หมวดอื่นๆ (Other)  |   วันที่ : 24 สิงหาคม 2556

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่เป็นมือใหม่มักประสบกับปัญหาการใช้งานข้อมูลเครือข่าย 3G มากเกินกว่าแพคเกจที่สมัครใช้บริการ แม้หลายคนจะแย้งว่าไม่ค่อยได้เปิดใช้งานอะไร แต่ทำไมตัวเลขการใช้งานข้อมูลเครือข่ายถึงสิ้นเปลือง ถ้าหากคุณกำลังมองหาวิธีประหยัดการใช้งานข้อมูลเครือข่าย ขอแนะนำ 11 วิธีการช่วยให้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ใช้ข้อมูลเครือข่ายน้อยลงกว่าที่เคย

การจัดการแอพพลิเคชั่น

บางคนอาจจะไม่ทราบว่าเมื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นใน Google Play มาใช้งานแล้ว ไม่ได้จบสิ้นเพียงแค่การเปิดใช้งานเท่านั้น แต่ยังมีพวกอัพเดทหรือโฆษณาที่คอยจ้องจะดาวน์โหลดข้อมูลมายังเครื่องของคุณด้วย

1. อัพเดทแอพพลิเคชั่นผ่านทาง Wi-Fi เท่านั้น
เปิด Google Play และเลือกเมนูการตั้งค่า > อัพเดทอัตโนมัติ และเลือกอัพเดทอัตโนมัติผ่าน Wi-Fi เท่านั้น หรือจะเลือกอัพเดทด้วยตัวเอง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอัพเดทต่างๆ จะไม่มารบกวนการใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณอีกต่อไป

2. การตั้งค่าภายในแอพพลิเคชั่น

บางแอพพลิเคชั่นที่คุณใช้งานอยู่ อาจจะมีการเรียกใช้ฟังก์ชั่นการสำรองข้อมูลภาพถ่ายหรือวิดีโอไปเก็บบนเซิร์ฟเวอร์โดยที่คุณไม่รู้ตัว ตัวอย่างเช่น Google+ เมื่อเริ่มต้นใช้งานจะถามผู้ใช้ว่าต้องการสำรองข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์เลยหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบเมนูการตั้งค่าในแต่ละแอพฯ อีกครั้งหนึ่งเพื่อความแน่ใจ

3. จำกัดการใช้งานข้อมูลแอพที่รันอยู่เบื้องหลัง

แอพพลิเคชั่นบางอย่างอาจจะมีการดาวน์โหลดข้อมูลแม้ขณะที่คุณไม่ได้เปิดใช้งานก็ตาม วิธีตรวจสอบง่ายๆ สำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.0 (Ice Cream Sandwich) ขึ้นไป สามารถเข้าไปดูที่ การตั้งค่า > การใช้งานข้อมูลเครือข่าย (Data Usage) และเลื่อนลงมาเพื่อดูรายการแอพพลิเคชั่นและข้อมูลสถิติการใช้งานเครือข่าย จากนั้นแตะแอพฯ ที่มีการใช้งานข้อมูล ให้มองหาตัวเลขที่อยู่ด้านข้างแผนภูมิวงกลม โดยจะมีอยู่สองชุด ชุดแรกคือ "เบื้องหน้า (foreground) คือตัวเลขแสดงปริมาณข้อมูลเครือข่ายที่ถูกใช้ไปขณะใช้งานแอพฯ ให้สังเกตอีกชุดที่ชื่อว่า "เบื้องหลัง" (background) ตัวเลขนี้คือปริมาณการใช้ข้อมูลของแอพฯ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง หากตัวเลขดังกล่าวสูงมากเกินความจำเป็น ผู้ใช้งานสามารถแตะเครื่องหมายถูกตรงหัวข้อ "จำกัดการใช้การเชื่อมต่อข้อมูลเบื้องหลัง" เพื่อปิดการทำงาน

ใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นโหลดข้อมูลล่วงหน้า (Preloading) และฟังก์ชั่นเก็บข้อมูลที่ใช้บ่อย (Caching)

การประหยัดการใช้ข้อมูลบนสมาร์ทโฟนเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานและนักพัฒนาแอพฯ คิดมาโดยตลอด แอพพลิเคชั่นบางอย่างที่ใช้ปริมาณการโหลดข้อมูลสูงๆ เช่นพวก คลิปวิดีโอสตรีมมิ่งออนไลน์ จึงถูกออกแบบให้มีตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับการโหลดข้อมูล

4. โหลดข้อมูลล่วงหน้าสำหรับแอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่ง

แอพพลิเคชั่นที่มีเนื้อหาเป็นคลิปวิดีโอสตรีมมิ่ง จะมีเมนูฟังก์ชั่นการตั้งค่าเพิ่มเติมที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาที่รับชมผ่านทาง Wi-Fi ก่อนที่จะรับชม และยังสามารถเรียกดูในภายหลังโดยไม่ต้องใช้งานข้อมูลเครือข่าย ตัวอย่างเช่น Youtube มีฟังก์ชั่น โหลดรายการที่สมัครรับข้อมูลไว้ล่วงหน้า และฟังก์ชั่นโหลดรายการดูภายหลังไว้ล่วงหน้า เป็นต้น

นอกจากนั้นแอพพลิเคชั่นวิดีโอสตรีมมิ่งบางอย่าง อาจจะมีฟังก์ชั่นที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถรับชมคลิปวิดีโอคุณภาพต่ำขณะที่ใช้งานการเชื่อมต่อข้อมูลเครือข่าย

5. ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูล ผ่านทาง Wi-Fi เท่านั้น

