www.siamphone.com

ข่าว

รีวิว vivo X300 Series สมาร์ตโฟนเรือธงที่อัปเกรดครบทุกด้าน ตัวจริงเรื่องซูม แค่คลิกซูมชิดติดเวที

สมาร์ทโฟน (Smartphone)   |   วันที่ : 27 พฤศจิกายน 2568

เปิดตัวมาแบบจัดเต็มจริงๆ สำหรับ vivo X300 Series มาพร้อมการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่ยกระดับสมาร์ตโฟนเรือธงของ vivo ไปอีกขั้น ทั้งด้านดีไซน์ Unibody 3D ที่พรีเมียมขึ้น การแสดงผลด้วยหน้าจอ Q10 Plus สว่างสูงสุด 4500nits รวมถึงกล้อง ZEISS รุ่นใหม่ที่จัดเต็มทั้งความละเอียด 200MP และเทคโนโลยีถ่ายภาพระดับโปร โดยเฉพาะ X300 Pro ที่ได้ Telephoto ZEISS APO 200MP แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เสริมด้วยชิปประมวลผล Dimensity 9500 คู่กับ V3+ และ VS1 ที่ช่วยดันประสิทธิภาพการถ่ายภาพและการใช้งานให้ลื่นไหลยิ่งขึ้น รวมถึงแบต BlueVolt ที่อึดยิ่งกว่าเดิม เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนครบเครื่องหนึ่งเครื่องใช้ยาวๆ แบบไม่ต้องกังวล

สั่งซื้อคลิก!

vivo X300Shopee : https://s.shopee.co.th/805AeFOdlF / https://s.shopee.co.th/6VGMrOp84ZLazada : https://c.lazada.co.th/t/c.XPyNI1 / https://c.lazada.co.th/t/c.XPyNIn

vivoX300 ProShopee : https://s.shopee.co.th/LfjWBrZJJLazada : https://c.lazada.co.th/t/c.XPyNre

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ความงามแบบมินิมอล ลงตัวทั้งสไตล์และฟีลลิ่งการจับถือ

vivo X300 Series วางตัวเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมตั้งแต่แรกเห็น ทั้งสองรุ่นถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันด้วยเทคโนโลยี Unibody 3D ทำให้ฝาหลังและโมดูลกล้องผสานเป็นชิ้นเดียวอย่างแนบสนิท ช่วยลดความนูนและทำให้มือถือจับถือถนัดมือ ฝาหลัง Coral Velvet Glass ให้สัมผัสเนียน นุ่ม และกันรอยนิ้วมือได้ดี ขอบหน้าจอบางสมมาตรทุกด้านทำให้ตัวเครื่องดูเรียบหรูทันสมัย X300 เน้นความคล่องตัวด้วยหน้าจอ 6.31 นิ้ว น้ำหนักเบา 190 กรัม และเครื่องบางเพียง 7.95 มม. ส่วน X300 Pro มอบความอลังการด้วยหน้าจอ 6.78 นิ้ว พร้อมดีไซน์เลนส์แบบเรียบและแกะลาย Sunburst ชูงานออกแบบระดับโปร สีสันของ vivo X300 Series คือ มีความแฟชั่นและมีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น Iris Purple และ Halo Pink บน X300 หรือ Mist Blue และ Dune Brown บน X300 Pro ที่สะท้อนบุคลิกชัดเจนทั้งความหรูและความสนุกสนาน

พลังการซูมที่ออกแบบมาเพื่อสายคอนเสิร์ต

กล้องของ vivo X300 Series ถูกออกแบบมาให้เป็นจุดเด่นสูงสุดของรุ่นนี้ โดยเฉพาะ X300 Pro ที่มาพร้อมกล้อง Telephoto ZEISS APO 200MP เซนเซอร์ใหญ่ 1/1.4 นิ้ว พร้อมเลนส์ Fluorite-Grade ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรม ให้ความคมชัดและความถูกต้องของสีระดับโปรเฟสชันแนลแม้ในระยะซูมไกล ทั้งยังมีระบบกันสั่น OIS มาตรฐาน CIPA 5.5 ทำให้ภาพซูมไกลยังนิ่งและคมอย่างน่าประทับใจ ส่วนกล้องหลักของรุ่น X300 Pro ใช้เซนเซอร์ LYT-828 ขนาด 1/1.28 นิ้วที่รับแสงได้ดีเยี่ยม ทํางานร่วมกับกันสั่นขั้นสูงช่วยให้ภาพกลางคืนสว่าง คม และไร้ noise ทางด้าน X300 ก็ยังโดดเด่นด้วยกล้องหลักความละเอียด 200MP และ Telephoto ZEISS APO 50MP ที่ให้ภาพคมเด่น เหมาะกับการถ่ายพอร์ตเทรตและคอนเสิร์ต ทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมระบบไฟฮาร์ดแวร์ Adaptive Zoom Flash ที่ช่วยกระจายแสงได้เหมาะสมในทุกระยะ ทำให้ถ่ายภาพบุคคล แม้ในสภาพแสงยาก ก็ยังได้ภาพสว่างสวยและสมดุลเป็นธรรมชาติ

