www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 1 มีนาคม 2565
realme 9 Pro+ และ realme 9 Pro สองสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ ที่ให้สเปคมาแบบไม่ธรรมดา หน้าจอ Super AMOLED 90Hz คมชัด จัดเต็มกับกล้องหลังที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 มาให้ในรุ่นใหญ่ ซึ่งเป็นกล้อง Sony IMX766 OIS รุ่นแรกในสมาร์ทโฟนระดับ Mid-range มาพร้อมดีไซน์ฝาหลังแบบ Light Shift Design เปลี่ยนสีได้ เมื่อฝาหลังกระทบกับแสงแดด แบตเตอรี่สุดอึดแถมระบบชาร์จเร็ว 60W SuperDart Charge
ตัวเครื่องของทั้ง 2 รุ่น มีมุมโค้งมน ด้านหลังมีความโค้งเล็กๆ ถือจับได้กระชับมือ realme 9 Pro+ มีขนาดเล็กกว่า realme 9 Pro ซึ่งเป็นรุ่นรองลงมา และมีหน้าจอที่ขนาดเล็กกว่าด้วย ใช้งานมือเดียวได้สบายๆ ด้วยน้ำหนักที่เบา และตัวเครื่องที่ไม่หนามาก
โดย realme 9 Pro+ มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และยังสามารถวัดการเต้นของหัวใจได้ด้วย
ในขณะที่ realme 9 Pro มีหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2412x1080 พิกเซล และมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ซึ่งสูงกว่าในรุ่นพี่ และมีอัตราตอบสนองทัชสกรีน 240Hz
มุมบนซ้ายของหน้าจอเป็นดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู เป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ทั้งคู่ และเหนือขึ้นไปตรงกลางเป็นลำโพงเสียง
การจัดวางปุ่มและตำแหน่งของพอร์ตต่างๆ ของ realme 9 Pro+ และ realme 9 Pro เรียกได้ว่าเหมือนกัน จะต่างกันเพียงเล็กน้อยคือในส่วนของปุ่ม Power ที่อยู่ทางด้านขวามือ โดยในรุ่น realme 9 Pro จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคด้วย ส่วน realme 9 Pro+ ไม่มี เพราะเซ็นเซอร์จะติดตั้งอยู่ที่ใต้หน้าจอแล้ว
ส่วนด้านซ้าย realme 9 Pro+ มีปุ่มเพิ่มลดเสียง และถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง รองรับการใช้งาน 5G ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card ได้
ส่วน realme 9 Pro จะมีช่องใส่ซิมแบบไฮบริด รองรับ Nano SIM จำนวน 2 ช่อง และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card ได้สูงสุด 265GB
ตัวเครื่องด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียง
ด้านล่างของเครื่องมีพอร์ตแบบ USB C ตรงกลาง ฝั่งซ้ายเป็นไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ส่วนฝั่งขวาเป็นลำโพงเสียง
สำหรับด้านหลังของ realme 9 Pro+ ติดตั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลักที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 ความละเอียด 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS + เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP มุมมองกว้าง 119 องศา และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP พร้อมไฟแฟลช จัดวางอยู่ในโมดูลกล้องทางมุมบนซ้ายของเครื่อง
ส่วน realme 9 Pro ก็ติดตั้งกล้องหลังมาให้ 3 เลนส์เช่นเดียวกัน โดยมีเลนส์หลัก ความละเอียด 64MP + เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP พร้อมไฟแฟลช จัดวางอยู่ในโมดูลกล้องทางมุมบนซ้ายของเครื่อง
ความพิเศษของดีไซน์แบบ Photochromism ด้านหลังเครื่อง realme 9 Pro สี Sunrise Blue (เครื่องที่ได้มารีวิว) ใช้เทคนิคที่เรียกว่า Light Shift Design ซึ่งฝาหลังตัวเครื่องจะสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อสัมผัสโดนเข้ากับแสงแดด
สรุปสเปกของ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+
หน่วยประมวลผลและหน่วยความจำ
realme 9 Pro+ มาพร้อมขุมพลัง MediaTek Dimensity 920 5G ความเร็ว 2.5 GHz ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่เลือกใช้ชิปเซ็ตรุ่นนี้ รองรับการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี 5G ที่มีความเร็วแรง และให้ประสิทธิภาพการใช้งานแบบจัดเต็ม มาพร้อมความจุ RAM 8GB + ROM 256GB ส่วนใน realme 9 Pro จะใช้ชิปเซ็ตของ Qualcomm Snapdragon 695 รองรับสัญญาณ 5G ได้เช่นกัน แต่มีมาให้เลือก 2 ความจุด้วยกัน ได้แก่ RAM 6GB + ROM 128GB และ RAM 8GB + ROM 128GB โดยทั้ง 2 รุ่นนั้น จะรันบนระบบปฏิบัติการ realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12 ที่มีความลื่นไหล ใช้งานง่าย จัดเต็มได้ทั้งความบันเทิงและการเล่นเกมที่คุณชื่นชอบ
