กล้องถ่ายภาพ (Action Camera)  |   วันที่ : 4 เมษายน 2557

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

iOS ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภคทั่วโลกในปัจจุบันและยังเป็นคู่แข่งคนสำคัญในตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตโลกของ Android OS อีกด้วย ซึ่งหลายคนอาจกำลังใช้งานผ่าน iPhone, iPad, iPod อยู่ แต่ก็อาจมีอีกหลายคนที่อาจจะยังไม่รู้จักหรือรู้จักแบบคร่าวๆ ดังนั้นเรามารู้จัก iOS ระบบปฏิบัติการจาก Apple กันให้มากขึ้นอีกนิดผ่านบทความนี้กัน

iOS (iPhoneOS) คืออะไร? 

iOS หรือเดิมชื่อ iPhone OS เป็นระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์พกพาที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท Apple Inc. (Apple Computer Inc.) โดยมีพื้นฐานในการพัฒนาจาก Mac OS X และ Darwin (OS แบบเปิดพัฒนาโดย Apple Inc.) ภายใต้แนวความคิด "Direct Manipulation" (การควบคุมโดยตรง) ซึ่งเน้นการควบคุมและใช้งานผ่านระบบสัมผัสด้วยนิ้ว (Multi-touch), ปุ่มและสวิทซ์ โดยจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะใส่ไว้ในตัว Device (Built in) ซึ่งเป็นตัวกลางในการควบคุม และในปัจจุบันระบบปฏิบัติการ iOS ได้ถูกนำไปใช้งานผ่าน Device พกพาของ Apple เองได้แก่ iPhone, iPad, iPod และในอนาคตอาจได้เห็นบนอุปกรณ์สวมใส่เช่น Smartwatch ด้วยเช่นกัน

Version ของ iOS 

iOS ถูกนำมาใช้งานเป็นครั้งแรกในปี 2007 ซึ่งเปิดตัวพร้อมสมาร์ทโฟน iPhone รุ่นแรกและถูกเรียกว่า iPhone OS ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อเป็น iOS ในภายหลัง ซึ่งนับจากปี 2007-ปัจจุบัน Apple ได้ปล่อย iOS ออกมาให้ใช้งานกันทั้งหมดถึง 7 เวอร์ชั่นหลักแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้

iOS X หรือ iPhone OS (First Generation)

iOS เวอร์ชั่นแรกนี้เปิดตัวภายในงาน MacWorld Expo ซึ่งมาพร้อมกับสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของบริษัท Apple และสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสมาร์ทโฟนที่มาปฏิวัติวงการมือถือ ณ ตอนนั้นเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการมาพร้อมระบบหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive Multi-touch ที่สามารถใช้การควบคุมผ่านนิ้วด้วยการแสดงท่าทางของนิ้วเช่น การใช้นิ้วจีบเข้า-ออกเพื่อใช้ฟังก์ชั่น Zoom ภาพ เป็นต้น และนอกจากนี้ยังสามารถใช้งานแป้มพิมพ์คีย์บอร์ดด้วยการสัมผัสและเก็บได้เองเมื่อไม่ใช้งานอีกด้วย ซึ่ง ณ ตอนนั้น สตีฟ จ็อบส์ได้กล่าวว่า iPhone OS ของ Apple เป็น OS บนอุปกรณ์พกพาที่ก้าวนำสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในสมัยนั้นไปข้างหน้าถึง 5 ปีเลยทีเดียว

iOS 2.0 หรือ iPhone OS 2.0

iOS เวอร์ชั่นที่ 2 นี้เปิดตัวพร้อมกับการมาของ iPhone 3G ในปี 2008 และมีการเพิ่ม App Store เข้ามาใช้งานด้วย ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้งด้วยการเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจากผู้พัฒนาค่ายต่างๆ ลงบน iPhone ได้ผ่านทาง App Store ที่ได้รับการคัดกรองจากทาง Apple ว่าปลอดภัยและไม่ต้องไปหาโหลดผ่านเว็บของผู้ผลิตหรือที่อื่นๆ เอง ซึ่งอาจเกิดปัญหาในเรื่องการดักข้อมูลของผู้ใช้งานได้อีกด้วยและทาง Apple ก็ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเขียนแอพพลิเคชั่นส่งขึ้น App Store ได้ด้วย

