www.siamphone.com

ข่าว

รีวิว Samsung Galaxy S25 Ultra มีอะไรใหม่บ้าง มี Galaxy AI มากขึ้น ปากกา S-Pen ไม่มี Bluetooth มันส่งผลแค่ไหน ?

สมาร์ทโฟน (Smartphone)   |   วันที่ : 5 กุมภาพันธ์ 2568

รีวิว Samsung Galaxy S25 Ultra ปากกา S-Pen ไม่เชื่อมต่อ Bluetooth แล้ว ยังน่าใช้งานหรือไม่!

หลายคนอาจยังตั้งคำถามว่า การเปิดตัวของ Samsung Galaxy S25 Series ในครั้งนี้ เหมือนจะมุ่งเน้น Galaxy AI เป็นส่วนใหญ่ กับอัปเกรดสเปคเล็กน้อย แก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ให้สมบูรณ์มากกว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีฟีเจอร์ใหม่แตกต่างกว่านี้ โดยเฉพาะ Samsung Galaxy S25 Ultra รุ่นพี่สุดของซีรีส์ ในรีวิวนี้จะพาไปทำความรู้จักให้มากขึ้นว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วปากกา S-Pen มันส่งผลมากน้อยแค่ไหน แค่ตัดฟังก์ชัน Bluetooth ออก ซึ่งทางซัมซุงไม่มีขายปากกา S-Pen ที่มีบูลทูธแบบแยกแต่อย่างใด ส่วนผลกระทบที่เกิดจากไม่มี Bluetooth คือ ฟีเจอร์ Air actions สำหรับควบคุมการใช้งานเมนูต่างๆ ภายในเครื่องจากระยะไกล รวมถึงการใช้ S-Pen เป็นรีโมตถ่ายรูป ซึ่งเป็นวิธีถนัดของใครหลายคนไปแล้ว อย่างไรก็ตามจุดเด่นและสเปคต่างๆ มีอะไรน่าสนใจบ้าง มาติดตามกันเลย

สั่งซื้อคลิก!

สั่งซื้อออนไลน์ พร้อมโปรโมชันราคาพิเศษ

Samsung Galaxy S25 Ultra มี 7 เฉดสีให้เลือก แบ่งเป็น สีที่ซื้อได้ ณ ร้านค้าชั้นนำทั่วไป อาทิ Titanium Silverblue, Titanium Gray, Titanium Black และ Titanium Whitesilver ส่วนอีกสามเฉดสี จับจองได้ที่ช่องทางออนไลน์เว็บไซต์ Samsung.com เท่านั้น ได้แก่ Titanium Jetblack, Titanium Jadegreen และ Titanium Pinkgold โดยมีราคาวางจำหน่าย ดังนี้

Samsung Galaxy S25 Ultra

  • รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB : ราคา 46,900 บาท 
  • รุ่น RAM 12GB + ROM 512GB : ราคา 52,900 บาท
  • รุ่น RAM 12GB + ROM 1TB : ราคา 62,900 บาท

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์มีความหรูหรา พรีเมียม เหมือนเดิม

Samsung Galaxy S25 Ultra กรอบเครื่องวัสดุไทเทเนียม แข็งแรงทนทานกว่าโลหะทั่วไป นอกจากนี้มีการออกแบบด้วยเทคนิคพิเศษ มาพร้อมกระจกหน้าจอใหม่ล่าสุด Corning Gorilla Armor 2 ครั้งแรกของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน เป็นกระจกแบบใหม่ที่ทางซัมซุงพัฒนาร่วมกับ Corning จุดเด่นช่วยลดแสงสะท้อนมากกว่าเดิม พร้อมคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วยได้ดีกว่าเดิม จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ Corning พบว่า Gorilla Armor 2 สามารถรอดพ้นจากการตกกระแทกบนพื้นผิวที่จำลองลักษณะของคอนกรีตจากความสูงสูงสุดถึง 2.2 เมตร ในขณะที่วัสดุกระจกเซรามิกชนิดอื่นล้มเหลวเมื่อปล่อยตกจากความสูงเพียง 1 เมตร