วอลเปเปอร์สร้างสรรค์เอง
สามารถครีเอตวอลเปเปอร์ตามเฉดสีของการแต่งกายหรือโทนของรูปภาพที่คุณชื่นชอบได้ โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า > การปรับเปลี่ยนในรูปแบบคุณ > วอลเปเปอร์ >วอลเปเปอร์ที่สร้างสรรค์เองเพื่อสร้างสรรค์ภาพพื้นหลังที่ไม่เหมือนใครได้เลย
ฟีเจอร์พิเศษ
สำหรับฟีเจอร์พิเศษมีให้เลือกหลากหลายฟังก์ชั่น ช่วยให้การใช้งานมีความง่าย และตรงกับความต้องการแต่ละลักษณะมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การใช้งานสำหรับเด็กหรือผู้สูงอายุ เป็นต้น
เป็นการใช้งานหน้าต่างลอย เพื่อให้สะดวกในเวลาที่ต้องการใช้งานอย่างรวดเร็ว เพียงปัดด้วยนิ้วเดียว
เป็นฟังก์ชั่นเพื่อกดเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อยๆ จำนวน 3 แอปพลิเคชั่น ด้วยการกดค้างบนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือหน้าจอ เพื่อเลือกเมนูที่ต้องการ
เป็นการเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นหรือเครื่องมือให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกดเข้าไปเลือกหาในหน้าลิ้นชักแอปฯ หรือไอคอนใดๆ เพื่อการใช้งานอย่างเร่งด่วน
สำหรับผู้ปกครองที่มีความจำเป้นจะต้องให้เครื่องเด็กๆ ในการใช้งาน หรือการเล่นเกม คุณสามารถเข้าใช้งานฟังก์ชั่นนี้ เพื่อเป้นการจำกัดแอปพลิเคชั่น และกำหนดเวลา ในการใช้งานมือถือให้กับเด็กๆ ได้
ส่วนใครที่ต้องการนำสมาร์ทโฟนไปให้ผุ้สุงอายุใช้งาน คุณสามารถเปิดใช้ "โหมดเรียบง่าย" เพื่อหน้าตา UI ของมือถือจะมีความขยายใหญ่ และดูใช้งานง่ายมากขึ้นนั่นเอง
O-Haptics
เป็นความพิเศษของเสียงและการสั่นของตัวเครื่อง ซึ่งจะทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ เข้ากับการแสดงผลบนหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ปรากฏขณะนั้น ด้วยลำโพงสเตอริโอคู่พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมระบบสั่นด้วย X-axis Motor Tactile Engine เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมกับภาพและเสียงที่เกิดขึ้นยิ่งขึ้น
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง realme 9 Pro+
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้
realme 9 Proและ realme 9 Pro+ มาพร้อมกับดีไซน์ดีไซน์แบบ Photochromism ที่เป็นเอกลักษณ์ ผิวสัมผัสเรียบลื่นเพิ่มความหรูหราให้กับตัวเครื่อง มีเอ็ฟเฟคความระยิบระยับพร้อมแสงที่ลอดผ่าตรงกลางเครื่องเหมือนการเคลื่อนไหวของดวงดาว และบนสี Sunrise Blue ที่ใช้เทคนิค Light Shift Design ทำให้ฝาหลังสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อกระทบโดนกับแสงแดด ซึ่งจะเปลี่ยนสีจากสีฟ้าเป็นสีชมพูอย่างโดดเด่นภายใน 3 วินาที และหากไม่มีแสงแดด สีฝาหลังจะจางลงใน 2-5 นาที เป็นลูกเล่นของสีฝาหลังที่ทำได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียว โดย realme 9 Pro Series มีมาด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Sunrise Blue และ Arora Green นั่นเอง
สำหรับจอแสดงผลของ rrealme 9 Pro+ เลือกใช้พาเนล AMOLED ที่มีความคมชัด ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ มีอัตรารีเฟรชเรทที่ 90Hz สามารถรับชมคอนเทนต์ต่างๆ โดยเฉพาะซีรี่ย์สุดโปรดของเราได้อย่างเต็มสายตา ชัดเจน ลื่นไหล และสีสันสว่างสดใส รองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ แล้วยังใช้เซ็นเซอร์ตรงนี้ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย
ส่วนรุ่นน้องอย่าง realme 9 Pro แม้ไม่ได้มากับจอ AMOLED แต่ก็มีขนาดจอที่ใหญ่กว่า ด้วยความกว้าง 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2412x1080 พิกเซล และมีอัตรารีเฟรชเรทสูงกว่าอยู่ที่ 120Hz และอัตราตอบสนองทัชสกรีน 240Hz ช่วยให้การแสดงผลลื่นไหล ดูสมูทมากขึ้น การตอบสนองต่อการสัมผัสมีความรวดเร็ว จะใช้งานหรือเล่นเกมก็เต็มที่เต็มอรรถรส
