แก็ดเจ็ต (Gadget)  |   วันที่ : 30 มกราคม 2557

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Microsoft เผยผลสำรวจทัศนคติล่าสุดเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทย โดยพบว่า ถึงแม้การให้บริการคลาวด์มีการเติบโตเป็นอย่างมากในประเทศไทย แต่ยังมีผู้บริหารอีกเป็นจำนวนมากที่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานและความเป็นส่วนตัวที่อาจลดลงจากการใช้ระบบคลาวด์ โดยความเชื่อต่างๆ ที่ไม่ได้รับการยืนยันเหล่านี้ ล้วนเป็นอุปสรรคต่อองค์กรโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างคลาวด์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการทำงาน จากผลสำรวจล่าสุดนี้เอง ทำให้ไมโครซอฟท์ ในฐานะผู้นำบริการคลาวด์อย่างครบวงจร ได้เข้ามาเตรียมความพร้อมและให้ความรู้กับบริษัทต่างๆในประเทศไทยถึงประโยชน์ที่พึงจะได้รับจากการใช้เทคโนโลยีคลาวด์

พันธมิตรของไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายด้านไอที กว่า 2,000 รายจาก 11 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ได้แบ่งปันความเข้าใจผิดที่คล้ายกันในกลุ่มลูกค้าเกี่ยวกับบริการคลาวด์ ซึ่งนอกเหนือจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงาน (จากการไม่สามารถทำงานแบบออฟไลน์) และความเป็นส่วนตัว สิ่งที่พบตรงกันมากที่สุดจากผู้ร่วมตอบแบบสอบถามจำนวน 237 คนในประเทศไทยคือบริการคลาวด์ยังไม่พร้อมเต็มรูปแบบ ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัย และการเป็นเจ้าของข้อมูล

ปีแห่งเทคโนโลยีคลาวด์

ไอดีซี ได้คาดการณ์การใช้จ่ายเกี่ยวกับบริการคลาวด์สาธารณะในประเทศไทยว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 276 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปีพ.ศ. 2556 เป็น 868 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปีพ.ศ. 2560

นายฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า“เราเห็นแนวโน้มการเติบโตของคลาวด์อย่างต่อเนื่อง โดยองค์กรต่างๆ เห็นถึงประโยชน์ในการมีแพลตฟอร์มที่สามารถมอบบริการที่ดีเยี่ยมควบคู่ไปกับความปลอดภัยและการปกป้องความเป็นส่วนตัวเป็นหัวใจสำคัญ ด้วยเหตุนี้เราจึงมองว่าปีนี้เป็นปีของเทคโนโลยีคลาวด์ แต่ความเข้าใจผิดที่มีอยู่บางอย่างในกลุ่มผู้นำองค์กรอาจทำให้องค์กรพลาดโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากคลาวด์อย่างเต็มที่ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘We Make 70 Million Lives Better’ ของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เราและคู่ค้าของเราจะดำเนินการประสานความร่วมมือในการผลักดันและให้ความรู้กับธุรกิจไทย เกี่ยวกับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ อาทิ ความคล่องตัวและความคุ้มค่า ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการทำงานร่วมกันเป็นทีม สิ่งหล่านี้ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้นำองค์กรที่โลกของการทำงานได้เปลี่ยนไป พนักงานต้องการความยืดหยุ่น ความคล่องตัว และสามารถทำงานร่วมกันได้โดยติดต่อผ่านทางเครื่องมือโซเชียลต่างๆ”

ความเข้าใจผิดเหล่านี้สามารถอธิบายได้

ในการตอบแบบสอบถามเชิงลึก ไมโครซอฟท์ได้ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับความเข้าใจผิดเหล่านั้นด้วยการให้ความรู้กับตลาดมากขึ้น รวมถึงการเข้าถึงแหล่งข้อมูลเช่นเว็บไซต์ Office 365 Trust Center ซึ่งได้อธิบายเกี่ยวกับความกังวลต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปหาคำตอบเกี่ยวกับความเข้าใจที่ผิดทั้ง 11 ข้อ และข้อเท็จจริงต่างๆได้จากอินโฟกราฟิคนี้: http://www.microsoft.com/apac/news/cloud-myths/all/index.html

