ROG เปิดตัว ROG Phone 9 Series ในงาน TME 2025 พร้อมโปรโมชัน Early Bird สุดคุ้ม

เอซุส ภายใต้แบรนด์รีพับบลิค ออฟ เกมเมอร์ส (ROG) ประกาศเปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ตโฟน ROG Phone 9 Series อย่างเป็นทางการในประเทศไทย บนเวที Exclusive Partner ร่วมกับ AIS ในงาน Thailand Mobile Expo 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเป็นซีรีส์ใหม่ล่าสุดที่สะท้อนความเป็นเกมมิ่งสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม มาพร้อมฟังก์ชัน AniMe Vision display ประสิทธิภาพที่เร็วแรง และลูกเล่น AI เกมมิ่งฟีเจอร์แบบจัดเต็ม

โดยจุดเด่นอย่างแรกคือดีไซน์ของ ROG Phone 9 Series ที่เพรียวบาง ทันสมัย เรียบหรูเข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ มาพร้อมกับสีดำ Phantom Black ถูกเคลือบผิวด้านหลังตัวเครื่องด้วยเทคโนโลยีนาโนคริสตัล ให้สัมผัสแบบด้านที่มอบความรู้สึกนุ่มนวล ไม่ติดรอยนิ้วมือง่าย เสริมเอกลักษณ์พิเศษที่ไม่เหมือนใครด้วย AniMe Vision แบบใหม่ล่าสุดที่มีไฟ Mini-LED สีขาวและสีแดงมากถึง 648 ดวง (เดิมมี 341 ดวง) เรียงตัวกันแบบ dot matrix สามารถปรับแต่งได้อิสระมากยิ่งขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด AniMe Play ให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับ 4 พิกเซลเกมสุดคลาสสิค (Brick Smasher, Snake Venture, Aero Invaders, และ Speedy Runner) ได้ทันทีที่บริเวณด้านหลังตัวเครื่อง ชวนให้นึกถึงบรรยากาศความสนุกที่เรียบง่ายจากยุค 80 – 90 อีกทั้ง AniMe Vision ยังสามารถแสดงผลต่างๆ เช่น ตัวเลขบอกเวลา, ปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ, นับเวลาถอยหลังขณะถ่ายรูป, แสดงเวลาขณะถ่ายวิดีโอ เป็นต้น

อย่างต่อมาที่เหล่าเกมเมอร์สจะได้สัมผัสกับเกมมิ่งสมาร์ตโฟนสุดทรงพลัง ตามแบบฉบับ ROG Phone คือชิปประมวลผลที่แรงที่สุดในเวลานี้อย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Elite (มีเฉพาะใน ROG Phone 9 Pro/9 Pro Edition) รีดประสิทธิภาพสูงสุดด้วย X Mode บนซอฟต์แวร์เอกสิทธิ์เฉพาะของ ROG Phone อย่าง Armoury Crate เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแม้แต่เกมที่มีการตั้งค่ากราฟิกสูงสุด ก็จะสามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นได้อย่างลื่นไหล ไร้อาการกระตุก

ด้านระบบระบายความร้อน GameCool 9 แบบใหม่ รองรับการเล่นเกมได้เสถียรต่อเนื่องยาวนาน พร้อมกับการออกแบบ 360° SoC Cooling System Gen 3 ซึ่งใช้วัสดุระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงหลากหลายชนิด ระบบนี้ถูกออกแบบด้วยโครงสร้างเฉพาะที่มุ่งเน้นไปยัง SoC โดยเฉพาะ และเสริมด้วย Aero Active Cooler X Pro รุ่นล่าสุดที่ติดตั้งด้วยการประกบเข้ากับตัวเครื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการระบายความร้อนไม่เป็นอุปสรรคต่อเส้นทางสู่ชัยชนะ

เสริมประสบการณ์เล่นเกมให้สนุกยิ่งขึ้นด้วยหลากหลาย AI อัจฉริยะ ได้แก่ X Sense 3.0 ใช้ประโยชน์จากการจดจำภาพด้วย AI เพื่อช่วยในการเล่นเกม เช่น การตรวจจับเหตุการณ์สำคัญ การเก็บไอเทมโดยอัตโนมัติ และในเวอร์ชัน 3.0 ล่าสุดของ ROG ยังสามารถอัพสกิลของตัวละครในเกม ROV ได้โดยอัตโนมัติ, X Capture 2.0 ใช้การจดจำภาพ AI โดยอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับเหตุการณ์สำคัญและบันทึกช่วงเวลาแห่งชัยชนะ การต่อสู้ของทีม และเวลาผู้เล่นจั่วการ์ดตัวละครสำคัญ, AI Grabber 2.0 ใช้ AI สำหรับการจดจำข้อความ ทำให้การค้นหาเป็นเรื่องง่าย และยังรองรับฟีเจอร์แปลภาษาอีกด้วย เพื่อให้การสื่อสารราบรื่นยิ่งขึ้น และ AI Noise Cancelation ระบบตัดเสียงรบกวนด้วย AI โดยตัวเครื่องจะเรียนรู้เพื่อระบุความถี่เสียงที่แตกต่างกัน ทำให้เกมเมอร์สสามารถกำจัดเสียงที่ไม่ต้องการได้อย่างง่ายดาย เพิ่มการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างการเล่นเกม อีกทั้งเสริมด้วยปุ่ม AirTrigger ที่บริเวณขอบด้านข้างตัวเครื่อง ให้ความรู้สึกเสมือนเล่นบนเครื่องคอนโซล และได้รับการปรับปรุงให้สามารถตอบสนองต่อการกดได้ดีกว่าเดิม

