตรงกลางตัวเครื่อง ซึ่งทำให้สามารถดึงความร้อนออกจากชิปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน ระบบใช้ Rapid-cooling Conductor ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับฮีทซิงค์ในคอมพิวเตอร์ในการดึงความร้อนออกจากชิป และใช้สารนำความร้อนคุณภาพสูงอย่าง Boron Nitride เพื่อส่งผ่านความร้อนไปยัง Vapor Chamber ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ครอบคลุมมากกว่าชิปประมวลผลถึงสามเท่า ระบบยังเพิ่มประสิทธิภาพด้วยแผ่นกราไฟต์ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 57% ทั้งด้านบนและด้านล่างของชิป ช่วยกระจายความร้อนได้ดีขึ้นถึง 12% เสริมด้วยพัดลม AeroActive Cooler X Pro รุ่นใหม่ที่มีใบพัดยาวขึ้นถึง 12.5% และมาพร้อมกับระบบ Thermoelectric AI Cooling System ที่ใช้แผ่น Peltier ช่วยลดอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบนี้สามารถปรับโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาดผ่านแอปพลิเคชัน Armoury Crate ทำให้การระบายความร้อนภายในเครื่องทำงานได้อย่างต่อเนื่องและเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีปัญหาความร้อนสะสมที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการใช้งาน

เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมด้วยฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ

ROG Phone 9 Series มาพร้อมเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณไปอีกขั้น โดยมีฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความสนุกสนานในระหว่างการเล่นเกม ได้แก่

• X Sense 3.0 : ระบบ AI ที่ช่วยปรับปรุงการเล่นเกมโดยอัตโนมัติในหลายเกมยอดนิยม เช่น ใน Genshin Impact ระบบจะช่วยเก็บของอัตโนมัติ, ล็อคการวิ่ง, ข้ามบทสนทนา หรือแม้แต่การออกจากวงต่อสู้ ส่วนใน Honkai Starrail ก็มีฟีเจอร์ข้ามบทสนทนาเช่นกัน นอกจากนี้ ROV, Mobile Legends Bang Bang และ League of Legends Wild Rift ยังมีเอฟเฟกต์พิเศษเมื่อทำการ kill, แจ้งเตือนเมื่อมีบัฟปรากฏ, และการอัปเกรดสกิลของตัวละครอัตโนมัติ
• X Capture : ฟีเจอร์ AI ที่จะทำการบันทึกวิดีโอเหตุการณ์สำคัญในเกมอย่างอัตโนมัติ โดยรองรับการบันทึกในเกมยอดนิยมเช่น ROV, Genshin Impact และ Honkai Starrail ช่วยให้ไม่พลาดทุกโมเม้นที่สำคัญในเกม
• AI Grabber : ระบบช่วยในการคัดลอกข้อความสำคัญจากเกม เช่น ข้อความที่เกี่ยวกับเควสต์หรือคำแนะนำต่างๆ เพื่อให้ผู้เล่นสามารถค้นหาวิธีการเล่น (walkthrough) ผ่านเซิร์ชเอ็นจิ้น หรือแม้แต่แปลข้อความในเกมได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
• AI Noise Cancellation : เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนที่ใช้ AI ในการปรับเสียงระหว่างการสนทนาในระหว่างการเล่นเกม ช่วยให้การสื่อสารระหว่างทีมมีความชัดเจนและไม่ถูกรบกวนจากเสียงรอบข้าง ทำให้สามารถติดต่อทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่พลาดทุกการสื่อสารที่สำคัญ

หน้าจอเกมมิ่งที่สมบูรณ์แบบกับอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 185Hz

ROG Phone 9 Series มาพร้อมกับหน้าจอที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเล่นเกมโดยเฉพาะ ด้วยอัตรารีเฟรชเรทสูงสุดถึง 185Hz บนหน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว ซึ่งทำให้การแสดงผลเป็นไปอย่างราบรื่นและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) ที่สามารถปรับอัตรารีเฟรชเรทได้อัตโนมัติในช่วงตั้งแต่ 1Hz ถึง 120Hz ตามลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ ช่วยให้การแสดงผลมีความสมูธและลดการใช้พลังงานเมื่อไม่จำเป็น

