รีวิว Infinix NOTE 50 Pro+ รุ่นที่คุ้มที่สุดของสายเกมและสายไลฟ์สไตล์

ถ้ากำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ “แรง ครบ จบในเครื่องเดียว” Infinix NOTE 50 Pro+ คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยขุมพลังชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8350 Ultimate สุดแรงบนเทคโนโลยี 4nm มอบการประมวลผลที่เร็วและลื่นอย่างไร้ที่ติ จัดเต็มกับหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว รีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz ให้สัมผัสทุกการเล่นเกมและการใช้งานได้เหนือระดับ เสริมความมั่นใจด้วยแบตเตอรี่ 5200mAh ที่รองรับชาร์จไว All-Round FastCharge 3.0 กำลังไฟสูงสุด 100W เติมพลังได้เต็มสปีดไม่ต้องรอนาน พร้อมกล้องถ่ายภาพเซนเซอร์ Sony IMX896 ความละเอียด 50MP พร้อม OIS คู่ ถ่ายชัดทุกสภาพแสง และเสียงกระหึ่มจากลำโพงคู่ JBL กับมาตรฐาน Hi-Res Audio ที่ยกระดับประสบการณ์บันเทิงให้สมบูรณ์แบบ นี่คือสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อสายเกมเมอร์ สายครีเอเตอร์ และคนที่อยากได้เครื่องเดียวที่ทำได้ทุกอย่าง แบบไม่มีคำว่า “ขาด” อีกต่อไป

สั่งซื้อคลิก!

Lazada : https://c.lazada.co.th/t/c.1YFItZ

Shopee : https://s.shopee.co.th/9zklEnkOvq

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

การชาร์จไวทะลุขีดสุด! ด้วย All-Round FastCharge 3.0

Infinix NOTE 50 Pro+ พกพาความเร็วแรงในการชาร์จมาด้วย All-Round FastCharge 3.0 ที่รองรับกำลังไฟสูงสุดถึง 100W ช่วยให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-50% ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ไม่ต้องรอชาร์จนานให้เสียเวลา และยังรองรับการชาร์จไร้สายแบบ 50W เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความคล่องตัว พร้อมฟีเจอร์ Reverse Charging รองรับการชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ ได้สูงสุด 10W เปลี่ยนมือถือให้เป็นพาวเวอร์แบงค์แบบพกพาได้ในตัว

ขุมพลังเร็วแรงพร้อมชนทุกงาน ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8350 Ultimate

Infinix NOTE 50 Pro+ มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8350 Ultimate ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 4nm รุ่นใหม่ล่าสุด ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานหนักระดับโปรเซสเซอร์เรือธง ทั้ง Octa-core CPU ความเร็วสูงสุด 3.35GHz และ GPU Mali-G615 MC6 ที่ช่วยเร่งการประมวลผลภาพและการเล่นเกมให้ลื่นไหล ภายใต้การจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การใช้งานหลายแอปพร้อมกัน หรือเล่นเกมกราฟิกโหดๆ เป็นเรื่องง่ายสบายๆ แบบไม่ต้องกลัวเครื่องร้อนหรือกระตุกเลย

ถ่ายรูปสวยทุกช็อตด้วยกล้องเลนส์ Sony IMX896

เรื่องกล้อง Infinix NOTE 50 Pro+ ยกให้เป็นอีกหนึ่งจุดเด่น เพราะมาพร้อมเซนเซอร์หลัก Sony IMX896 ความละเอียด 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS แบบคู่ที่ช่วยให้ทุกภาพนิ่งคมชัดแม้ในที่แสงน้อย เสริมด้วยกล้อง Ultra-Wide และกล้องเสริม 8MP เก็บภาพได้ครบทั้งมุมกว้างและหน้าชัดหลังเบลอสวยงาม รองรับโหมดถ่ายภาพมากมาย เช่น Super Night, Vlog Mode, Street Photography และ AI Portrait ที่ช่วยให้มือใหม่ก็สามารถถ่ายภาพออกมาได้แบบมือโปร เรียกได้ว่าไม่ว่าคุณจะถ่ายวิว, ถ่ายคน หรือถ่าย Vlog ก็เอาอยู่ทุกสถานการณ์

Bio-Active Halo AI Lighting ไฟแจ้งเตือนอัจฉริยะที่สวยและฉลาด

Infinix NOTE 50 Pro+ มาพร้อมฟีเจอร์ Bio-Active Halo AI Lighting ซึ่งเป็นระบบไฟแจ้งเตือนอัจฉริยะที่ฝังอยู่ในโมดูลกล้องหลัง ช่วยแสดงแสงไฟในรูปแบบต่างๆ ตามประเภทของการแจ้งเตือน เช่น การมีสายเรียกเข้า, ข้อความใหม่, แจ้งเตือนแอปพลิเคชัน หรือสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ โดยระบบนี้ทำงานร่วมกับ AI ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีและเอฟเฟกต์แสงให้เหมาะกับสถานการณ์ ช่วยให้รับรู้การแจ้งเตือนได้แม้อยู่ในโหมดเงียบหรือวางเครื่องห่างตัว นอกจากจะเพิ่มความสะดวกในการใช้งานแล้ว ยังเสริมให้ตัวเครื่องดูหรูหราและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอีกด้วย