เหนือขึ้นไปอีกขั้นกับหน้าจอสำหรับเกมมิ่งโฟนที่ดีที่สุดด้วยอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 185Hz บนหน้าจอ E6 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์ LTPO ที่ช่วยปรับอัตรารีเฟรชเรทอัตโนมัติตั้งแต่ 1-120 Hz ทำให้ได้ทั้งความสมูธลื่นไหลและการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม นอกจากนั้นแล้วยังให้ความสว่างได้สูงสุดถึง 2500 nits ทำให้ใช้งานได้ในทุกสภาวะแสง กล้องหลังคุณภาพพร้อมระบบกันสั่นแบบ OIS Hybrid Gimbal Stabilizer 4.0 แบบ 6 แกน บนเซ็นเซอร์ LYTIA 700 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์เทเลโฟโต้บนเซ็นเซอร์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (quad-pixel sensor) ที่มีออปติคอลซูม 3 เท่า และซูมได้สูงสุดถึง 30 เท่า (มีเฉพาะใน ROG Phone 9 Pro/9 Pro Edition) ถ่ายภาพได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์ AirTrigger Capture เพียงสัมผัสบริเวณปุ่ม AirTrigger ด้วยปลายนิ้วก็สามารถบันทึกภาพได้ทันที

ปิดท้ายด้วยสุดยอดระบบเสียงที่ผสานการทำงานของ AI ให้เสียงระดับ Hi-Res Audio โดยได้รับการปรับจูนเสียงโดย DIRAC และรองรับ DIRAC VIRTUO (ไดแรค-เวอร์ชูโอ้) สำหรับการเชื่อมต่อหูฟัง (รองรับทั้งการเชื่อมต่อผ่าน 3.5mm/USB-C/Bluetooth) ให้เสียงที่มีมิติโอบล้อมเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ และยังได้พลังของ AI เข้ามาช่วยในการตัดเสียงรบกวนแบบ Bi-Directional ในทุกการสื่อสาร ให้เสียงในการพูดคุยที่คมชัดสมบูรณ์แบบ อีกทั้งเพิ่มอรรถรสให้สุดทางด้วยการติดตั้ง Aero Active Cooler X Pro ที่มีซับวูฟเฟอร์ในตัว ให้เสียงย่านต่ำที่หนักแน่นยิ่งขึ้นถึง 23.9%

ทั้งนี้ ROG Phone 9 Series พร้อมวางจำหน่ายให้เหล่าเกมเมอร์สเป็นเจ้าของได้แล้ว โดยวางจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่ ROG Phone 9 FE (16GB / 256GB) ราคา 29,990 บาท, ROG Phone 9 Pro (16GB / 512GB) ราคา 39,990 บาท และ ROG Phone 9 Pro Edition (24GB / 1TB) ราคา 49,990 บาท มาพร้อมพัดลม Aero Active Cooler X Pro ในกล่อง ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ผ่านทาง AIS, ASUS Online Store, ASUS Official Store บน Lazada และ Shopee, และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมกับจัดโปรโมชันสุดพิเศษ “Early Bird” ซื้อก่อนคุ้มกว่า โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• เมื่อซื้อ ROG Phone 9 ทุกรุ่น รับฟรี! ROG Phone 9 Chill Case มูลค่า 1,490 บาท / ROG Slash Sling Bag 2.0 มูลค่า 1,990 บาท / ROG Phone 9 Screen Protector มูลค่า 690 บาท (ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 2 มีนาคม 2568 โดยของแถมมีจำนวนจำกัด)
• พิเศษ! เฉพาะในงาน Thailand Mobile Expo 2025 รับของแถมเพิ่มทันที ได้แก่ จอย ROG Tessen Mobile Controller มูลค่า 3,590 บาท (เฉพาะรุ่น ROG Phone 9 Pro/9 Pro Edition) / หูฟัง ROG Cetra True Wireless มูลค่า 1,990 บาท (เฉพาะรุ่น ROG Phone 9 FE) (ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 โดยของแถมมีจำนวนจำกัด)

สามารถดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://th.rog.gg/sgo5f3