อีกทั้งหน้าจอยังมีความสว่างสูงถึง 2500 nits ซึ่งทำให้การใช้งานในทุกสภาวะแสงไม่ว่าจะในที่แสงจ้า หรือกลางแจ้งสามารถทำได้อย่างชัดเจนและไม่เป็นปัญหา จึงมั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเล่นเกมในที่ไหนก็สามารถเห็นรายละเอียดบนหน้าจอได้อย่างคมชัด

ระบบเสียงขั้นสูง เพื่อการเล่นเกมที่สมจริงและการสื่อสารที่ไร้เสียงรบกวน

ระบบเสียงที่ยอดเยี่ยม ผสมผสานเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับประสบการณ์การฟังทั้งในการเล่นเกมและการสื่อสาร ลำโพงคู่สเตอริโอมอบเสียงระดับ Hi-Res Audio ที่มีคุณภาพสูง พร้อมการปรับจูนเสียงโดย DIRAC ที่ช่วยเพิ่มมิติของเสียงให้เต็มรูปแบบ และยังรองรับ DIRAC VIRTUO ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับเสียงให้มีมิติโอบล้อมเสมือนระบบเสียงในโรงภาพยนตร์ โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมต่อกับหูฟังผ่านพอร์ต 3.5mm, USB-C หรือ Bluetooth

ได้ระบบ AI ยังช่วยในการตัดเสียงรบกวนแบบ Bi-Directional ทำให้การสนทนาผ่านไมโฟนคมชัดและมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะกับการสื่อสารในระหว่างการเล่นเกมหรือประชุมออนไลน์ เมื่อใช้งานร่วมกับเคสกันกระแทกของ ROG ผู้ใช้ยังจะได้รับประสบการณ์เสียงแบบ Front-Facing ด้วยเทคโนโลยี Audio Redirection ซึ่งช่วยให้ลำโพงทำการส่งเสียงตรงไปยังผู้ใช้ เสมือนกับการตั้งลำโพงสเตอริโอที่หันเข้าหาผู้ฟังโดยตรง เพิ่มความสมจริงและประสบการณ์ในการฟังที่เหนือชั้นไปอีกขั้น นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง AeroActive Cooler X Pro ที่มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ในตัว ช่วยเสริมเสียงย่านต่ำให้หนักแน่นขึ้น โดยเพิ่มพลังเสียงในย่านต่ำถึง 23.9% ให้ประสบการณ์เสียงที่ทรงพลังและสมจริงยิ่งขึ้น

กล้องหลังระดับโปร ให้ภาพคมชัดในทุกสถานการณ์

ระบบกล้องหลังที่ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพระดับโปร ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดาย ด้วยเซนเซอร์ LYTIA 700 Sony ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Hybrid Gimbal Stabilizer 4.0 แบบ 6 แกน ที่ผสมผสานฮาร์ดแวร์ OIS เข้ากับ อัลกอริธึมซอฟต์แวร์ EIS ชั้นสูง ช่วยลดการสั่นไหวและให้ภาพที่คมชัดในทุกสภาวะการถ่ายภาพ

นอกจากนี้ยังมีเลนส์ Telephoto ที่มาพร้อมเซนเซอร์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (quad-pixel sensor) ซึ่งรองรับออปติคอลซูม 3 เท่า และยังสามารถซูมได้สูงสุดถึง 30 เท่า (เฉพาะในรุ่น ROG Phone 9 Pro และ ROG Phone 9 Pro Edition) ซึ่งทำให้การถ่ายภาพระยะไกลได้ภาพที่คมชัดและไม่มีการสูญเสียรายละเอียด เพื่อเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพ ฟีเจอร์ AirTrigger Capture จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้ทันที เพียงแค่แตะที่ปุ่ม AirTrigger ด้วยปลายนิ้ว ก็สามารถบันทึกภาพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทำให้การถ่ายภาพในช่วงเวลาสำคัญเป็นเรื่องง่ายและไม่พลาดทุกช็อต

ควบคุมเกมอย่างแม่นยำและสะดวกยิ่งขึ้น เสมือนเล่นบนเครื่องเกมคอนโซล

ROG Phone 9 Series ถูกออกแบบมาเพื่อให้การเล่นเกมมีประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการเล่นบนเครื่องคอนโซล ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครัน เฉพาะสำหรับการเล่นเกมจริงๆ ไม่เพียงแค่เพียงชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงเท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและความสนุกในการเล่นเกมที่ทาง ASUS เพิ่มเข้ามาให้อีกมากมาย