มาพร้อมปากกา S-Pen แต่ตัดการควบคุมแบบไร้สายออกไป

ปากกา S-Pen ยังมีให้ใช้งานใน Samsung Galaxy S25 Ultra เท่านั้น ลักษณะปลายด้ามปากกาเป็นวงรีเช่นเดิม ตัวด้ามเหมือนมีขนาดผอมเพรียวมากขึ้น ตามรายงานของสื่้อนอก เหตุผลคือทาง Samsung ได้เก็บสถิติจากผู้ใช้งานพบว่า ส่วนใหญ่แทบไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ควบคุมไร้สายด้วยปากกา S-Pen จึงได้ตัดสินใจตัดความสามารถนี้ออกไป แล้วเอาไปเสริมความสามารถในด้านอื่นแทน

AI เดิมมาหมด อัปเกรดให้เสถียรมากขึ้น

  • สงสัยว่ารูปภาพหรือวิดีโอที่เราเห็นคืออะไร สามารถค้นคว้าหาข้อมูลได้ทันที ฟีเจอร์นี้เรียกว่า Circle search เมื่อคุณอยากรู้เรื่องใดจากในรูปภาพหรือวิดิโอ ก็ใช้ปากกา S-PEN วงจุดที่อยากรู้ จากนั้น AI จะทำการค้นหาข้อมูลให้ทันที โดยที่ไม่ออกจากแอปฯ นั้นเลย
  • แปลภาษาได้รวดเร็วและง่ายกว่าที่เคย ฟีเจอร์นี้เรียกว่า Live Translate โดยการติดต่อสื่อสารจะไม่ใช่เรื่องยาก หรือไม่มั่นใจแล้ว เพราะแปลได้เกือบจะเรียลไทม์ทั้งผ่านสายสนทนา, ข้อความ หรือประโยคระหว่างคู่สนทนา ทำไมถึงบอกว่า เกือบจะเรียลไทม์ เพราะการมีคู่สนทนา AI จะต้องได้ยินชัดเจนและประมวลผลคำพูด ไม่ว่าจะผ่านสายสนทนา หรือลำโพงก็ตาม เบื้องต้นการแปลภาษาจะรองรับ 13 ภาษา รวมถึงภาษาไทย
  • บทความยาวให้ห่วง ใน Samsung Internet หรือเว็บเบราว์เซอร์ของซัมซุง มีฟีเจอร์ใหม่ โดย AI จะทำการวิเคราะห์เนื้อหาทั้งหมดในหน้าเบราว์เซอร์ แล้วจะประมวลผล พร้อมสรุปเนื้อหาใจความสำคัญให้อ่านอีกครั้ง จากเดิมที่คุณต้องอ่านทั้งหมดและสรุปใจความเอง แต่ AI มาช่วยคุณเรื่องนี้แล้ว
  • Chat Assist keyboard ทุกการพิมพ์แชทของคุณจะสนุกเพลิดเพลินยิ่งขึ้น เพราะจะมีการแนะนำอิโมจิ, Hagtags หรือข้อแนะนำการสรุปจบประโยค ไม่ว่าจะเป็นการโทร, ข้อความ รวมถึงแอปพลิเคชันต่างๆ
  • Transcript Assist ผู้ช่วยสำคัญมาแล้ว ในการประชุมหรือมีตติ้งต่างๆ ต้องมีการจด NOTE จะเป็นเหมือนเลขาของคุณ ทำหน้าที่คอยบันทึกข้อมูลการประชุม พร้อมแยกผู้พูดแต่ละคนว่า พูดประโยคอะไรบ้าง ทำให้เข้าใจง่ายกว่าเดิม ในขณะเดียวกันภาษาที่ถูกบันทึกไว้ หากเราไม่เข้าใจก็จะทำการแปลภาษาที่ต้องการได้ด้วยเช่นกัน
  • Gemini Live / Gemini Advance เพิ่มความสามารถถามตอบ โดยที่สามารถเข้าถึงแอปฯ ต่างๆ เพื่อทำงานร่วมกันได้มากขึ้น เช่นตั้งปฏิทินนัดหมาย, โทรออกหาเบอร์ที่ต้องการ, ค้นหาพิกัดแผนที่, สรุปเนื้อหาคลิปวิดีโอ, เปิดเพลงจากแอปฯ เพลง Spotify และถ้าเหงา หรืออยากรู้อะไร เรียนรู้ให้เข้าใจ เลือกใช้ Gemini Live มาเป็นเพื่อนคุยเล่นได้ด้วย แต่ใช้งานฟรีแค่ 6 เดือนนะ