การดาวน์โหลดไฟล์เพลง, ภาพ, ภาพยนตร์ ที่มีไฟล์ขนาดใหญ่ ควรปิดการเชื่อมต่อเครือข่าย และใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi แทน

6. โหลดข้อมูลแผนที่ก่อนออกเดินทาง

Google Maps เวอร์ชั่น 7.0 ขึ้นไป สามารถบันทึก Offline Maps หรือการบันทึกแผนที่บางส่วนบริเวณที่สนใจบนหน้าจอเข้ามาเก็บไว้ในเครื่อง โดยพื้นที่ส่วนไหนที่ต้องการเซฟ ให้พิมพ์ที่ช่องค้นหาว่า "OK Maps" (รองรับเฉพาะบางพื้นที่ในโลกเท่านั้น) และเมื่อแผนที่ถูกดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่องแล้ว เวลาออกเดินทางก็สามารถเรียกดูและนำทางได้โดยไม่ต้องใช้การเชื่อมต่อข้อมูล

ตรวจสอบการตั้งค่าการซิงค์ข้อมูล

ด้วยฟังก์ชั่นซิงค์ข้อมูลอัตโนมัติของ Google เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรับทราบการอัพเดทหรือความเคลื่อนไหวล่าสุด แต่ในทางตรงข้าม การเชื่อมต่อข้อมูลและพลังงานแบตเตอรี่ก็ถูกใช้งานหนักในส่วนนี้เช่นกัน

7. ปรับตั้งค่าการซิงค์ข้อมูล

ข้อมูลบางอย่างที่ไม่จำเป็นต้องซิงค์ข้อมูล เช่น ภาพถ่ายหรือฟังก์ชั่นบางอย่างของ Google ที่ไม่ได้ใช้งาน ก็สามารถไปปรับตั้งค่าช่วงเวลาการซิงค์ข้อมูลให้ไม่ต้องถี่นัก ได้ที่ การตั้งค่า > บัญชีและการซิงค์ > Google และเลือกนำการซิงค์ที่ไม่จำเป็นหรือไม่ได้ใช้งานออกไป

8. ปิดการซิงค์ข้อมูลชั่วคราว

หากอยู่ในช่วงพักผ่อน พักร้อน หรือไม่มีความจำเป็นต้องทำให้ข้อมูลอีเมล์, งาน, บัญชีรายชื่อผู้ติดต่อ ให้อัพเดทตลอดเวลา การปิดซิงค์ข้อมูลก็ช่วยลดการใช้งานข้อมูลที่ไม่จำเป็นได้เป็นอย่างดี วิธีปิดการซิงค์ชั่วคราวให้เข้าไปที่ การตั้งค่า > บัญชีและการซิงค์ > ซิงค์อัตโนมัติ (ปิด)

9. ลดการใช้ข้อมูลผ่านเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต

ถ้าหากว่าการท่องเว็บคือตัวการหลักที่ทำให้ปริมาณข้อมูลเครือข่ายของคุณถูกใช้ไปอย่างรวดเร็วก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะว่าบางเว็บไซต์ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเนื้อหาให้เหมาะสมกับการใช้งานบนมือถือ แถมยังมีโฆษณาที่นอกจากจะกวนใจแล้วยังสิ้นเปลืองการใช้ข้อมูลเครือข่ายด้วย

วิธีการแก้ไขของ Google คือการสร้างฟังก์ชั่นบล็อค Pop Up ที่อยู่บนเว็บเพจเมื่อเปิดผ่าน Google Chome โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปิดกั้นโฆษณาส่วนใหญ่บนเว็บไซต์ที่มักจะอยู่ในรูปแบบ Pop Up นั่นเอง และอีกหนึ่งวิธีการคือบีบอัดข้อมูลเนื้อหาในเว็บเพจเพื่อให้มีขนาดลดลงและประหยัดข้อมูลในการดาวน์โหลด โดยเบราว์เซอร์ Opera เป็นเบราว์เซอร์ที่มีฟังก์ชั่นบีบอัดข้อมูลและสามารถแจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าประหยัดปริมาณการโหลดข้อมูลไปเป็นจำนวนเท่าใด

10. ตรวจสอบปริมาณการใช้ข้อมูลเครือข่ายด้วยตัวเอง

มีแอพพลิเคชั่นแอนดรอยด์ที่สามารถโหลดมาเพื่อใช้งานสำหรับตรวจสอบการใช้ข้อมูลเครือข่ายภายในเครื่อง (Data Monitor, Onavo Count, Data Taffic Monitor) ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ตระหนักว่าแอพใดที่เป็นสาเหตุหลักทำให้ข้อมูลเครือข่ายถูกใช้ไปอย่างสิ้นเปลือง

11. บีบอัดข้อมูลเครือข่ายที่ถูกโหลดมายังเครื่องโทรศัพท์

เป็นวิธีการสุดท้ายที่แนะนำ โดยแอพพลิเคชั่น Onavo สามารถใช้บีบอัดข้อมูลเครือข่ายที่ถูกโหลดเข้ามา วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณการใช้ข้อมูลเครือข่ายได้อย่างเห็นผล แต่ข้อเสียที่ต้องทำใจยอมรับคือการใช้งานทุกอย่างผ่านข้อมูลเครือข่ายจะช้าลงด้วย

โทรสอบถามผู้ให้บริการหรือศูนย์บริการของโทรศัพท์ที่ใช้งานอยู่

ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วยังไม่ช่วยให้การใช้งานข้อมูลเครือข่ายลดลงจนอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ก็ควรโทรหรือเข้าไปสอบถามความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญดีกว่าปล่อยให้เป็นปัญหาคาราคาซัง นอกจากจะทำให้ใช้งานโทรศัพท์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังต้องคอยกังวลกับค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่มองไม่เห็นอีกต่างหาก

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่