นายฮาเรซ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องเสริมประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Office 365 จากไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่อยู่บนระบบคลาวด์สามารถที่จะตอบข้อกังวลต่างๆ เหล่านี้ได้ นอกจากนี้ Office 365 ยังแตกต่างจากบริการคลาวด์โซลูชั่นทั่วไปตรงที่ได้รวมคุณประโยชน์ของคลาวด์ ขณะเดียวกันลูกค้ายังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงแม้ในขณะออฟไลน์อยู่ก็ตาม นอกจากนี้ Office 365 ยังช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์พกพาและเครือข่ายโซเซียลต่างๆ รวมถึงทำให้บริหารจัดการและการควบคุมระบบไอทีทำได้ง่ายขึ้น ไมโครซอฟท์มีประสบการณ์ในการให้บริการคลาวด์แก่ลูกค้ามามากกว่า 15 ปี และลูกค้าสามารถเชื่อมั่นได้ว่าจะได้รับประโยชน์จากการนำระบบคลาวด์มาใช้ได้อย่างสูงสุดตั้งแต่ครั้งแรกในการใช้งาน”

นอกจากนี้ Office 365 ยังได้รับการสนับสนุนโดยนโยบายการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังรับประกันด้วยข้อตกลงระดับการบริการที่รับประกันการอัพไทม์ร้อยละ 99.9 (Service Level Agreements -SLAs) พร้อมการคืนเงิน รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ Office 365 Trust Center website

ข้อมูลผลสำรวจเพิ่มเติมจากประเทศไทย :

  • ร้อยละ 50 (เทียบกับร้อยละ 46 ในเอเชียเปซิฟิค) ผู้นำองค์กรยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับคลาวด์น้อยมาก
  • ร้อยละ 64ระบุธุรกิจของพวกเขามีการใช้งานบริการคลาวด์มากกว่าร้อยละ 10
  • ส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าผู้นำยุค Gen-Yมักจะเป็นกลุ่มที่มีความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของคลาวด์มากที่สุด

ประโยชน์สูงสุด 3 ข้อ ที่ลูกค้ามองว่าได้รับจากที่ใช้งาน Office 365 คือ

  • ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานให้กับพนักงาน
  • ลดค่าใช้จ่ายด้านการวางระบบไอที
  • ความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ

การเติบโตของ Office 365 ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค

ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Office 365 เมื่อกลางปี พ.ศ. 2555 ปัจจุบัน Office 365 ได้กลายเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของไมโครซอฟท์ ทุกๆหนึ่งใน 4 ของลูกค้าระดับองค์กรจะใช้งาน Office 365 สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค Office 365 เติบโตเร็วกว่าบริการคลาวด์สาธารณะถึงสามเท่า เนื่องจากการเข้ามาของแนวโน้มอย่างบีวายโอดี หรือการเลือกอุปกรณ์ใช้งานด้วยตนเองความจำเป็นที่ต้องการทำงานที่ใดก็ได้เพิ่มมากขึ้น และการทำงานร่วมกันเป็นทีมโดยผ่านเครื่องมือโซเชียลต่างๆ วันนี้ไมโครซอฟท์มีคู่ค้าหรือพาร์ทเนอร์มากกว่า 13,500 ราย ที่ให้บริการแก่ธุรกิจทุกขนาดทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ลูกค้าที่ใช้บริการ Office 365 ได้แก่ Red Cross in Asia Pacific; Coles, Link Healthcare and V8 Supercars ประเทศออสเตรเลีย MedcoEnergi ประเทศอินโดนีเซีย MPH Group and KPJ Healthcare ประเทศมาเลเซีย Auckland Transport and Icebreaker ประเทศนิวซีแลนด์ Coca Cola FEMSA ประเทศฟิลิปปินส์ Kah Motor, SATS, และ Tiger Airways ประเทศสิงคโปร์

ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปได้ที่ www.microsoft.com/thailand

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่