การเรียกใช้งาน Gemini ทำได้ง่าย ๆ แค่กดปุ่ม Power ด้านข้างตัวเครื่องค้างไว้ Gemini จะทำงานทันที (คล้ายวิธีเรียกใช้งาน Ok Google เดิม) รองรับภาษาไทยตั้งแต่แกะกล่อง ทั้งพูดและพิมพ์ได้ถึง 45 ภาษาทั่วโลก แต่การใช้งานแปลภาษาฟีเจอร์ Call Assist ระหว่างโทรจะรองรับเพิ่มเป็น 20 ภาษาแล้ว

การใช้งาน Gemini บน Samsung Galaxy S25 Series แตกต่างจากสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น คือใช้งานแอปพลิเคชันข้ามแพลตฟอร์มได้ (Cross App) ระหว่างแอปพลิเคชันของ Samsung (Samsung Native App) อาทิ Samsung Reminder, Samsung Calendar, Samsung Notes เพื่อเข้าไปใช้งานเมนูต่างๆ บนแอปพลิเคชันอื่นๆ ภายในเครื่อง รวมทั้งแอปพลิเคชัน 3rd Party ต่างๆ

นอกจากนี้ความสามารถใหม่ที่เพิ่มเข้ามาของ Gemini คือสามารถค้นหาข้อมูลของเพลงที่ชอบได้ด้วยเสียง ทั้งการเล่นเพลงให้ฟัง, การร้องเพลงให้ฟัง หรือการฮัมเพลงด้วยทำนองก็ทำได้

Audio Eraser ฟีเจอร์ที่เปรียบเสมือนให้คุณทำงานอยู่ในสตูดิโอ สามารถปรับแต่งและวิเคราะห์ด้วย AI โดยจะจำแนกเสียงประเภทต่าง ๆ ภายในคลิปวิดีโออย่างชาญฉลาด สามารถเลือกลบ หรือลดระดับเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการในวิดีโอได้ง่าย ทั้งเสียงพูด, เสียงเพลง, เสียงลม, เสียงธรรมชาติ, เสียงฝูงชน และเสียงรบกวนอื่น ๆ ซึ่งเลือกลบเสียงได้ทั้งวิดีโอภายในเครื่องและภายนอก

ฟีเจอร์ใหม่ Now Bar คือแถบแคปซูลด้านล่างของหน้าจอ Lock Screen กับหน้าจอหลัก ที่จะอัปเดตข้อมูลล่าสุดบางแอปฯ ที่ใช้งานอยู่ เช่น Now Brief, ข้อมูลเพลง, นาฬิกาจับเวลา, การบันทึกเสียง, กิจวัตรด้านสุขภาพ และแจ้งเตือนอื่น ๆ นอกจากนี้สามารถแสดงการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ (Live Notifications) ได้ด้วย เช่น นาฬิกาจับเวลาไปแล้วเท่าไหร่ หรือบันทึกเสียง หากต้องการควบคุมเพิ่มเติมยังเลื่อนปัดขึ้นเพื่อสลับเลือก Now Bar อื่นที่ต้องการ กับแตะที่แถบ Now Bar ค้างไว้เพื่อแสดงตัวเลือกเพิ่มเติม

