www.siamphone.com

ข่าว

สุดยอดสมาร์ตโฟนถ่ายวิดีโอดีที่สุดสำหรับสาย YouTuber ประจำเดือนกรกฎาคม 2025

สมาร์ทโฟน (Smartphone)   |   วันที่ : 26 กรกฎาคม 2568

ในเดือนกรกฎาคม 2025 ตลาดสมาร์ตโฟนเรือธงมีการแข่งขันที่ดุเดือด แต่ละค่ายต่างชูจุดเด่นด้านกล้องวิดีโอออกมาอย่างเต็มที่ สำหรับงานของ YouTuber หรือ Content Creator คุณภาพไฟล์ที่ดีเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ยังต้องพิจารณาถึงความเสถียร, สีสัน, ระบบเสียง, โหมดการทำงานระดับโปร และความสะดวกในการจัดการไฟล์ ซึ่ง 4 รุ่นที่คัดเลือกมานี้ ถือว่ามีคุณสมบัติตอบโจทย์การใช้งานที่รอบด้านที่สุด

1. Apple iPhone 16 Pro Max: ราชาแห่ง Ecosystem ที่ไว้ใจได้เสมอ

iPhone 16 Pro Max ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของกลุ่มครีเอเตอร์ ด้วยจุดเด่นด้านความเสถียรและสีสันของวิดีโอที่มีความเป็นธรรมชาติสูง ทำให้สามารถจบงานหลังกล้องได้ง่าย

สเปคกล้องและความจุ:

  • วิดีโอ:
    • ProRes LOG สูงสุด 4K ที่ 60fps (เมื่อบันทึกไปยังไดรฟ์ภายนอก)
    • Cinematic Mode สูงสุด 4K HDR ที่ 30fps
    • มาตรฐาน: 4K (24/25/30/60fps), 1080p (25/30/60fps)
    • Slo-motion: 1080p สูงสุด 240fps
  • ภาพนิ่ง:
    • กล้องหลัก: 48MP
    • อัลตร้าไวด์: 48MP
    • เทเลโฟโต้ (5x): 12MP

คุณสมบัติเด่นสำหรับงานวิดีโอ:

  • ProRes LOG: โหมดถ่ายวิดีโอที่ให้ Dynamic Range กว้าง เหมาะสำหรับการนำไปปรับแต่งสีในโปรแกรมตัดต่อระดับโปร เช่น Final Cut Pro หรือ DaVinci Resolve
  • Capture Button: ปุ่มฮาร์ดแวร์ที่เพิ่มเข้ามาช่วยให้การควบคุมกล้อง ทั้งการซูม โฟกัส และการบันทึก ทำได้สะดวกและรวดเร็ว
  • Ecosystem ที่ไร้รอยต่อ: ความได้เปรียบในการส่งไฟล์ความละเอียดสูงผ่าน AirDrop ไปยังอุปกรณ์ Apple อื่นๆ เพื่อการตัดต่อที่ลื่นไหล
  • เหมาะสำหรับ: คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ใช้ Ecosystem ของ Apple, Vlogger ที่เน้นความรวดเร็วในการผลิต และผู้ที่ต้องการไฟล์วิดีโอคุณภาพสูงที่พร้อมใช้งาน

การที่ Apple ใส่ ProRes LOG และ Capture Button เข้ามา เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า iPhone 16 Pro Max ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองตลาด Prosumer (Professional Consumer) อย่างจริงจัง

ช่องทางการสั่งซื้อ

2. Samsung Galaxy S25 Ultra: จอมยุทธ์สารพัดนึก ถ่ายได้ทุกสถานการณ์

Galaxy S25 Ultra เป็นสมาร์ตโฟนในฝั่ง Android ที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด ด้วยความสามารถด้านการซูมและโหมด Pro Video ที่ให้อิสระในการปรับแต่งอย่างละเอียด

สเปคกล้องและความจุ:

  • วิดีโอ:
    • สูงสุด 8K ที่ 30fps
    • มาตรฐาน: 4K (30/60/120fps), 1080p (30/60/120fps)
    • Pro Video Mode: ควบคุมค่าต่างๆ ได้แบบ Manual
  • ภาพนิ่ง:
    • กล้องหลัก: 200MP
    • อัลตร้าไวด์: 50MP
    • เทเลโฟโต้ (3x): 10MP
    • เทเลโฟโต้ (5x): 50MP

คุณสมบัติเด่นสำหรับงานวิดีโอ:

  • พลังการซูม: คุณภาพวิดีโอจากเลนส์ Telephoto ยังคงเป็นจุดแข็ง ช่วยสร้างมิติการเล่าเรื่องที่แตกต่างจากคู่แข่ง
  • Pro Video Mode: โหมดที่อนุญาตให้ปรับค่า Manual ได้ครบถ้วน ทั้ง ISO, Shutter Speed, White Balance และ Manual Focus รวมถึงสามารถกำหนดทิศทางการรับเสียงของไมโครโฟนได้
  • การบันทึกวิดีโอ 8K: ให้ความยืดหยุ่นสูงในการนำไฟล์ไป Crop หรือ Re-frame ในงานตัดต่อความละเอียด 4K โดยไม่สูญเสียคุณภาพ
  • เหมาะสำหรับ: ครีเอเตอร์สายเทคโนโลยี, นักรีวิวที่ต้องการความหลากหลายของเลนส์ และการผลิตคอนเทนต์ที่ต้องใช้พลังการซูม

