www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 22 ตุลาคม 2568
การเปิดตัว iPhone 17 ในปีนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ไม่ใช่ในฐานะการอัปเกรดตามรอบปกติ แต่เป็นการทลายกำแพงระหว่างรุ่นมาตรฐานและรุ่นโปรลงอย่างสิ้นเชิง การนำคุณสมบัติระดับสูงที่เคยจำกัดอยู่แค่ในรุ่นท็อป มาใส่ไว้ในโมเดลหลักสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจาก Apple ว่านี่คือมาตรฐานใหม่ของสมาร์ตโฟนเรือธงที่ทุกคนควรได้รับ ประสบการณ์ใช้งานจริงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่า iPhone 17 เป็นมากกว่าแค่การปรับโฉมเล็กน้อย แต่มันคือการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อการใช้งานในทุกมิติ
iPhone 17 ได้รับการยกระดับคุณสมบัติครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยมีมาในไลน์ผลิตภัณฑ์รุ่นมาตรฐาน โดยมีไฮไลท์สำคัญที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน
ชิปเซ็ต A19 สถาปัตยกรรมใหม่: หัวใจหลักคือชิปฯ A19 ที่แม้จะไม่ใช่รุ่น Pro แต่ก็มาพร้อม GPU แบบ 5-core และความสามารถในการประมวลผล Ray Tracing ที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์โดยตรง ส่งผลให้ประสิทธิภาพด้านกราฟิกและการเล่นเกมทำได้อย่างน่าทึ่ง ลื่นไหลและสมจริงยิ่งกว่าที่เคย
จอภาพ ProMotion ในรุ่นมาตรฐาน: นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด การมาถึงของจอภาพ Super Retina XDR พร้อมเทคโนโลยี ProMotion อัตรารีเฟรช 120Hz และฟีเจอร์ Always-On Display ทำให้ประสบการณ์การใช้งานในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการไถฟีดโซเชียล การอ่านบทความ หรือการสลับแอปพลิเคชัน มีความลื่นไหล เนียนตา และตอบสนองได้ฉับไวกว่าเดิมอย่างรู้สึกได้ เป็นคุณสมบัติที่เมื่อได้ลองแล้วยากที่จะกลับไปใช้จอภาพแบบเดิม
ระบบกล้องคู่ Dual Fusion 48MP: Apple ได้อัปเกรดระบบกล้องหลังทั้งหมด โดยใช้เซ็นเซอร์หลักความละเอียดสูงถึง 48MP ควบคู่กับเลนส์อัลตร้าไวด์ ไม่เพียงแต่ให้ภาพถ่ายที่มีรายละเอียดคมชัดสูงเท่านั้น แต่ยังปลดล็อกความสามารถในการถ่ายภาพมาโครเป็นครั้งแรกในรุ่นมาตรฐาน ช่วยให้เก็บรายละเอียดในระยะใกล้ได้อย่างน่ามหัศจรรย์
Apple Intelligence ที่ผสานเป็นหนึ่งเดียว: ตัวเครื่องถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับ Apple Intelligence อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพียงส่วนเสริม แต่เป็นแกนหลักของประสบการณ์ใช้งาน ตั้งแต่การจัดการข้อมูล การแก้ไขภาพถ่าย ไปจนถึงการโต้ตอบที่ชาญฉลาดและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
Camera Control ฟีเจอร์ใหม่แกะกล่อง: ซอฟต์แวร์กล้องได้รับการเพิ่มฟังก์ชัน "Camera Control" ซึ่งมอบการควบคุมการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างละเอียดและรวดเร็วยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายภาพมากกว่าแค่การเล็งแล้วถ่าย
สัมผัสแรกกับ iPhone 17 ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยแต่ก็แฝงไปด้วยความเปลี่ยนแปลงในรายละเอียด งานประกอบยังคงยอดเยี่ยมตามมาตรฐาน Apple ตัวเครื่องเป็นการผสมผสานวัสดุระดับพรีเมียม โดยใช้เฟรมอะลูมิเนียมขัดด้านให้สัมผัสที่ดีและไม่ลื่นมือ ประกบคู่กับกระจก Ceramic Shield ที่ด้านหน้าเพื่อความทนทานต่อรอยขีดข่วนและการตกกระแทก ส่วนด้านหลังเป็นกระจกที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ขอบเครื่องยังคงเป็นดีไซน์แบบเหลี่ยม แต่มีการลบมุมให้โค้งมนขึ้นเล็กน้อย ทำให้การจับถือใช้งานเป็นเวลานานสบายมือกว่ารุ่นก่อนหน้า