ฟีเจอร์ไฮไลต์ Now Brief การ์ดสรุปเนื้อหาของผู้ใช้ไว้ภายในหน้าเดียว จะอัปเดตตลอดทั้งวัน แต่ละช่วงเวลาก็จะสรุปข้อมูลแตกต่างกันไป ประเภทเนื้อหามีทั้งสุขภาพ, การเดินทาง, กิจกรรม, ตารางงานที่ต้องทำ, กิจวัตร, เพลงแนะนำ, ข้อมูลการจราจร, ข่าวสาร, การติดต่อสื่อสาร, ช่วงเวลาสำคัญ, แกลเลอรี, ผลการแข่งขันกีฬาที่คุณติดตามอยู่ เป็นต้น

ชิปเซ็ตเร็วแรงขั้นสุด Snapdragon 8 Elite ที่ถูกปรับแต่งมาโดยเฉพาะ

Samsung Galaxy S25 Ultra มาพร้อมชิปเซ็ตเร็วแรงสุดในฝั่งแอนดรอยด์แล้วตอนนี้ นั่นคือ Snapdragon 8 Elite for Galaxy ที่ถูกปรับแต่งมาให้แรงขึ้นกว่าเวอร์ชันปกติอีกเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับชิปเซ็ตอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 ในรุ่นก่อนหน้าจะมีประสิทธิภาพของ CPU ดีขึ้น 37%, GPU ดีขึ้น 30% และ NPU ดีขึ้น 40% และการประมวลผลของ AI ได้เสถียรมากขึ้น

เล่นเกมระดับ AAA ได้เต็มประสิทธิภาพ

พัฒนาขึ้นกว่าเดิมด้วย Ray Tracing แบบเรียลไทม์กับการปรับปรุงคุณภาพของ Vulkan ซึ่งจะทำให้คุณอินไปกับแอ็กชันของเกมเพลย์สมจริงที่ไหลลื่น มาพร้อมเทคโนโลยี ProScaler เสริมความละเอียดของภาพได้ด้วยการประมวลผลของอัลกอริทึม AI ขั้นสูง เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมคุณภาพสูงได้แบบที่ไม่ต้องปรับการตั้งค่าของการแสดงผล

ทุกการใช้งานสบายหายห่วง ด้วยสเปคเทพ

Samsung Galaxy S25 Ultra ประมวลผลด้วยชิปเซ็ตตัวท็อป เร็วแรงใจสั่งได้ แม้ว่าการสลับแอปฯ, เปิดแอปพลิเคชัน เป็นต้น ทั้งมีฟีเจอร์สร้าง RAM เสมือน สามารถสร้าง RAM เพิ่มได้อีก ใช้งานลื่นไหนแน่นอน ด้วยเทคโนโลยีทั้งสอง คือ LPDRR5X และเทคโนโลยีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในประสิทธิภาพสูง อีกทั้งลำโพงเป็นแบบสเตอริโอ กับเทคโนโลยีเสียง Dolby ATMOS เรียกได้ว่ามันในอารมณ์แน่ๆ โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh มีคุณสมบัติชาร์จเร็ว 45 วัตต์ ชาร์จไร้สายความเร็ว 15 วัตต์ และชาร์จให้อุปกรณ์อื่นได้ด้วยความเร็ว 4.5 วัตต์

ด้านหน้าจอแสดงผลของ Samsung Galaxy S25 Ultra มีขนาดหน้าจอ 6.9 นิ้ว ยังใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X เช่นเดิม เพียงแต่กระจกด้านหน้าจะแบนเรียบสนิท มีขอบหน้าจอบางมากยิ่งขึ้น รับชมคอนเทนต์สวยเต็มตา พร้อมอัตรารีเฟรชเรทปรับอัตโนมัติ 1-120Hz กับฟีเจอร์ Vision booster และ Adaptive color tone

เหมือนเดิม Samsung Galaxy S25 Series ยังได้รับการอัปเดตยาวๆ ทั้ง Android OS กับแพทช์ความปลอดภัย นานถึง 7 ปี ตั้งแต่แกะกล่องเป็น Android 15 นั่นหมายความว่าคุณจะได้รับอัปเดตไปจนถึง Android 22 เรียกได้ว่าคุ้มค่ายาวๆ

