www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 28 มิถุนายน 2568
OPPO ยังคงเดินหน้าเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้สมาร์ตโฟนยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นใหม่อย่าง OPPO Reno14 Series 5G และ OPPO Pad SE ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความหลากหลายทางไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสายถ่ายพอร์ตเทรตกลางคืน, สายเกมที่ต้องการความแรงแบบลื่นไหล หรือสายใช้งานแบบชิวๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ดูหนัง เล่นเกม หรือเรียนออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งวันนี้ทาง Siamphone จะมารีวิวของใหม่แกะกล่องทั้ง 3 รุ่นใน ได้แก่ OPPO Reno14 F 5G, OPPO Reno14 5G และ OPPO Pad SE โดยแต่ละรุ่นจะมีความต่างและจุดเด่นเฉพาะที่ชัดเจน มาพร้อมเทคโนโลยี AI ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ในแบบที่สัมผัสได้ทันทีตั้งแต่เริ่มใช้ รีวิวนี้จะพาไล่ดูทุกฟีเจอร์เด่นๆ ของแต่ละรุ่น เพื่อช่วยให้คุณเลือกรุ่นที่ใช่ในแบบที่ชอบได้ง่ายขึ้น
ถ่ายสวยแบบ Y2K ด้วย AI แฟลชอัจฉริยะ + AI แต่งภาพ
OPPO Reno14 F 5G ยกระดับการถ่ายพอร์ตเทรตไปอีกขั้นด้วยระบบแฟลชที่สว่างที่สุดในเรทราคาเดียวกัน โดยมาพร้อมไฟแฟลชคู่ทั้งกล้องหลักและกล้อง Ultra-Wide สามารถให้ความสว่างเพิ่มขึ้นถึง 100% ในระยะ 1 เมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เรียกได้ว่าเป็นระดับความสว่างที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนในขณะนี้ จุดเด่นของ OPPO Reno14 F 5G ยังอยู่ที่การถ่ายภาพกลางคืนได้คมชัด มีมิติ สกินโทนดูละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งไฟเสริมหรือแอปฯ แต่งรูปภายนอก
OPPO Reno14 5G มาพร้อมกล้องพอร์ตเทรตซูมได้ 3.5x หนึ่งเดียวในเรตราคาระดับกลาง สามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้อย่างคมชัด มีมิติ และโฟกัสได้แม่นยำในทุกระยะ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล พร้อมให้โบเก้ละลายฉากหลังสวยราวกับใช้กล้องโปร โดยให้ภาพที่ดูนุ่มนวลไม่หลอกตา เพราะเลนส์ Periscope นั้นสามารถเก็บระยะความลึกได้สมจริงยิ่งกว่าเลนส์ธรรมดา และมีแฟลชเฉพาะของตัวเองเพื่อให้แสงพุ่งตรงเข้าหน้าได้แม้ในมุมที่แฟลชทั่วไปไปไม่ถึง กล้องหลักและ Ultra-Wide ของ OPPO Reno14 5G ยังติดตั้งระบบแฟลชที่สว่างขึ้นกว่าเดิมถึง 100% ในระยะ 1 เมตร และแฟลชของกล้อง Telephoto สามารถยิงสว่างได้มากขึ้นถึง 1,000% ในระยะ 2 เมตร ซึ่งถือว่าสูงสุดในระดับอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนเวลานี้