รูปจากเครื่อง vivo X300 Pro

ในส่วนของฟีเจอร์กล้อง vivo X300 Series ก็ให้มาครบแบบจัดเต็มสำหรับสายถ่ายภาพและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น Stage Mode 2.0 ที่ช่วยให้การถ่ายคอนเสิร์ตเป็นเรื่องง่ายเพียงคลิกเดียว พร้อมจัดการแสงเวทีและโฟกัสให้โดยอัตโนมัติ, Telephoto Magic 2.0 ที่ช่วยให้ภาพซูมคมชัดในทุกสภาพแสง, Portrait ZEISS ที่มีโบเก้ระดับตำนานและโทนสีแบบ ZEISS แท้ๆ, AI Landscape Master ที่ใช้ AIGC ช่วยปรับท้องฟ้าและบรรยากาศให้ภาพวิวโดดเด่นขึ้น รวมถึง Live Photo Effect ที่เพิ่มมิติให้ภาพเคลื่อนไหวด้วยเอฟเฟกต์อย่าง Dolly Zoom หรือ Zoom Effect ด้านวิดีโอก็รองรับระดับมืออาชีพ ทั้ง 4K 120FPS, Dolby Vision และ 10-bit Log ที่เหมาะกับงานทำสีอย่างจริงจัง พร้อมระบบกันสั่นและโหมดภาพเคลื่อนไหวที่หลากหลาย ทำให้ vivo X300 Series เป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนที่มีฟีเจอร์ถ่ายภาพและวิดีโอครบที่สุดสำหรับงานสร้างคอนเทนต์ในยุคนี้อย่างแท้จริง

รูปจากเครื่อง vivo X300

แรงลื่นด้วยชิประดับท็อป Dimensity 9500

vivo X300 Series ใช้ขุมพลัง MediaTek Dimensity 9500 ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงและความเสถียร โดยมี CPU All-Big-Core ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน ทั้ง Single-Core +24% และ Multi-Core +10% พร้อม GPU และ NPU ที่ได้อันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมด้านประสิทธิภาพ ทั้งคู่ยังได้ชิป V3+ ช่วยประมวลผลภาพในระดับโปร และ X300 Pro ได้ชิป VS1 เพิ่มเติมเพื่อเร่งความเร็ว AI และลดการใช้พลังงานอีก 60% ทำให้ประสบการณ์ถ่ายภาพเร็วขึ้น คมขึ้น และลื่นไหลมาก ใครที่เล่นเกมหนัก ทำงานวิดีโอ หรือใช้หลายแอปพร้อมกัน จะรู้สึกได้ทันทีว่าซีรีส์นี้ตอบสนองได้ไวและนิ่งมากอย่างที่คาดหวังจากเรือธง

ดูคอนเทนต์ได้เต็มตา คมชัดทุกมุมมอง

X300 ใช้หน้าจอขนาด 6.31 นิ้ว ความละเอียด 1216 × 2640 พร้อมความสว่างสูงสุด 4500nits เฉพาะส่วน และรองรับความสว่างสูงสุด 2000nits ส่วน X300 Pro เพิ่มขนาดเป็น 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1260 × 2800 ทั้งคู่ใช้วัสดุ Q10 Plus รองรับอัตราการรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ทำให้ภาพลื่นตามแบบฉบับเรือธง นอกจากนี้ยังมี 2160Hz PWM Dimming ช่วยลดอาการล้าตา และครอบคลุมสี P3 เต็มช่วง เหมาะมากสำหรับคนที่ใช้สมาร์ตโฟนดูคอนเทนต์ ถ่ายรูป หรือแต่งภาพเป็นประจำ โดย X300 Pro ยังรองรับ Circularly Polarized Light 2.0 ช่วยให้อ่านหน้าจอในที่แดดจัดได้ดีขึ้นอีกด้วย

