ข่าว

รีวิว Apple iPhone SE 2020 คุ้มและน่าซื้อขนาดไหน หรือซื้อ iPhone 11 คุ้มค่ากว่า เปรียบเทียบกันหน่อย

สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 15 มิถุนายน 2563

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Apple iPhone SE 2020 - แอปเปิ้ล

ต้องบอกว่า Apple เปิดตัว iPhone รุ่นเล็กของพวกเขาได้ถูกเวลาจริงๆ ท่ามกลางกระแสที่ว่าอาจไม่มีอะไรใหม่ แค่จับของเดิมมาใส่ของใหม่ ทว่าแท้จริงแล้ว Apple iPhone SE 2020 นี้มีอะไรอัดแน่นอีกเยอะ สมกับฉายาที่พวกเขาได้ตั้งไว้ คือ มีอะไรให้รักเยอะ แม้แต่ราคา ซึ่งหากเทียบกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์แล้ว นี่อาจเป็นรุ่นที่คุ้มค่าใช้ในระยะยาวก็เป็นได้ ดังนั้นเรามาดูรายละเอียดกันหน่อยว่ารุ่นนี้เป็นอย่างไร

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

เริ่มจากดีไซน์ Apple iPhone SE 2020 ละม้ายคล้าย iPhone 8 หรือ iPhone 11 หลายคนอาจตั้งคำถามว่าจะแยกกันได้อย่างไร คำตอบคือ รุ่นน้องอย่าง iPhone 8 นั้นแทบแยกกันไม่ออก ทว่ารุ่นพี่ iPhone 11 ก็คงเป็นเลนส์กล้องอย่างเดียวที่แตกต่างกันระหว่างเลนส์เดียวกับเลนส์คู่ ทั้งนี้หากคุณต้องการจะใส่เคส iPhone SE 2020 กับ iPhone 8 ใช้แทนกันได้เลย

ขนาดตัวเครื่องของ Apple iPhone SE 2020 อยู่ที่ 138.4 × 67.3 × 7.3 มม. น้ำหนัก 148 กรัม มาพร้อมตัวเครื่องอะลูมิเนียมแบบไร้รอยต่อ ครอบทับกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

หน้าจอแสดงผล Multi‑Touch ไวด์สกรีน LCD ขนาด 4.7 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี IPS ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซลที่ 326 ppi การแสดงผลแบบ True Tone จอภาพขอบเขตสีกว้าง (P3) ความสว่างสูงสุด 625 นิต ตรงนี้ต้องบอกว่าแตกต่างกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปเลยทีเดียว ดังนั้นมั่นใจได้ว่าใช้งานในพื้นที่แสงเยอะ หน้าจอก็สู้แสงได้ ไม่แยงตา

เหนือหน้าจอขึ้นไปมีเลนส์กล้องความละเอียด 7 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 รองรับการใช้งาน FaceTime HD มาพร้อมไฟแฟลชแบบ Retina Flash กับโหมดการถ่ายภาพ HDR อัตโนมัติ รวมถึงโหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้กับเอฟเฟ็กต์จัดแสงได้ 6 แบบ (แสงไฟธรรมชาติ, แสงไฟสตูดิโอ, แสงไฟคอนทัวร์, แสงไฟเวที, แสงไฟเวทีขาวดำ, แสงไฟขาวดำไฮคีย์)

ส่วนด้านล่างหน้าจอมีเซ็นเซอร์ Touch ID ที่สามารถสแกนปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ตัวเครื่องโดยรวมก็มีกันปิดซีลแน่นแล้ว เพราะมีคุณสมบัติ IP67 มาตรฐานป้องกันฝุ่นและป้องกันน้ำ ระดับความลึก 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที

ฝั่งซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียงอยู่ด้านล่าง ในขณะที่ปุ่มด้านบนเป็นปุ่มสวิตช์เพื่อสั่งปิดเสียงหรือเปิดเสียง

ฝั่งขวาตัวเครื่อง เป็นปุ่มพักหน้าจอ หรือเมื่อกดค้างจะเป็นปุ่มเริ่มต้นใช้งาน Siri ถัดมามีช่องใส่ซิมการ์ด ความพิเศษคือ Apple iPhone SE 2020 รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแบบ Nano SIM และ eSIM