ทั้ง OPPO Reno14 F 5G และ OPPO Reno14 5G มาพร้อมระบบ AI แก้ไขภาพอัจฉริยะ 2.0 ที่ช่วยยกระดับการถ่ายภาพให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นแบบอัตโนมัติ ตั้งแต่ฟีเจอร์ AI Recompose ที่จัดเฟรมภาพและองค์ประกอบให้น่าสนใจมากขึ้น, AI ปรับใบหน้าอัตโนมัติ เพื่อให้สกินโทนเนียนละมุนดูเป็นธรรมชาติ, ไปจนถึง AI Eraser 2.0 ที่ลบคน วัตถุ หรือเงาสะท้อนที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังมี AI Unblur สำหรับคืนความชัดให้กับภาพที่หลุดโฟกัส รวมถึงรองรับ AI LivePhoto 2.0 ที่สามารถเก็บภาพเคลื่อนไหวสั้น ๆ พร้อมแชร์ลง Instagram ได้ทันที โดยทุกฟีเจอร์นี้ถูกรวมอยู่ในแอปกล้องหลักของเครื่อง ไม่ต้องโหลดเพิ่ม ใช้งานง่ายทั้งสำหรับมือใหม่และสายคอนเทนต์
ดีไซน์บาง เบา ลวดลายหางปลาโดดเด่นทุกมิติ
ทั้ง OPPO Reno14 F 5G และ OPPO Reno14 5G มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นในแบบของตัวเอง โดยยังคงคอนเซปต์ลวดลาย “หางปลาพลิ้วไหว” ที่เปล่งแสงแวววาวบนฝาหลัง ผ่านกระบวนการเคลือบถึง 12 ชั้นอย่างประณีต แต่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างชัดเจนเมื่อสัมผัส โดย OPPO Reno14 F 5G ใช้พื้นผิวแบบมันเงา (Glossy) ที่สะท้อนแสงระยิบระยับ ให้ความรู้สึกสนุก สดใส เหมาะกับสายแฟชั่นหรือผู้ที่ชอบสมาร์ตโฟนที่สวยเด่น
ส่วน OPPO Reno14 5G ใช้ฝาหลังกระจกกํามะหยี่แบบด้าน (Silky Glass) ที่ให้สัมผัสนุ่มมือและไม่เก็บรอยนิ้ว พร้อมขอบตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมเกรดอวกาศ ที่แข็งแรงกว่าพลาสติกเดิมถึง 36% เสริมด้วยโครงสร้าง Bionic Foam สำหรับดูดซับแรงตกกระแทก
OPPO Reno14 F 5G บางเพียง 7.69 มม. และเบาเพียง 180 กรัม ในขณะที่ OPPO Reno14 5G มีความบางอยู่ที่ 7.42 มม. และน้ำหนัก 187 กรัม ซึ่งถือว่าบางกว่า OPPO Reno14 F 5G เล็กน้อย ทั้ง 2 รุ่นถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่บางเบาแม้จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000mAh
สำหรับ OPPO Reno14 F 5G มีมาให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่
ส่วน OPPO Reno14 5G จะมีมาให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 สี ได้แก่
ระบบระบายความร้อน AI ช่วยควบคุมอุณหภูมิระหว่างเกม
ทั้ง OPPO Reno14 F 5G และ OPPO Reno14 5G มาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ AI ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ โดย OPPO Reno14 F 5G ใช้ AI Ultra-thin Dual-Drive Cooling System ที่ช่วยให้เครื่องบางแต่ยังระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วน OPPO Reno14 5G ใช้วัสดุนำความร้อนขั้นสูง เช่น กราไฟต์เกรดอวกาศและ Vapor Chamber แบบพิเศษ ผสานกับระบบ AI Nano Dual-Drive Cooling ช่วยคงอุณหภูมิให้นิ่งแม้เล่นเกมนานในที่อากาศร้อน
เชื่อมต่อไหลลื่นแม้สัญญาณอับด้วย AI LinkBoost
การเล่นเกมจะไม่สะดุดแม้อยู่ในที่ที่สัญญาณอับหรือสัญญาณแออัด เพราะทั้ง 2 รุ่นมาพร้อม AI HyperBoost 2.0 ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของเฟรมเรต และยังเสริมด้วย AI LinkBoost 3.0 ที่ช่วยเพิ่มความแรงและความนิ่งของสัญญาณเครือข่ายในแบบเรียลไทม์ โดย OPPO Reno14 5G ยังมี AI Frame Booster สำหรับสร้างเฟรมระหว่างภาพให้การแสดงผลนุ่มนวล และ AI Game Highlights ที่บันทึกช่วงเวลาสำคัญในเกมได้อัตโนมัติ เหมาะกับทั้งสายเล่นและสายแชร์