BlueVolt แบตเทคโนโลยีใหม่ที่อายุยาวกว่าเดิม

แบตเตอรี่ BlueVolt ของ vivo เป็นไฮไลต์สำคัญ เพราะให้ความจุสูงและมีอายุการใช้งานยาว X300 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 6040mAh ส่วน X300 Pro ขยับเป็น 6510mAh ถือว่าอึดสำหรับสมาร์ตโฟนเรือธง ทั้งคู่รองรับชาร์จเร็ว 90W และชาร์จไร้สาย 40W พร้อมระบบ Global Bypass Charging ช่วยลดอุณหภูมิขณะเล่นเกมหรือใช้งานหนัก นอกจากนี้ยังผ่านการรับรองสุขภาพแบตเตอรี่ 5 ปีจาก SGS ทำให้มั่นใจเรื่องความทนทานและการเสื่อมที่ช้ากว่าสมาร์ตโฟนทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานหนักตลอดทั้งวัน

ทนทานมั่นใจในทุกสถานการณ์ พร้อมกระจกระดับสูงที่ปกป้องสูงสุด

ทั้ง 2 รุ่นผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 และ IP69 ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดในสมาร์ตโฟนตอนนี้ ช่วยป้องกันละอองน้ำ น้ำกระเซ็น และการใช้งานในสถานการณ์จริงได้ดี นอกจากนี้ X300 ใช้กระจก Reinforced Glass ที่ทนแรงกระแทกได้ดี ส่วน X300 Pro ขยับไปใช้ Armor Glass แบบระดับสูงสุด ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการใช้งานประจำวัน ไม่ว่าจะพกใส่กระเป๋าหรือใช้งานกลางแจ้งบ่อยๆ ก็สบายใจมากขึ้น

OriginOS 6 มอบประสบการณ์ใช้งานที่สมูทตั้งแต่แรกเปิดเครื่อง

OriginOS 6 บน Android 16 ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานเป็นธรรมชาติและลื่นไหล โดยเน้นการเคลื่อนไหวแบบ Spring Animation และการตอบสนองแบบ One-shot ที่ทำให้การสัมผัสดูสมจริงขึ้น ดีไซน์ใหม่ Origin Design ทำให้การจัดหน้าจอและไอคอนดูโปรขึ้น ส่วนฟีเจอร์อย่าง Flip Cards และ Origin Island ช่วยสนับสนุนการใช้งานคอนเทนต์แบบอัจฉริยะ โดยเฉพาะคนทำงานก็จะชอบ Office Kit ที่ใช้ร่วมกับ Mac ได้ดีมาก เช่น Screen Mirroring, Notes Sync และการส่งไฟล์แบบ Free Transfer ที่ทำให้มือถือเป็นตัวช่วยงานได้เต็มประสิทธิภาพและทันสมัยกว่าเดิมมาก

สเปคเบื้องต้นของ vivo X300

  • ขนาดตัวเครื่อง : 150.57 × 71.92 × 7.95 มม.
  • น้ำหนัก : 190 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : AMOLED Q10+ ขนาด 6.31 นิ้ว, 2640×1216, 460PPI, รองรับอัตราการรีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 4500nits
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 9500 (3 nm) Octa-Core + GPU ARM G1-Ultra
  • RAM : 12GB / 16GB LPDDR5X Ultra
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB / 512GB UFS 4.1
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 50MP f/2.0 เซ็นเซอร์ JN1 (1/2.76")
  • กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่
  • กล้องหลัก : ความละเอียด 200MP f/1.68 (1/1.4", HPB)
  • กล้อง Ultra-Wide : ความละเอียด 50MP f/2.0 (1/2.76")
  • กล้อง Telephoto : ความละเอียด 50MP f/2.57 (1/1.953")
  • SIM : Dual nano-SIM (5G+5G DSDS)
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 16 + OriginOS 6
  • รองรับเครือข่าย : 5G/4G/3G/2G
  • พอร์ต : USB-C (USB 3.2)
  • กันน้ำกันฝุ่น : IP68 / IP69
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วบนหน้าจอ (3D Ultrasonic Single-Point), สแกนใบหน้า
  • แบตเตอรี่ : 6040mAh, ชาร์จเร็ว 90W, ชาร์จไร้สาย 40W