เรียกว่าเป็นฟีเจอร์ที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด เพราะ นอกจากความสามารถในการรองรับการปลดล็อคบนหน้าจอแล้ว realme 9 Pro+ ยังสามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย ซึ่งการเข้าไปใช้งานต้องติดตั้งแอปฯ realme Lab ก่อน จากนั้นเข้าไปใช้งาน โดยการวางนิ้วลงบริเวณเซ็นเซอร์ และรอให้ตัวเครื่องทำการตรวจวัดและประมวลผล ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพของคุณเองได้ง่ายๆ บนหน้าจอสมาร์ทโฟนเลย
realme 9 Pro+ ติดตั้งชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G กระบวนการทำงานขั้นสูงด้วยชิป 6nm มีประสิทธิภาพสูงสุดในรุ่นระดับเดียวกัน ซึ่งช่วยให้การทำงานต่างๆ มีการประมวลผลที่เร็วแรง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเล่นเกมหรือกล้องถ่ายภาพ ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี 5G ที่มีการอัปโหลดดาวน์โหลดที่รวดเร็ว ส่วน realme 9 Pro เลือกใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G ทำงานร่วมกับ RAM 8GB และ ROM 256GB นั่นเอง
โดยทั้ง 2 รุ่น ยังรองรับเทคโนโลยี Virtual RAM ที่สามารถแปลง ROM เป็น RAM เพิ่มได้สูงสุดถึง 5GB รวมจากเดิมที่มีอยู่ 8GB ก็จะได้พื้นที่ถึง 13GB เลยทีเดียว ช่วยให้การเปิดปิดสลับแอปฯ หรือเปิดแอปพลิเคชั่นต่างๆ ค้างไว้ไม่เกิดความหน่วงช้า และเรียกขึ้นมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ realme 9 Pro+ ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling System ช่วยลดอุณหภูมิได้ และทำให้สมาร์ทโฟนอยู่ในสถานะการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานพื้นฐาน หรือการเล่นเกมที่จะต้องใช้ความแรงในการประมวลผลลื่นไหล ไม่มีสะดุด
realme 9 Pro+ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ ความจุ 4500mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน และในเวลาเร่งด่วน ก็รองรับการชาร์จไว 60W SuperDart Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 100 เปอร์เซ็นได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง และสำหรับรุ่นเล็กอย่าง realme 9 Pro ก็ให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าที่ ความจุ 5,000nAh แต่รองรับการชาร์จเร็วที่ 33W เท่านั้น จึงใช้เวลาในการชาร์จนานกว่า แต่ก็ใช้งานได้ยาวนานขึ้นนั่นเอง
realme 9 Pro+ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน Mid-range รุ่นแรก ที่ใช้เซ็นเซอร์กล้องระดับโปรฯ อย่าง Sony IMX766 ขนาด 1/1.56 นิ้ว ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่และพิกเซลมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ จึงทำให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพและความคมชัดที่ดีขึ้น ผสานการทำงานกับเทคโนโลยีกันสั่นคู่ OIS & EIS Dual Stabilization ช่วยลดความสั่นไหวให้กับภาพนิ่งรวมถึงภาพวิดีโอ เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่นำกล้องแฟล็กชิปมาไว้ในสมาร์ทโฟน Mid-range เลยทีเดียว
สเปคกล้องใน realme 9 Pro+
ในส่วนของเลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ให้ภาพมุมกว้าง 119 องศา สามารถเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน ความบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นน้อยมาก ถือว่าทำออกมาได้ในระดับที่ดี
สำหรับใครที่ชอบความร่วมสมัย หรืออยากได้ภาพแนวสตรีทอาร์ต realme 9 Pro Series ก็มาพร้อมโหมดการถ่ายภาพแบบ Street ที่จะช่วยคุมโทนภาพถ่ายให้ออกมาสวยงามได้ตามแนวทางที่คุณต้องการ เพียงแค่กดชัตเตอร์ ทำให้ภาพถ่ายดูมีสไตล์ แตกต่างอย่างลงตัว
ในส่วนของการถ่ายภาพกลางคืนก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก ด้วยการจับภาพวัตถุต่างๆ ที่มีความสว่างชัดเจนและลดนอยส์ได้ดีขึ้น อีกทั้งการถ่ายภาพดวงไฟท้ายรถที่เป็นเส้นๆ หรือเก็บรายละเอียดพื้นผิวของบุคคล อาคารสถานที่ก็ทำได้ดีแม้ไม่มีขาตั้งกล้อง
ด้วยเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ช่วยจับระยะวัตถุใกล้ 4 ซ.ม. ถ่ายภาพขยายแบบมาโครออกมาได้สวยงาม