เล่นเกมเหนือระดับด้วยหน้าจอ AMOLED 144Hz คอแลปกับ PUBG Mobile Thailand

Infinix NOTE 50 Pro+ ได้อัปเกรดประสบการณ์การเล่นเกมให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการใช้หน้าจอ AMOLED รองรับอัตราการรีเฟรชเรทสูงถึง 144Hz และ Touch Sampling Rate ที่สูงสุดถึง 2304Hz ตอบสนองทุกสัมผัสอย่างรวดเร็วแม่นยำ แถมยังมี Always-On Display และ PWM Dimming 2160Hz เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานนานๆ ที่พิเศษยิ่งกว่านั้นคือการคอแลปกับ PUBG Mobile Thailand อย่างเป็นทางการ เพื่อมอบประสบการณ์เล่นเกมที่ลื่นไหล เฟรมเรทนิ่ง ภาพสีสวยสดสมจริง พร้อมการควบคุมที่แม่นยำ ตอบโจทย์ทั้งสายแข่งและสายเอ็นจอยเกมได้เต็มอรรถรส

ดีไซน์บาง เบา หรูหรา ทันสมัย

นอกจากสเปคที่แรงเต็มพิกัดแล้ว ดีไซน์ของ Infinix NOTE 50 Pro+ ก็สวยหรูไม่แพ้กัน ด้วยตัวเครื่องบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 209 กรัม ให้สัมผัสเบาสบายมือ ผสานกับตัวเลือกสีสุดพิเศษอย่าง สี Titanium Grey, สี Enchanted Purple และสี Racing Edition ที่มีลวดลายพิเศษสไตล์รถแข่ง เป็นตัวเลือกสำหรับสายแฟชั่นที่อยากถือสมาร์ทโฟนที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ ยังออกแบบขอบเครื่องแบบโค้งมนเพื่อการจับถือที่สบายขึ้น รองรับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

เสียงกระหึ่มเต็มอารมณ์จาก JBL และ Hi-Res Audio

เรื่องเสียงก็ถือเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะ Infinix จัดเต็มด้วยลำโพงคู่ Dual Speakers ที่ได้รับการปรับแต่งเสียงโดย JBL พร้อมรองรับ Hi-Res Audio ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ให้คุณดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรีคุณภาพสูง หรือสัมผัสเสียงระเบิดและเอฟเฟกต์ในเกมได้อย่างสมจริงเต็มพลัง นอกจากนี้ยังรองรับระบบเสียง DTS เพิ่มความกระหึ่มให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ก็ให้ประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มเกินราคา

ความทนทานระดับ IP64 พร้อมใช้ในทุกสถานการณ์

ถึงตัวเครื่องจะบางและดูพรีเมียม แต่ก็แฝงมาด้วยความแข็งแกร่งระดับ IP64 ที่สามารถกันฝุ่นละอองและละอองน้ำได้อย่างดี ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานจริง ไม่ต้องกลัวเมื่อเจอสถานการณ์ไม่คาดคิด เช่น ฝนตกหรือฝุ่นควัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมือถือที่สวยแต่ก็ต้องใช้งานได้จริงในทุกสภาพแวดล้อม

หน่วยความจำเร็วแรง UFS 4.0 และ RAM สูงสุด 24GB

เพื่อรองรับการใช้งานระดับโปร Infinix NOTE 50 Pro+ มาพร้อม RAM 12GB และสามารถขยาย Virtual RAM เพิ่มได้อีก 12GB รวมเป็น 24GB ใช้งานพร้อมกันหลายแอปได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องกลัวเครื่องช้า หรือสลับแอปแล้วโหลดใหม่ และยังมี ROM แบบ UFS 4.0 ความเร็วสูง รองรับการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ได้รวดเร็ว ไม่ว่าจะโหลดเกมขนาดใหญ่ ตัดต่อวิดีโอ หรือทำงานกราฟิก ก็สามารถทำได้แบบไม่ต้องรอเล็กๆน้อยๆ

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Infinix NOTE 50 Pro+ มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 163.36 x 74.53 x 7.99 มิลลิเมตร น้ำหนัก 209 กรัม มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 93.4% ความละเอียด FHD+ (2436 x 1080 พิกเซล) ขอบเขตสีกว้างแบบ 100% DCI-P3 พร้อมความสว่างสูงสุด 1,300nits รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz พร้อม Instant Touch Sampling Rate สูงสุด 2304Hz หน้าจอได้รับการออกแบบมาให้รองรับ Always-On Display และใช้เทคโนโลยี PWM Dimming ที่ 2,304Hz เพื่อถนอมสายตา ด้านบนของหน้าจอเป็นกล้องหน้าเจาะรูแบบ Punch-hole ความละเอียด 32MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 รอบตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย

• ด้านบนของตัวเครื่อง มีลำโพงเสียง พร้อมสัญลักษณ์ Sound By JBL ตรงกลาง ถัดมาเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และอินฟราเรดบลาสเตอร์ (IR Blaster) สำหรับควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
• ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีปุ่มสำหรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง
• ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอ, เปิด-ปิด หรือรีสตาร์ทเครื่อง
• ด้านล่างของตัวเครื่อง ด้านซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด รองรับ Dual Nano SIM, ถัดมาเป็นพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง, มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และขวาสุดเป็นลำโพงเสียง
• ด้านหลังของตัวเครื่อง จะพบกับโมดูลกล้องดีไซน์หกเหลี่ยมขนาดใหญ่ วางตำแหน่งในมุมซ้ายบนอย่างโดดเด่น มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS, กล้องเสริมอีก 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS เช่นกัน และกล้อง Ultra-wide 8MP พร้อมไฟแฟลช LED และไฟ Ha-lo ที่เป็นอีกหนึ่งไฮท์ไลต์ของรุ่นนี้

ราคาและการวางจำหน่าย

Infinix NOTE 50 Pro+ มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สี Titanium Grey, สี Enchanted Purple และสีพิเศษอย่างสี Racing Edition มาพร้อมความจุ 12 + 256GB วางจำหน่ายในราคา 13,999 บาท