เมื่อมองมาที่ด้านหน้า จะพบกับจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.3 นิ้ว ที่มีขอบจอบางเฉียบ ทำให้พื้นที่แสดงผลดูเต็มตาและสมจริง ส่วนบนของจอภาพเป็นที่อยู่ของ Dynamic Island ซึ่งผสานรวมกล้องหน้าและเซ็นเซอร์ต่างๆ ไว้อย่างแนบเนียน ไม่ใช่แค่การซ่อนฮาร์ดแวร์ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของอินเทอร์เฟซที่แสดงการแจ้งเตือนและกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีชีวิตชีวา
การจัดวางปุ่มและพอร์ตต่างๆ รอบตัวเครื่องได้รับการปรับปรุงเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวขึ้น ทางซ้ายตัวเครื่อง บนสุดเป็นปุ่ม Action ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และล่างสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ NanoSIM ทางขวาตัวเครื่อง จะพบกับปุ่มเพาเวอร์ และด้านล่างเป็น Camera Control ส่วนด้านบนตัวเครื่อง ไม่มีปุ่ม และพอร์ตการใช้งานใดๆ และด้านใต้ตัวเครื่อง ทางซ้าย และขวาเป็นลำโพงเสียง พร้อมไมโครโฟน และตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ซึ่งแม้จะจำกัดความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลไว้ที่มาตรฐาน USB 2 แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเพิ่มความสะดวกในการใช้อุปกรณ์เสริมร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ
ปุ่ม Action ที่เคยมีเฉพาะในรุ่น Pro ได้กลายมาเป็นมาตรฐานใน iPhone 17 ซึ่งสามารถปรับแต่งเพื่อเรียกใช้งานฟังก์ชันด่วนต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
โมดูลกล้องหลังยังคงเป็นดีไซน์ทรงแคปซูลแนวตั้งที่ดูทันสมัยและเรียบง่าย ซึ่งล้อมรอบเลนส์ทั้งสองตัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนถึงการใช้ชุดเซ็นเซอร์และเลนส์ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่
สเปคเบื้องต้นของ iPhone 17
การทำงานของ iPhone 17 ถูกขับเคลื่อนด้วยชิปฯ A19 และจอภาพ ProMotion ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานที่วัดผลได้
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ (Benchmark Results)
จากการทดสอบด้วยโปรแกรมมาตรฐาน พบว่าชิปฯ A19 ให้คะแนนประสิทธิภาพ CPU แบบ Single-Core และ Multi-Core ที่สูงกว่าชิปฯ A18 ในรุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนประสิทธิภาพ GPU ที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 5-core ก็แสดงผลลัพธ์ที่โดดเด่นในการประมวลผลกราฟิกและการเล่นเกมที่เฟรมเรตสูงอย่างมีเสถียรภาพ
การตอบสนองของจอภาพ (Display Latency & Touch)
หน้าจอ ProMotion 120Hz ไม่เพียงแต่ให้ภาพที่ลื่นไหล แต่ยังลดความหน่วงในการตอบสนองต่อการสัมผัส (Touch Latency) ลงอย่างชัดเจน ทำให้ทุกการปัดและแตะรู้สึกทันทีทันใด การทดสอบ Multi-touch รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 10 จุดได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องใช้การควบคุมที่ซับซ้อน
การใช้งานซอฟต์แวร์และ iOS
การทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชันล่าสุดเป็นไปอย่างราบรื่นไร้ที่ติ การผสานรวมของ Apple Intelligence เข้ากับระบบ ทำให้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การสรุปข้อความ, การถอดเสียง หรือการค้นหาข้อมูลอัจฉริยะ ทำงานได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ Dynamic Island ยังคงทำหน้าที่แสดงผลการแจ้งเตือนและกิจกรรมเบื้องหลังได้อย่างยอดเยี่ยม และเมื่อรวมกับจอภาพ Always-On ก็ทำให้การเหลือบมองข้อมูลสำคัญทำได้โดยไม่ต้องปลุกหน้าจอ
สรุปและราคา
iPhone 17 คือการก้าวกระโดดครั้งสำคัญสำหรับสมาร์ตโฟนรุ่นมาตรฐานของ Apple การนำฟีเจอร์ระดับโปรอย่างจอภาพ ProMotion, Always-On Display และกล้อง 48MP มาใส่ไว้ในรุ่นนี้ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่ต้องการประสบการณ์ระดับพรีเมียมโดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเพิ่มเพื่อรุ่น Pro
แม้ว่าดีไซน์ภายนอกอาจดูเป็นการปรับปรุงเล็กน้อย แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายใน ตั้งแต่ชิปเซ็ตที่ทรงพลัง, จอภาพที่เหนือชั้น ไปจนถึงระบบกล้องที่ยืดหยุ่นขึ้น ทำให้ iPhone 17 เป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนที่สมบูรณ์แบบที่สุดในตลาด ณ เวลานี้
ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 29,900 บาท ถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงคุณสมบัติที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นมาเทียบเท่ารุ่นโปรในปีก่อนๆ นี่คือสมาร์ตโฟนสำหรับคนที่ต้องการประสิทธิภาพ ความลื่นไหล และกล้องที่ยอดเยี่ยมในแพ็กเกจที่คุ้นเคยและเชื่อถือได้ เป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าอย่างไม่ต้องสงสัย
วันที่ : 22 ตุลาคม 2568
ทรูเปิดตัว “เบอร์พลังดาว” ปรากฏการณ์ใหม่ของเบอร์มงคลยุคดิจิทัล ผนึกกำลัง อ.สมเจตน์15 ชั่วโมงที่แล้ว
Sonos เปิดตัว Roam 2 สี Seasonal Limited ในประเทศไทย พร้อมโปรโมชั่น Black Friday25 พ.ย. 68 07:00
OPPO Find X9 Series เปิดตัวสีใหม่ Velvet Red ต้อนรับเทศกาลสุดเฟสทีฟ เพิ่มความสดใสและพรีเมียมทุกมุมมอง24 พ.ย. 68 15:00
พรีวิวแกะกล่อง OPPO Find X9 Series สีใหม่ “สีแดง Velvet Red” แดงรับปีใหม่ เพิ่มความสดใสให้ทุกเทศกาล24 พ.ย. 68 13:45
realme C85 Series 5G สมาร์ตโฟนสายอึด แบต 7000mAh ใหญ่สุดในเซกเมนต์ กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP69 Pro24 พ.ย. 68 07:00
รีวิว iPhone Air สัมผัสใหม่ของ iPhone ที่เบากว่าเดิมแต่ยังทรงพลังไม่แพ้รุ่นโปร
รีวิว iPhone 17 Pro Max พี่ใหญ่ยังตึงเหมือนเดิม ครบเครื่องด้วย A19 Pro กล้องถ่ายรูปอัปเกรดทั้งหน้...
รีวิว iPhone 17 Pro ปรับมาใช้อะลูมิเนียมบอกลาความร้อนสะสม พร้อมชิป A19 Pro ทั้งเร็วทั้งประหยัดพลั...
พรีวิว iPhone 17 Pro Max การกลับมาของอะลูมิเนียม และปรับโฉมโมดูลกล้องเป็นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
พรีวิว iPhone 17 หน้าจอใหญ่ขึ้น 6.3 นิ้ว แข็งแกร่งกว่าเดิมด้วย Ceramic Shield 2
พรีวิว iPhone Air น้องใหม่หุ่นบาง แต่แข็งแกร่งด้วยกรอบไทเทเนียมเกรด 5
HUAWEI nova 14 Series สมาร์ทโฟนพลัง AI Portrait วางจำหน่ายแล้ววันนี้
OPPO Find X9 Series เตรียมเปิดตัวสีใหม่ สีแดง Velvet Red ต้อนรับเทศกาลสุดพิเศษ เร็วๆ นี้
DJI Neo 2 โดรนกล้องติดตามตัว ควบคุมด้วยท่าทาง ตรวจจับสิ่งกีดขวาง เหมาะกับมือใหม่
realme C85 Series 5G สมาร์ตโฟนสายอึด แบต 7000mAh ใหญ่สุดในเซกเมนต์ กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP69 Pro
HUAWEI Mate 70 Air สมาร์ตโฟนเบาบางระดับพรีเมี่ยม หน้าจอ AMOLED กว้างถึง 7 นิ้ว