www.siamphone.com
EV (Electric Vehicle) | วันที่ : 9 กุมภาพันธ์ 2568
รถยนต์ไร้คนขับ (Self-Driving Cars) เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้ช่วยให้รถสามารถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์ขับขี่ โดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เซนเซอร์ และเทคโนโลยี Machine Learning เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลจากสภาพแวดล้อมรอบตัว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ เช่น Tesla, Waymo (Google), Apple และ Uber ได้ลงทุนมหาศาลในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้มีความปลอดภัยและพร้อมใช้งานจริง
การทำงานของรถยนต์ไร้คนขับอาศัยการประสานงานของหลายเทคโนโลยี เช่น เซนเซอร์ LiDAR และกล้อง ซึ่งใช้ในการตรวจจับวัตถุและสภาพถนน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning ที่ช่วยให้รถสามารถตัดสินใจและคำนวณเส้นทางได้อย่างแม่นยำ ระบบนำทาง GPS และแผนที่ 3 มิติ ที่ช่วยให้รถรู้ตำแหน่งและเส้นทางที่ต้องไป ระบบควบคุมอัตโนมัติ ที่สั่งการพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง โดยทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ในด้านของการพัฒนา รถยนต์ไร้คนขับถูกแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ตามมาตรฐานของ SAE (Society of Automotive Engineers) โดยระดับ 0 หมายถึงไม่มีระบบอัตโนมัติเลย ระดับ 1-2 เป็นระบบช่วยขับ เช่น Adaptive Cruise Control ที่ช่วยควบคุมความเร็วและพวงมาลัยบางส่วน ระดับ 3 เป็นระบบที่สามารถขับเองได้ในบางสถานการณ์ เช่น ทางหลวง ระดับ 4 เป็นระบบที่สามารถขับเองได้โดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์ แต่จำกัดเฉพาะพื้นที่ที่กำหนดไว้ และระดับ 5 เป็นระบบที่สามารถขับได้เอง 100% โดยไม่ต้องมีพวงมาลัยหรือคนขับเลย ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยียังอยู่ที่ระดับ 3-4 และยังต้องพัฒนาอีกมากก่อนจะไปถึงระดับ 5
ข้อดีของรถยนต์ไร้คนขับมีมากมาย หนึ่งในข้อสำคัญคือ ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกว่า 90% ของอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ หากใช้ระบบ AI แทน อุบัติเหตุอาจลดลงได้อย่างมาก รถยนต์ไร้คนขับยังสามารถช่วย ลดปัญหาการจราจรติดขัด เพราะ AI สามารถคำนวณเส้นทางที่ดีที่สุดได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังช่วย ประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษ เนื่องจากรถจะสามารถขับขี่ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการเบรกและเร่งเครื่องที่ไม่จำเป็น และช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่สามารถขับขี่เองได้ เช่น ผู้สูงอายุหรือผู้พิการ
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังเผชิญกับ ความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะเรื่อง กฎหมายและข้อบังคับ ที่ยังไม่รองรับในหลายประเทศ นอกจากนี้ ความแม่นยำของ AI และระบบเซนเซอร์ ยังคงต้องได้รับการพัฒนาให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนบนท้องถนน เช่น สภาพอากาศที่เลวร้ายหรือการขับขี่ในพื้นที่ที่ไม่มีเครื่องหมายจราจรที่ชัดเจน อีกทั้ง ความเชื่อมั่นของประชาชน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องสร้างให้เกิดขึ้น เพราะหลายคนยังคงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถยนต์ไร้คนขับ