แบตอึดจัดเต็ม พร้อมชาร์จไวแบบไม่ต้องรอนาน
OPPO Reno14 F 5G และ OPPO Reno14 5G ให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000mAh ที่รองรับการเล่นเกมได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 10 ชั่วโมงต่อรอบ โดย OPPO Reno14 F 5G รองรับชาร์จไว 45W SUPERVOOC ที่ใช้เวลาสั้นพอสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ส่วน OPPO Reno14 5G จัดเต็มกว่า ด้วย 80W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จเต็มใน 48 นาที และเพียงแค่ 10 นาทีแรกก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปหลายชั่วโมง ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเล่นเกมหรือใช้งานหนักแค่ไหน ก็ไม่ต้องคอยเสียบสายบ่อย
ColorOS x Gemini ระบบปฏิบัติการฉลาด ลื่นไหล ทำงานได้มากขึ้นในเวลาน้อยลง
OPPO Reno14 F 5G และ OPPO Reno14 5G มาพร้อม ColorOS 15.0.2 ที่ลื่นขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน โดยใช้เอนจินใหม่อย่าง Trinity Engine และ Luminous Rendering Engine ที่ช่วยให้แอนิเมชันและการเปิดแอปลื่นไหล ไม่สะดุด ที่พิเศษคือทั้งสองรุ่นรองรับการทำงานร่วมกับ Google Gemini AI Assistant ที่ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้นในระดับใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้สรุปบทสนทนา ประชุม จดโน้ต หรือแปลภาษาได้ทั้งจากเสียงและภาพถ่ายผ่าน Google Lens
AI Super Tool Box เครื่องมืออัจฉริยะที่พร้อมช่วยให้ทำงานได้ไวขึ้นทุกวัน
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทั้ง 2 รุ่นมีเหมือนกันคือ AI Super Tool Box ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันที่จำเป็นได้จากขอบจอแบบรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเครื่องคิดเลข, กล้อง, การจับภาพหน้าจอ, การเปิดแอปฯ คู่ หรือการบันทึกเสียง ทุกอย่างสามารถทำได้แบบ Multitasking โดยไม่ต้องออกจากแอปฯ หลักที่ใช้อยู่ ระบบนี้ช่วยให้การทำงานในชีวิตประจำวันไวขึ้น เหมาะกับผู้ใช้ที่ชอบความคล่องตัว โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา หรือสายทำงานที่ต้องใช้สมาร์ตโฟนเป็นเครื่องมือ Productivity หลัก ไม่ว่าจะใช้รุ่นไหนก็ได้ฟีเจอร์นี้ครบเหมือนกัน
สเปคเบื้องต้นของ OPPO Reno14 F 5G
สเปคเบื้องต้นของ OPPO Reno14 5G
OPPO Pad SE เชื่อมอุปกรณ์ได้ข้ามระบบ พร้อมแบตอึด จอถนอมสายตาเต็มอิ่มทุกมุมมอง
สำหรับใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตไว้ใช้คู่กับสมาร์ตโฟนในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเพื่อเรียน ทำงาน หรือดูซีรีส์ OPPO Pad SE ถือเป็นตัวเลือกที่ครบจบในงบไม่ถึงหมื่น ใช้งานง่าย เชื่อมต่อกับอุปกรณ์รอบตัวได้ลื่นไหล และมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดในราคาระดับเดียวกันอยู่ได้นานตลอดวัน เหมาะมากสำหรับใครที่อยากได้ความสะดวกแบบมืออาชีพโดยไม่ต้องวุ่นวายกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อน