• AirTrigger : ปุ่มสัมผัสที่อยู่บริเวณขอบตัวเครื่องได้รับการปรับปรุงให้ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้การเล่นเกมที่ต้องการการควบคุมที่แม่นยำสะดวกยิ่งขึ้น
• USB-C Side Port : พอร์ตเชื่อมต่อที่อยู่ด้านข้างของตัวเครื่อง ช่วยให้คุณเสียบสายชาร์จหรืออุปกรณ์เสริมได้โดยไม่รบกวนการจับถือเครื่องในขณะเล่นเกม
• Bypass Charging : ฟีเจอร์ที่จะช่วยให้พลังงานจากอแดปเตอร์ชาร์จถูกส่งไปยังตัวเครื่องโดยตรง ซึ่งช่วยลดความร้อนจากการชาร์จระหว่างเล่นเกม และยังช่วยให้การเล่นเกมราบรื่นยิ่งขึ้น
• Armoury Crate & Game Genie : ซอฟต์แวร์เฉพาะที่ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าและฟีเจอร์ต่างๆ ของเครื่องได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งประสิทธิภาพหรือการจัดการการเชื่อมต่อ

อุปกรณ์เสริม : สามารถเสริมประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ด้วยอุปกรณ์เสริมต่างๆ อย่าง AeroActive Cooler X Pro ช่วยระบายความร้อน หรือ ROG Tessen Controller สำหรับการควบคุมที่แม่นยำและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

มาตรฐาน IP68 มั่นใจได้ในความทนทานจากน้ำและฝุ่นในทุกสภาวะ

ROG Phone 9 Series ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในสภาวะที่ท้าทาย ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องตัวเครื่องจากฝุ่น, สิ่งสกปรก และทราย รวมถึงสามารถทนทานต่อการแช่น้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร โดยไม่เกิดความเสียหายภายใต้สภาวะอุณหภูมิและความดันปกติเป็นเวลานานถึง 30 นาที มาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นนี้ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IP68 (ไม่สามารถกันน้ำทะเลได้) ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ROG Phone 9 Series จะสามารถใช้งานในสภาวะที่มีความชื้นหรือฝุ่นละอองได้ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเสื่อมสภาพจากสิ่งเหล่านี้

ไม่พลาดทุกความสนุก เล่นเกมได้นานต่อเนื่อง ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่พร้อมการชาร์จเร็ว 65W

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,800 mAh สามารถเล่นเกมหนักๆ ได้อย่างน้อย 4.5 ชั่วโมงเลยทีเดียว รองรับการชาร์จเร็วผ่านเทคโนโลยี ROG HyperCharge 65W สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 100% ได้ในเวลาเพียง 46 นาที ชาร์จเต็มไว ทำให้กลับมาเล่นเกมได้เร็ว ไม่ต้องรอนาน นอกจากนี้ ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายตามมาตรฐาน Qi 1.3 โดยมีกำลังไฟสูงสุดที่ 15W ช่วยให้การชาร์จแบบไร้สายสะดวกและรวดเร็วไม่แพ้การชาร์จผ่านสาย

สเปคเบื้องต้นของ ROG Phone 9 Pro Edition

• ขนาด : 163.8 x 76.8 x 8.9 มม.
• น้ำหนัก : 227 กรัม
• หน้าจอแสดงผล : AMOLED (Flexible) ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 165Hz (สามารถปรับได้ถึง 185Hz ใน Game Genie) ความสว่างสูงสุด 2,500 nits, ป้องกันด้วย Corning® Gorilla® Glass Victur™ 2
• ชิปเซ็ต : Snapdragon® 8 Elite Platform
• GPU : Adreno™ 830
• RAM : 24GB (LPDDR5X)
• พื้นที่จัดเก็บภายใน : 1TB (UFS4.0)
• ระบบปฏิบัติการ: Android 15
• ซิม : รองรับ Dual SIM (nano + nano)
• กล้องหลัง 3 ตัวได้แก่
  • กล้องหลัก : ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ Sony Lytia 700 ขนาด 1/1.56" พร้อมรูรับแสง f/1.9, Gimbal OIS
  • กล้อง Ultra-Wide : ความละเอียด 13MP พร้อมรูรับแสง f/2.2, มุมมองกว้าง 120°
  • กล้อง Telephoto : ความละเอียด 32MP พร้อมรูรับแสง f/2.4, ซูมออปติคอล 3 เท่า, รองรับการกันสั่น OIS
• กล้องหน้า : ความละเอียด 32MP
• ระบบความปลอดภัย : เซนเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอ, สแกนใบหน้า
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7 (802.11be/ax/ac/a/b/g/n) รองรับย่านความถี่ 2.4GHz, 5GHz, และ 6GHz, Bluetooth® 5.4 รองรับ Qualcomm® aptX™ Adaptive และ aptX™ Lossless, NFC
• ระดับการทนน้ำทนฝุ่น : IP68
• พอร์ต : USB Type-C
• แบตเตอรี่ : 6,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 65W