ข้างล่างตัวเครื่อง มีช่องเสียบสาย USB Lightning อยู่ตรงกลาง ทั้ง 2 ข้างเป็นลำโพงเสียงสเตอริโอ และภายในมีไมโครโฟนอยู่ในตัว

ด้านหลังตัวเครื่องมีการออกแบบที่สวยงาม ปิดทับด้วยกระจกที่แข็งแกร่ง และยังให้กลิ่นอายความคลาสสิคอยู่ด้วย ไม่ต่างจาก iPhone SE รุ่นแรกเลย ส่วนด้านบนซ้ายมีโมดูลกล้องเลนส์เดียวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ Wide Angle รูรับแสง f/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล สามารถซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า และมีโหมดถ่ายภาพแบบ HDR

อุปกรณ์ภายในกล่อง

Apple iPhone SE 2020
หูฟัง EarPods หัวต่อแบบ Lightning
สาย Lightning to USB
อแดปเตอร์ชาร์จไฟ 5 วัตต์
อุปกรณ์จิ้มถาดซิมการ์ด
คู่มือการใช้งาน

สเปกทั้งหมดของ Apple iPhone SE 2020

ขนาดตัวเครื่อง : 138.4 × 67.3 × 7.3 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 148 กรัม
หน้าจอแสดงผล : Retina-LCD-IPS ขนาดกว้าง 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล ความละเอียดพิกเซล 326ppi แสดงความสว่างได้สูงสุด 625 นิต
ชิปเซ็ต : A13 Bionic ทำงานร่วมกับ Neural Engine เจนเนเรชั่นที่ 3
ระบบปฏิบัติการ : iOS 13
RAM : 3GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 64GB / 256GB / 512GB
กล้องหลังเลนส์เดี่ยว :- เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8- ไฟแฟลช True Tone แบบ LED สี่ดวง คุณสมบัติสโลว์ซิงค์- ซูมแบบดิติตอลได้ 5 เท่า- บันทึกวิดีโอได้สูงสุดที่ระดับสูงสุด 4K 60fps
กล้องหน้า : ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ไฟแฟลช Retina Flash และบันทึกวิดีโอได้ 1080p ที่ 60fps
ระบบรักษาความปลอดภัย : Touch ID (ระบบสแกนลายนิ้วมือ) ไม่รองรับ Face ID
กันน้ำกันฝุ่น : มาตรฐาน IP67
ระบบเสียง : ลำโพงสเตอริโอในตัว, หูฟังแบบ USB Lightning
รองรับ 2 ซิม : 1 NanoSIM กับ 1 eSIM พร้อมใช้งาน 4G LTE Advanced (ไม่รองรับ 5G)
การเชื่อมต่อไร้สาย- 4G LTE- Wi-Fi 6- Bluetooth 5.0- NFC พร้อมโหมดตัวอ่าน- VoLTE และ VoWiFi
การหาตำแหน่ง : GPS, GLONASS, Galileo และ QZSS
พอร์ตการเชื่อมต่อ : USB Lightning
แบตเตอรี่ : 1,821 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงุสด 18 วัตต์ (ต้องซื้ออะแดปเตอร์แยก)

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

หน้าจอที่เล็ก แต่ดูได้เต็มตากว่าที่เคย

ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแหว่ง เพราะ Apple iPhone SE 2020 ตอบโจทย์คอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเคย ไม่ว่าจะเป็น การแสดงผล, สี, ความสว่าง ด้วยหน้าจอแบบ Retina ซึ่งเติมเต็มด้วยลำโพงสเตอริโอ

ย้อนรอยสู่ความคลาสสิก Touch ID แค่แตะ ก็ปลดล็อค

เป็นมนต์เสน่ห์ที่ยังคงให้กลิ่นอายความคลาสสิกเสมอ เพราะเทคโนโลยีนี้ก็มีมาหลาย 10 ปีแล้ว แต่ได้พัฒนาให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทั้งความแม่นยำ ความรวดเร็ว ไม่ต่างจากรุ่นพี่เลย