จุดเด่นเพิ่มเติม: S Pen สามารถใช้เป็นรีโมทชัตเตอร์แบบไร้สาย สำหรับการเริ่ม-หยุดถ่ายวิดีโอ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับครีเอเตอร์ที่ทำงานคนเดียวและต้องการความสะดวกในการจัดเฟรมภาพ

ช่องทางการสั่งซื้อ

รุ่นความจุ 12GB + 512GB

รุ่นความจุ 12GB + 1TB

3. Sony Xperia 1 VII: จิตวิญญาณกล้อง Alpha ในร่างสมาร์ตโฟน

Xperia 1 VII ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานระดับมืออาชีพที่ต้องการควบคุมการทำงานทุกอย่างด้วยตนเอง โดยยกฟีเจอร์และเมนูมาจากแผนกกล้อง Sony Alpha โดยตรง

สเปคกล้องและความจุ:

  • วิดีโอ:
    • สูงสุด 4K HDR ที่ 120fps (ทุกเลนส์)
    • แอปฯ Cinema Pro & Video Pro: รองรับ S-Cinetone และการตั้งค่าแบบมืออาชีพ
    • รองรับการ Live Stream โดยตรงจากแอปฯ
  • ภาพนิ่ง:
    • กล้องหลัก: 48MP (เซนเซอร์ Exmor T ขนาดใหญ่)
    • อัลตร้าไวด์: 48MP
    • เทเลโฟโต้ (ซูมต่อเนื่อง 3.5x - 7.1x): 12MP

คุณสมบัติเด่นสำหรับงานวิดีโอ:

  • แอป Video Pro & Cinema Pro: นำเสนอการควบคุมระดับกล้องถ่ายภาพยนตร์ เช่น การเลือกใช้เฟรมเรตมาตรฐาน, Color Profile (S-Cinetone) และเครื่องมือในการทำ Focus Pulling
  • คุณภาพฮาร์ดแวร์: การใช้เซนเซอร์กล้องขนาดใหญ่และเลนส์เคลือบสาร Zeiss T* ให้ผลลัพธ์ของภาพที่มีความคมชัดและมีมิติ
  • การออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้: การมีอยู่ของช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และปุ่มชัตเตอร์แบบสองจังหวะ เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับสายวิดีโอที่ต้องการต่ออุปกรณ์เสริมและควบคุมกล้องได้ถนัดมือ
  • เหมาะสำหรับ: Videographer, ผู้กำกับ และครีเอเตอร์ที่มีความรู้ด้านการถ่ายภาพยนตร์ และต้องการสร้างสรรค์ฟุตเทจที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

4. Google Pixel 9 Pro: อัจฉริยะด้านซอฟต์แวร์ พลัง AI เพื่อวิดีโอ

จุดแข็งที่สุดของ Pixel 9 Pro คือ Computational Video หรือการใช้ AI เข้ามาช่วยประมวลผลวิดีโอให้มีคุณภาพสูงและแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด

สเปคกล้องและความจุ:

  • วิดีโอ:
    • สูงสุด 8K ที่ 30fps (ขับเคลื่อนด้วย Video Boost)
    • มาตรฐาน: 4K (24/30/60fps), 1080p (24/30/60fps)
    • ฟีเจอร์ AI: Video Boost, Audio Magic Eraser
  • ภาพนิ่ง:
    • กล้องหลัก: 50MP
    • อัลตร้าไวด์: 48MP
    • เทเลโฟโต้ (5x): 48MP

คุณสมบัติเด่นสำหรับงานวิดีโอ:

  • Video Boost & Night Sight Video: ฟีเจอร์ที่ใช้ Cloud Processing ของ Google ในการปรับปรุงคุณภาพวิดีโอ ทั้งด้านสีสัน, Dynamic Range และการลด Noise ในที่แสงน้อย
  • Audio Magic Eraser: เครื่องมือ AI ที่สามารถวิเคราะห์และลบเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการออกจากวิดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับการถ่ายทำนอกสถานที่
  • ความเรียบง่าย: ให้ผลลัพธ์ของวิดีโอที่ดีได้โดยไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน ปล่อยให้การประมวลผลของ AI เป็นผู้ช่วยหลัก
  • เหมาะสำหรับ: YouTuber สายไลฟ์สไตล์, Vlogger ที่เน้นความสมจริงของสถานการณ์ และผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว

สมาร์ตโฟนแต่ละรุ่นมีจุดเด่นและคาแรกเตอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานแตกต่างกันไป iPhone 16 Pro Max โดดเด่นด้าน Ecosystem และไฟล์ที่พร้อมใช้งาน, Galaxy S25 Ultra มอบความยืดหยุ่นด้วยพลังการซูมและโหมดโปร, Xperia 1 VII คือเครื่องมือสำหรับมืออาชีพที่ต้องการการควบคุมเชิงลึก และ Pixel 9 Pro ใช้พลังของ AI มายกระดับงานวิดีโอ การเลือกรุ่นที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงานและผลลัพธ์ที่ครีเอเตอร์แต่ละคนต้องการ

วันที่ : 26 กรกฎาคม 2568

87
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version