กล้องหลังแบ่งทั้งหมด 4 เลนส์

  • เลนส์หลัก : เลนส์ Wide ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รูรับแสง f/1.7 มุมมองถ่ายภาพ 85 องศา
  • เลนส์สอง : เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 มุมมองถ่ายภาพ 120 องศา
  • เลนส์สาม : เลนส์ Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รูรับแสง f/3.4 มุมมองถ่ายภาพ 22 องศา รองรับการซูมภาพแบบ 5x Optical Zoom
  • เลนส์สี่ : เลนส์ Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมมองถ่ายภาพ 36 องศา รองรับการซูมภาพแบบ 3x Optical Zoom
  • รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps / 8K ที่ 30fps
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองถ่ายภาพ 80 องศา

ฟีเจอร์เพิ่มเติมที่น่าสนใจของกล้อง Best Face จะถ่ายรูปเดี่ยว หรือรูปหมู่คณะ ก็ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลว่าเรา หรือใครจะไม่พร้อมแล้ว เพราะบางรูปขังหวะมันได้ แต่อาจมีติดขัดเรื่องบางคนหลับตา ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ ไม่มีแบบพลาดแล้วพลาดเลย เพียงเท่านี้การถ่ายรูปของคุณก็กลายเป็นเรื่องสนุก สุดปังที่พร้อมแชร์ได้เลย

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

สำหรับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S25 Ultra มีขนาดตัวเครื่อง 162.8 x 77.6 x 8.2 มม. ซึ่งถือว่าไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แม้มีขนาดหน้าจอ 6.9 นิ้ว นั่นเพราะมีขอบจอบางมาก ที่แนบสนิทเข้ากับขอบตัวเครื่อง ทำให้มีพื้นที่ด้านหน้าเพียบ จึงเป็นที่มาว่า ได้ขนาดหน้าจอใหญ่ทั้งที่มีตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่มากนั่นเอง

หน้าจอขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 3120 x 1440 พิกเซล แบบ Infinity-O Dynamic AMOLED 2X อัตรารีเฟรชเรท 120Hz พร้อมครอบทับกระจก Corning Gorilla Armor 2 สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี มีเทคโนโลยี HDR10+ และ Dolby Vision

หน้าจอมีการครอบทับกระจกป้องกันรอยขีดข่วน Corning Gorilla Armor 2 ป้องกันแสงสะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติลดการสะท้อนแสงหน้าจอ 75% แม้ใช้งานกลางแจ้ง ที่สำคัญเลย สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S25 Ultra มีความสว่างหน้าจอมากถึง 2600nits ใช้งานกลางแจ้งสบายๆ

เหนือหน้าจอมีเหล่าเซนเซอร์ และกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองถ่ายภาพ 80 องศา

ด้านบนตัวเครื่องมีช่องไมโครโฟน 2 ตัว สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบันทึกวิดีโอและลดเสียงรบกวน

ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องใส่ปากกา S-Pen ถัดมาเป็นพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนข้อมูล พร้อมช่องใส่ซิมการ์ด สแตนบาย 5G ได้สองซิมการ์ด แบบที่สลับใช้งานอัตโนมัติ สัญญาณไม่ดับ ทำให้การติดต่อสื่อสารไม่ติดขัดใดๆ

ด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเพิ่มเสียงลดเสียง ส่วนด้านซ้ายตัวเครื่องไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ

การใช้งาน S-Pen ก็เหมือนกับรุ่นก่อนเลย ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรืออัปเกรดใดๆ แต่ความน่าสนใจคือ การถูกเติมเต็มด้วย Galaxy AI ที่จะช่วยดึงศักยภาพของปากกามากขึ้น ประมาณว่ามีความหลากหลายในการใช้งานนั่นเอง

วันที่ : 5 กุมภาพันธ์ 2568

103
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version