สเปคเบื้องต้นของ vivo X300 Pro

  • ขนาดตัวเครื่อง : 161.98 × 75.48 × 7.99 มม.
  • น้ำหนัก : 226 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : AMOLED Q10+ ขนาด 6.78 นิ้ว, 2800×1260, 452PPI, รองรับอัตราการรีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 4500nits
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 9500 (3 nm) Octa-Core + GPU ARM G1-Ultra
  • RAM / ROM : 16GB + 512GB (LPDDR5X Ultra / UFS 4.1)
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 50MP f/2.0 เซ็นเซอร์ JN1 (1/2.76")
  • กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่
  • กล้องหลัก : ความละเอียด 50MP f/1.57 (1/1.28", LYT828)
  • กล้อง Ultra-Wide : ความละเอียด 50MP f/2.0 (1/2.76")
  • กล้อง Telephoto : ความละเอียด 200MP f/2.67 (1/1.4", HPB)
  • SIM : Dual nano-SIM (5G+5G DSDS)
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 16 + OriginOS 6
  • รองรับเครือข่าย : 5G/4G/3G/2G
  • พอร์ต : USB-C (USB 3.2)
  • กันน้ำกันฝุ่น : IP68 / IP69
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วบนหน้าจอ (3D Ultrasonic Single-Point), สแกนใบหน้า
  • แบตเตอรี่ : 6510mAh, ชาร์จเร็ว 90W, ชาร์จไร้สาย 40W

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

vivo X300 Series มาพร้อมดีไซน์พรีเมียมแบบ Unibody 3D มาพร้อมหน้าจอ AMOLED Q10 Plus คุณภาพสูง X300 มีหน้าจอขนาด 6.31 นิ้ว ส่วน X300 Pro มีหน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว โดยทั้ง 2 รุ่น ความสว่างระดับท็อป 4500nits รองรับอัตราการรีเฟรชเรท 120Hz มาพร้อมกล้องหน้า ZEISS Wide Angle แบบ Punch-hole ความละเอียด 50MP บริเวณขอบจอด้านบนเป็นลำโพงเสียง รอบตัวเครื่องของแต่ละรุ่นประกอบไปด้วย

X300

  • ด้านบนของตัวเครื่อง มีลำโพงและไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
  • ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ
  • ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง, ปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิดเครื่อง
  • ด้านล่างของตัวเครื่อง มีช่องใส่ถาดซิมการ์ด, ไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง
  • ด้านหลังของตัวเครื่อง มาพร้อมฝาหลังดีไซน์ Unibody 3D เนียนสนิทแบบไร้รอยต่อ โมดูลกล้องเป็นทรงกลมโค้งสวยงาม พร้อมไฟแฟลช LED อยู่มุมบนด้านซ้าย
    • กล้องหลัก ZEISS : ความละเอียด 200MP
    • กล้อง ZEISS APO Telephoto : ความละเอียด 50MP
    • กล้อง ZEISS Ultra-Wide : ความละเอียด 50MP

X300 Pro

  • ด้านบนของตัวเครื่อง มีลำโพงเสียง
  • ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีปุ่ม Shortcut Button
  • ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง, ปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิดเครื่อง
  • ด้านล่างของตัวเครื่อง มีช่องใส่ถาดซิมการ์ด, ไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง
  • ด้านหลังของตัวเครื่อง มาพร้อมฝาหลังดีไซน์ Unibody 3D เนียนสนิทแบบไร้รอยต่อ โมดูลกล้องเป็นทรงกลมโค้งสวยงาม บริเวณด้านบนของขอบโมดูลกล้องจะมีข้อความแกะลาย Sunburst ว่า "VARIO APO SONNAR" พร้อมไฟแฟลช LED อยู่มุมบนด้านซ้าย
    • กล้องหลัก ZEISS Gimbal-Grade : ความละเอียด 50MP
    • กล้อง ZEISS APO Telephoto : ความละเอียด 200MP
    • กล้อง ZEISS Ultra-Wide : ความละเอียด 50MP

ราคาและการวางจำหน่าย

vivo X300 Series เปิดตัวมาด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ X300 Pro และ X300  โดย X300 Pro มาพร้อม 3 สีให้เลือก ได้แก่ สี Dune Brown, สี Mist Blue และสี Phantom Black ส่วน X300 ก็มาพร้อม 3 สีให้เลือกเช่นกัน ได้แก่ สี Halo Pink, สี Iris Purple และสี Phantom Black สามารถสั่งซื้อได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ มาพร้อมราคาและความจุดังนี้

X300

  • ความจุ 12GB + 256GB วางจำหน่ายในราคา 31,999 บาท
  • ความจุ 16GB + 512GB วางจำหน่ายในราคา 34,999 บาท

X300 Pro

  • ความจุ 16GB + 512GB วางจำหน่ายในราคา 39,999 บาท

วันที่ : 27 พฤศจิกายน 2568

1,686
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version