OPPO Pad SE มาพร้อมหน้าจอขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 1920 × 1200 พิกเซล บนพาเนล LCD ที่แสดงผลได้คมชัดและสบายตา รองรับอัตรารีเฟรชเรต 90Hz และการรับรองถนอมสายตาจาก TÜV Rheinland ทั้ง Low Blue Light และ Flicker-Free ช่วยให้ใช้งานได้นานโดยไม่ล้าตา พร้อมลำโพง 4 ตัวรองรับ Dolby Atmos ให้เสียงกระหึ่มรอบทิศ ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม หรือประชุมผ่านวิดีโอคอล
ในด้านการเชื่อมต่อ OPPO Pad SE รองรับการทำงานแบบไร้รอยต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านฟีเจอร์อย่าง O+ Connect ที่ช่วยให้การแชร์ไฟล์ รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอจากสมาร์ตโฟน OPPO ไปยังแท็บเล็ตทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพึ่งแอปฯ ภายนอก และยังสามารถใช้งานฟีเจอร์อย่าง Communication Sharing, Screen Mirroring และ Drag-and-drop Files เพื่อแสดงหน้าจอมือถือบนแท็บเล็ต หรือรับสาย-ส่งข้อความข้ามอุปกรณ์ได้ราวกับใช้ระบบเดียวกัน ทำให้การทำงานเป็นเรื่องง่าย แม้ใช้อุปกรณ์หลายชิ้นร่วมกัน
ด้านประสิทธิภาพ OPPO Pad SE ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 (6nm) พร้อม RAM ขนาด 6GB และความจุภายใน 128GB รองรับ microSD เพิ่มได้สูงสุดถึง 1TB ใช้งานทั่วไปลื่นไหลไม่สะดุด รองรับการเรียน ประชุม เล่นโซเชียล หรือใช้แอปฯ พร้อมกันได้สบาย พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 9,340mAh ที่รองรับการชาร์จไว 33W SUPERVOOC ใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องพกที่ชาร์จให้หนักกระเป๋า และด้วยความสามารถในการใส่ซิม LTE ทำให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ ไม่ต้องง้อ Wi-Fi อีกต่อไป
OPPO Pad SE มาพร้อมกันสองรุ่น ได้แก่ รุ่น WiFi และรุ่น LTE ในรุ่น Wi-Fi มาพร้อม 2 สีดูดีมีสไตล์ คือ สีเงิน Starlight Silver และสีน้ำเงิน Twilight Blue ในขณะเดียวกันสำหรับในรุ่น LTE โดดเด่นในสีเงิน Starlight Silver
สเปคเบื้องต้นของ OPPO Pad SE
ส่วน OPPO Reno14 5G มีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 157.90 × 74.73 × 7.42 มม. (สี Opal White) และ 157.90 × 74.73 × 7.42 มม. (สี Luminous Green) น้ำหนัก 187 กรัม มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.59 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1256 × 2760 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรซเรทสูงสุด 120Hz
ด้านบนของหน้าจอทั้ง 2 รุ่น เป็นกล้องหน้าเจาะรูแบบ Punch-hole โดย OPPO Reno14 F 5G มีความละเอียด 32MP พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.0 ส่วน OPPO Reno14 5G มีความละเอียด 50MP พร้อมรูรับแสง f/2.0 เหนือขึ้นไปบริเวณขอบจอเป็นลำโพงเสียง รอบตัวเครื่องของทั้ง 2 รุ่น ประกอบไปด้วย