แม้ว่ายังต้องใช้เวลาในการพัฒนา แต่บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งได้ก้าวหน้าไปอย่างมากในการทำให้รถยนต์ไร้คนขับกลายเป็นความจริง Tesla มีระบบ Autopilot และ Full Self-Driving (FSD) ที่ช่วยให้รถสามารถขับเองในบางสถานการณ์ Waymo (บริษัทในเครือ Google) ได้ให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับในบางพื้นที่ของสหรัฐอเมริกา Apple กำลังพัฒนาโครงการรถยนต์ไร้คนขับลับ ๆ และ Uber กำลังทดลองใช้รถยนต์ไร้คนขับในบริการรถร่วมเดินทาง
แนวโน้มในอนาคตของรถยนต์ไร้คนขับคาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยในปี 2030 เราอาจได้เห็นรถยนต์ไร้คนขับเริ่มให้บริการอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ บริการแท็กซี่อัตโนมัติอาจกลายเป็นเรื่องปกติ การพัฒนาของ AI ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจะทำให้ระบบขับขี่อัตโนมัติปลอดภัยและแม่นยำมากขึ้น
โดยสรุป รถยนต์ไร้คนขับถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลก แม้ว่ายังมีอุปสรรคที่ต้องแก้ไข แต่เมื่อเทคโนโลยีนี้พัฒนาถึงจุดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากพอ มันอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนอย่างสิ้นเชิง ทำให้การเดินทางมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสะดวกสบายมากขึ้น
วันที่ : 9 กุมภาพันธ์ 2568
Ray-Ban Meta Glasses อัปเดตใหญ่! มาพร้อมแปลภาษาสด, คุยกับ AI เห็นภาพ และดีไซน์ใหม่สุดเท่2 ชั่วโมงที่แล้ว
OPPO Pad SE ลือใช้ชิปเซ็ตใหม่ MediaTek Dimensity G100 พร้อมแบตเตอรี่อึด 9,340mAh16 ชั่วโมงที่แล้ว
เปิดตัว CMF Buds 2a, Buds 2 และ Buds 2 Plus ในอินเดีย พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 14 ชั่วโมง และ ANC สุดล้ำ18 ชั่วโมงที่แล้ว
banana ช่วยเปย์! โปร Apple Back to School ลดเพิ่มอีก 300 บาท20 ชั่วโมงที่แล้ว
Xiaomi เตรียมเปิดตัว QLED TV FX Pro Series ในอินเดีย พร้อมสโลแกน FantastiQLED 8 พฤษภาคมนี้!22 ชั่วโมงที่แล้ว
Ray-Ban Meta Glasses อัปเดตใหญ่! มาพร้อมแปลภาษาสด, คุยกับ AI เห็นภาพ และดีไซน์ใหม่สุดเท่
OPPO Pad SE ลือใช้ชิปเซ็ตใหม่ MediaTek Dimensity G100 พร้อมแบตเตอรี่อึด 9,340mAh
เปิดตัว CMF Buds 2a, Buds 2 และ Buds 2 Plus ในอินเดีย พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 14 ชั่วโมง...
banana ช่วยเปย์! โปร Apple Back to School ลดเพิ่มอีก 300 บาท
OnePlus Nord CE5 ผ่านการรับรอง BIS เผยสเปคเด่น แบตฯ 7100mAh เตรียมเปิดตัวมิถุนายนนี้ที่อินเดีย
vivo ประกาศวันเปิดตัว vivo Y300 GT พร้อมเผยดีไซน์และฟีเจอร์เด่น!
Moto pad 60 PRO หน้าจอ 12.7 นิ้ว คมชัด 3K 144Hz พร้อมลำโพง JBL 4 ตัว
หูฟังครอบหูไร้สาย Sony รุ่น WH-CH720N และ WH-CH520 เปิดตัวสีใหม่ เอาใจสายพาสเทล
OPPO K13 5G เปิดตัวแรงจัดเต็ม ชิปฯ Snapdragon 6 Gen 4 แบตฯ 7000mAh พร้อมชาร์จไว 80W
realme GT7 สมาร์ทโฟนชิปเซ็ต Dimensity 9400+ แบตเตอรี่อย่างใหญ่ 7200mAh
หลุดสเปค OnePlus 13s Snapdragon 8 Series, กล้อง 3 ตัว, ชาร์จไร้สาย 50W