คุณสมบัติป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP67

อีกหนึ่งรุ่นในราคาหมื่นกลางๆ แต่ให้คุณมั่นใจในการใช้งาน พกพาไปได้ทุกที่ เพราะมีมาตรฐาน IP67 ที่สามารถป้องกันน้ำได้ ป้องกันละออง หรือหยดน้ำก็สบายหายห่วง

ชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว

อาจต้องลงทุนเพิ่มเติมหน่อย เพราะอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 18 วัตต์ วางจำหน่ายแยก แต่ถ้าได้ซื้อแล้ว ไลฟ์สไตล์ของคุณอาจสบายขึ้นเยอะ ใช้งานได้ต่อเนื่อง รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน

คุ้มสุดๆ ใช้งานได้นานหายห่วง

แบรนด์นี้การันตีหายห่วง อัปเดตอย่างน้อย 4 เวอร์ชั่น หรือใช้งานได้อีก 4 ปี สบายๆ เลยกับสมาร์ทโฟนราคาหมื่นกลางๆ หน้าจอเล็กๆ ซึ่งมี iOS ที่ชวนดึงดูด

ความแตกต่างระหว่าง iPhone SE 2020 และ iPhone 11 คืออะไร สรุปให้ฟัง

ถ้าหากเปรียบกับสเปกขั้นพื้นฐาน ก็มีความแตกต่างในเรื่องของ ขนาดหน้าจอ, สเปกกล้องดิจิตอล, RAM, ความจุแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ในแง่ของจุดเด่นนั้นเรียกได้ว่าถอดแบบมาได้เลย ดังนั้นหากคุณชอบจะเลือกรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ก็อาจตัดสินได้แค่ว่า ชอบหน้าจอใหญ่ หรือถ่ายภาพมุมกว้างมากๆ ไหม แค่นี้ก็ไป iPhone 11 ได้เลย แต่ถ้าเสพติดหน้าจอเล็กๆ ใช้งานได้เรื่อยๆ ไม่ต้องคิดมาก ก็จับจอง iPhone SE 2020

ความแตกต่างระหว่าง iPhone SE 2020 และ iPhone XR คืออะไร สรุปให้ฟัง

ประเด็นที่น่าสนใจของสองรุ่นนี้ ตัดสินกันได้ง่ายๆ คือ ขนาดของหน้าจอเพียงเท่านั้น เพราะ iPhone XR มีขนาดกว้าง 6.1 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ ส่วน iPhone SE 2020 มีขนาดเพียง 4.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ ซึ่งมิติความแตกต่างอาจตัดสินได้ที่ความรู้สึก เล็ก หรือ ใหญ่ ? นอกจากนี้อีกหนึ่งความต่างคือ ชิปเซ็ตประมวลผลของสมาร์ทโฟนที่ขึ้นชื่อว่าขายดีที่สุดในปีที่แล้วของแอปเปิ้ล ใช้ชิปเซ็ต A12 ขณะเดียวกัน iPhone SE 2020 จะเป็น A13

สรุปแล้วควรซื้อหรือไม่ iPhone SE 2020

เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ เพราะอะไร ความสงสัยนี้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกล้วนๆ เนื่องจาก Apple โฟกัสกลุ่มผู้ใช้งานที่ยังคงชื่นชอบหน้าจอขนาดเล็ก และความคลาสสิกของดีไซน์ที่ชวนให้คุณหลงใหล ขณะที่สเปกก็ไม่ได้เก่าแก่เลย ยกอะไรใหม่ๆ มาอัดไว้ เมื่อเทียบกับรุ่นพี่แล้ว ก็ต้องเพิ่มงบอีกหลายพันบาทเลย อย่าง iPhone 11 แต่สิ่งที่ได้มาคือ หน้าจอ, RAM, กล้องที่มากกว่า อาจต้องถามตัวเองว่าชื่นชอบแบบใด

หากเทียบราคาหมื่นกลางๆ กับฝั่งแอนดรอยด์ ก็อาจมีทั้งดีและไม่ดี แต่เมื่อเป็น iOS ทุกอย่างคือ คำตอบเดียว และถ้าชอบเล่น Story ของ IG นี่คือตัวเลือกที่ดี!