OPPO Pad SE มีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 254.91 x 166.46 x 7.39 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 530 กรัม หน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ถึง 11 นิ้ว บางเพียง 7.39 นิ้ว ถือว่ามีความบางและมีน้ำหนักที่กำลังดี ทำให้พกพาสะดวก ตัวเครื่องจับแล้วรู้สึกถึงวัสดุที่มีความพรีเมียมและทนทานสูง ถือจับถนัดมือ โดยกล้องหน้าความละเอียด 5MP วางในตำแหน่งแนวนอน รอบเครื่องประกอบไปด้วย
ราคาและการวางจำหน่าย
OPPO Reno14 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Opal White และสีเขียว Luminous Green ราคาและความจุดังนี้
OPPO Reno14 F 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีชมพู Glossy Pink สีฟ้า Opal Blue สีเขียว Luminous Green ราคาและความจุดังนี้
OPPO Reno14 Pro มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว Opal White และสีเทา Titanium Grey มาพร้อมความจุ 12GB + 512GB วางจำหน่ายในราคา 24,999 บาท
OPPO Pad SE มาพร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น WiFi และรุ่น LTE
ในรุ่น Wi-Fi มาพร้อม 2 สีดูดีมีสไตล์ คือ สีเงิน Starlight Silver และสีน้ำเงิน Twilight Blue วางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท สำหรับในรุ่น LTE โดดเด่นในสีเงิน Starlight Silver วางจำหน่ายในราคา 6,999 บาท
วันที่ : 28 มิถุนายน 2568
Infinix Hot 60i เปิดตัวแล้ว จอ 120Hz ชิปฯ แรง กล้อง 50MP ในราคาที่ต้องว้าว8 ชั่วโมงที่แล้ว
JBL Endurance Zone หูฟัง Open-Ear ตัวท็อปสำหรับคนแอคทีฟ ไม่ต้องใส่เข้าไปในหู เบสก็กระหึ่ม แถมกันน้ำระดับสุดยอด14 ชั่วโมงที่แล้ว
ยุคใหม่ของความคมชัด HDMI 2.2 เปิดตัว ปูทางสู่จอภาพ 16K16 ชั่วโมงที่แล้ว
JBL Tune Beam 2 มาแล้ว หูฟัง TWS เบสแน่น ANC เจ๋ง แบตฯ อึด ที่คนรักเสียงเบสต้องลอง18 ชั่วโมงที่แล้ว
หลุดสเปค Nothing Headphone (1) ก่อนเปิดตัว แบตอึด 80 ชม. จูนเสียงโดย KEF22 ชั่วโมงที่แล้ว
OPPO Reno14 F ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 6000mAh
OPPO K13x สมาร์ทโฟนพันธุ์แกร่งเกรดกองทัพ กันน้ำ IP65 จอ 120Hz ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้
พรีวิว OPPO Reno14 Series 5G พบกับประสบการณ์ The AI Portrait Expert ที่เหนือกว่า
OPPO Reno14 และ OPPO Reno14 Pro เปิดตัวที่ไต้หวัน คาดเป็นสเปคเดียวกับที่เตรียมขายในไทย
เตรียมเปิดตัว OPPO Reno14 Series 5G สมาร์ทโฟน AI รุ่นล่าสุด พร้อมอัปเกรดการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ล้ำ...
OPPO A5 Pro 5G และ OPPO A5 Pro สมาร์ทโฟนสายทนทาน ราคาใหม่เริ่มต้น 5,4xx
Samsung Galaxy Z Fold 7 และ Galaxy Z Flip 7 ประกาศวันเปิดตัว เตรียมพบกับประสบการณ์พับแบบ Ultra
HUAWEI WATCH 5 กับ Multi-sensing X-TAP Technology นวัตกรรมตรวจสุขภาพรอบด้านด้วยปลายนิ้ว
JBL Tune Beam 2 มาแล้ว หูฟัง TWS เบสแน่น ANC เจ๋ง แบตฯ อึด ที่คนรักเสียงเบสต้องลอง
HONOR 400 Series บุกไทย 3 รุ่นรวด ลุ้น Lucky Fans ในงาน HONOR 400 Series x Engfa Fan Meeting
TECNO Spark Go 2 หน้าจอ 6.67 นิ้ว 120Hz กันน้ำกันฝุ่น IP64 แบตฯ 5000mAh