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ROG Phone 9 Series ที่ทาง Siamphone ได้มารีวิวในวันนี้จะเป็นรุ่น ROG Phone 9 Pro Edition มีขนาดตัวเครื่อง 163.8 × 77 × 8.9 มม. น้ำหนัก 227 กรัม มาพร้อมหน้าจอ Flexible AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1.5K (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับอัตราการรีเฟรชเรตแบบปรับได้ 1-120Hz และสูงสุด 185Hz สำหรับโหมดเกม ความสว่างสูงสุด 2500 nits ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 ด้านบนของหน้าจอ ดีไซน์เจาะรู Punch hole กล้องหน้า ความละเอียด 32MP เหนือขึ้นไปบริเวณขอบจอเป็นลำโพงเสียง โดยที่รอบเครื่องประกอบไปด้วย

• ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
• ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และติดตั้งพัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler X Pro
• ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิด, รีสตาร์ทเครื่องและไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน บริเวณด้านบนสุดและด้านล่างสุดของฝั่งนี้จะมีปุ่มเสริม AirTrigger สำหรับการเล่นเกม
• ด้านล่างของตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ถัดมาเป็นพอร์ต USB Type-C, ช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ Dual SIM รองรับ Nano SIM 2 ช่อง และลำโพงเสียง ทางขวาเป็นช่องหูฟัง 3.5mm
• ด้านหลังของตัวเครื่องจะพบกับ โมดูลกล้องดีไซน์ 5 เหลี่ยม มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก ความละเอียด 50MP พร้อมรูรับแสง f/1.9 และกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 และกล้อง Telephoto ความละเอียด 32MP พร้อมรูรับแสง f/2.4 พร้อมไฟแฟลช LED

ราคาและการวางจำหน่าย

ROG Phone 9 Series  เปิดตัวมาด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ ROG Phone 9FE, ROG Phone 9 Pro และ ROG Phone 9 Pro Edition ราคาและความจุมีดังนี้

• ROG Phone 9FE ความจุ 16GB + 256GB วางจำหน่ายในราคา 29,990 บาท
• ROG Phone 9 Pro ความจุ 16GB + 512GB วางจำหน่ายในราคา 39,990 บาท
• ROG Phone 9 Pro Edition ความจุ 24GB + 1TB มาพร้อม AeroActive Cooler X Pro ในกล่อง วางจำหน่ายในราคา 49,990 บาท

พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยในงาน Thailand Mobile Expo วันที่ 30 มกราคม 2568 ผ่านทาง AIS, ASUS Online Store, ASUS Official Store บน Lazada และ Shopee, และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ

พบกับโปรโมชันพิเศษ ROG Phone 9 Early Bird Promotion ซื้อก่อนคุ้มกว่า! เมื่อซื้อROG Phone 9 ทุกรุ่น ระหว่างวันที่ 30 ม.ค. 68 - 2 มี.ค. 68 รับฟรี! ROG Phone 9 Chill Case มูลค่า 1,490 บาท, ROG Slash Sling Bag 2.0 มูลค่า 1,990 บาท และ ROG Screen Protactor มูลค่า 690 บาท และโปรโมชันพิเศษเฉพาะในงาน Thailand Mobile Expo รับเพิ่มทันที RG Tessen มูลค่า 3,590 บาท (เฉพาะ ROG Phone 9 Pro และ ROG Phone 9 Pro Edition) ROG Centra True Wireless มูลค่า 1,990 บาท (เฉพาะ ROG Phone 9)