สำหรับการถ่ายภาพบุคคลใน realme 9 Pro+ ทำออกมาได้เกือบสมบูรณ์เหมือนกล้องมืออาชีพ ด้วยการตัดขอบตัวบุคคล และเบลอพื้นหลังได้เนียนอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ปรับใบหน้าให้สวยงาม เพิ่มโฟกัสให้บุคคลดูโดดเด่น
สำหรับ realme 9 Pro แม้กล้องหลังจะไม่ได้ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 เหมือนตัวรุ่นพี่ แต่ก็มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ที่มีกล้องหลักความละเอียดสูง โดยเลนส์หลัก มีความละเอียด 64MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ถ่ายภาพได้อย่างคมชัดในทุกสภาพแสง
สเปคกล้องใน realme 9 Pro
กล้องหน้าเซลฟี่
สำหรับกล้องหน้าของ realme 9 Pro Series ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ให้ภาพถ่ายเซลฟี่ที่มีความชัดเจน อีกทั้งยังมี AI อัจฉริยะช่วยปรับแต่งใบหน้าและผิวของคนในภาพให้ดูสวยงามขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเลือกถ่ายภาพในโหมดพอร์ตเทรตแบบหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือกล้องหลังอีกด้วย
realme 9 Pro Series มีมาด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Sunrise Blue และ Arora Green เตรียมเป็นเจ้าของ realme 9 Pro Series พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ตามรายละเอียดดังนี้
ราคารอบพิเศษ Early bird เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง Lazada เท่านั้น เหลือเพียง 8,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 – 5 มีนาคมนี้
ราคารอบพิเศษ Early bird เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง Lazada เท่านั้น เหลือเพียง 9,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 -11 มีนาคมนี้
ราคารอบพิเศษ Early bird เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง JD Central เท่านั้น เหลือเพียง 12,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 -11 มีนาคมนี้
พิเศษ! สำหรับผู้ที่สั่งจอง realme 9 Pro Series ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 - 11 มีนาคมนี้ จะได้รับของสมนาคุณ รวมทั้งสิ้นมูลค่ากว่า 6,000 บาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.เซ็ท realmeow Special Gift 2.realme smart scale 3. ประกันหน้าจอแตกตลอด 1 ปี และ 4. ผ่อน 0% นาน 6 เดือน
สามารถดูรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : realmeTH
ขอขอบคุณ : realme Thailand
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : realme 9 Pro & realme 9 Pro+แคตตาล็อกตัวเครื่อง :
วันที่ : 1 มีนาคม 2565
OnePlus Ace 5 และ OnePlus Ace 5 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Ace Series ชิปฯ เร็วแรง เอาใจสายเกมมิ่ง8 ชั่วโมงที่แล้ว
HOVERAir X1 PROMAX นวัตกรรมใหม่ของโลก กล้องบินได้สุดล้ำ ที่ใครๆ ก็ใช้งานได้15 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว realme C75 ทนทานทุกสถานการณ์ ฟีเจอร์ครบครัน เข้าใจทุกไลฟ์สไตล์20 ชั่วโมงที่แล้ว
HONOR Magic7 RSR Porsche Design ตัวท็อปดีไซน์พรีเมียม กล้องหลังหกเหลี่ยม Periscope Telephoto 200MP21 ชั่วโมงที่แล้ว
ห้ามพลาด OPPO A3 สมาร์ทโฟนเอาใจสายโหด ปรับราคาใหม่23 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว realme C75 ทนทานทุกสถานการณ์ ฟีเจอร์ครบครัน เข้าใจทุกไลฟ์สไตล์
realme 14 Pro series นวัตกรรมสมาร์ทโฟนเปลี่ยนสีได้ ครั้งแรกของโลก!
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 14X 5G หน้าจอ 120Hz กันน้ำ IP69 แบตฯ 6000mAh ชาร์จเร็ว 45W อัปเดต OS นา...
realme Note 60X เสริมทัพกลุ่มบัดเจ็ตโฟน เน้นใช้งานทน ในราคาหลักพันต้น
realme Note 60x คลานตามมาอีกรุ่น กับรุ่นเล็กจอใหญ่ มาตรฐาน IP54
Redmi Buds 6 Pro อัปเกรดการตัดเสียงรบกวน 55 เดซิเบล เทคโนโลยีเสียงมาครบ
Lenovo เตรียมเปิดตัวแล็บท็อป ThinkBook Plus จอม้วน-ยืดได้เอง รุ่นแรกของโลก
realme Note 60X เสริมทัพกลุ่มบัดเจ็ตโฟน เน้นใช้งานทน ในราคาหลักพันต้น
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น