iOS 3.0 หรือ iPhone OS 3.0

iOS เวอร์ชั่นที่ 3 นี้ก็ยังถูกเรียกว่า iPhone OS อยู่เหมือนเดิม ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ทาง Apple เปิดให้ใช้งานได้ในปี 2009 และมาพร้อมกับการเปิดตัวของ iPhone 3GS ด้วย โดยในเวอร์ชั่นนี้ได้มีการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่ยังขาดหายไปในเวอร์ชั่นก่อนๆ เข้ามามากพอสมควรเช่น การเพิ่มการ Copy-Paste ข้อความ, เพิ่มความสามารถในการส่ง MMS, เพิ่มฟังก์ชั่นเขย่าแล้ว undo ข้อความ, เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานแอพพลิเคชั่นในแนวนอน ฯลฯ เป็นต้น นอกจากนี้ในเวอร์ชั่นนี้ยังรองรับการใช้งานบน iPod และ iPad ที่จะทำการเปิดตัวในช่วงต้นปี 2010 และนับเป็นการปฏิวัติวงการ Tablet อีกครั้งด้วยกับการมาของ iPad 

iOS 4.0 

iOS เวอร์ชั่นที่ 4 นี้เป็นเวอร์ชั่นที่เปลี่ยนชื่อที่จากเดิมเรียกว่า iPhone OS มาตลอดมาใช้เป็น iOS และเป็นเวอร์ชั่นแรกที่ iPhone รุ่นแรกไม่รองรับการใช้งาน โดยมีการเพิ่มการใช้งานเข้ามามากมายเช่น การทำงานแบบ Multitasking, เพิ่มการใช้งาน Folders ในหน้า UI, iBooks มาพร้อมกับการเปิดตัวของ iPad รุ่นแรกด้วย ฯลฯ เป็นต้น และ iOS 4 ยังมาพร้อมกับการเปิดตัวของ iPhone 4 ในปี 2010 ที่มีการดีไซน์ตัวเครื่องใหม่เกือบหมดและมีการนำ Facetime มาใช้งานบน iPhone 4 ด้วยนั้นเอง

iOS 5.0

iOS เวอร์ชั่นที่ 5 นี้เป็นเวอร์ชั่นที่มีการเปลี่ยนช่วงเวลาของการเปิดตัวจากปกติจะเปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคมเปลี่ยนมาเป็นในช่วงเดือนมิถุนายนในงาน WWDC 2011 แทน โดยในเวอร์ชั่นนี้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น การยุติการรองรับการใช้งานของ iPhone 3G และ iPod Touch Gen 2 ใน iOS 5 รวมถึงการเพิ่มฟังก์ชั่นและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานเข้ามาอีกมากมาย เช่น

  • Notification Center
  • iMessage
  • Newsstand
  • Twitter Intergrate
  • Reminders
  • WiFi-Sync
  • iCloud

โดย iOS 5 ยังมาพร้อมกับการเปิดตัวของ iPhone 4S สมาร์ทโฟนซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชั่นผู้ช่วยการใช้งานที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในตอนนั้นอย่าง Siri อีกด้วย

iOS 6.0

iOS เวอร์ชั่นที่ 6 นี้เปิดตัวภายในงาน WWDC 2012 และทาง Apple เปิดให้ผู้ใช้งานได้อัพเดทใช้งานได้ในช่วงเดือนกันยายน 2012 ซึ่งเวอร์ชั่นนี้ได้ยกเลิกการรองรับการใช้งานบน iPad 1 และ iPod touch Gen 3 ด้วย และยังมีการปรับปรุงในส่วนต่างๆ ของระบบ iOS ให้มีความสามารถที่เพิ่มมากขึ้นและหลากหลาย มีรายละเอียดหลักๆ ดังนี้

  • Apple Maps – หลังจากที่ Google ทำ android OS ออกมาทาง Apple เลยต้องการลดการพึงพา Google ให้น้อยลง โดยหันมาพัฒนาระบบแผนที่เอง ซึ่งใช้ชื่อว่า Apple Maps ชูจุดเด่นที่ UI ที่สวยงาม
  • Siri – เพิ่มความสามารถในการหาข้อมูลการแข่งขันกีฬา หาร้านอาหาร หาภาพยนต์ หรือสั่งเปิดแอพฯ ที่ใช้งานอยู่ได้ 
  • Facebook – เพิ่มการผูกบัญชี Facebook ในเครื่องเข้ามาเช่นเดียวกันกับ Twitter
  • Passbook – เป็นการเก็บตั๋วและบัตรต่างๆ เข้ามาไว้ใน iPhone ช่วยให้ไม่ต้องพกบัตรเยอะไว้ในกระเป๋าตังอีกต่อไปแล้ว
  • Shared Photo Streams – เป็นการแชร์ภาพผ่าน Photo Stream ซึ่งสามารถแขร์ให้เพื่อนๆ ของเราดูรูปได้ถึงแม้ว่าเพื่อนของเราจะไม่มี iPhone หรือเครื่อง Mac ก็ตาม
  • Panorama Camera – เพิ่มความสามารถในการถ่ายรูปแนวกว้างเข้ามาในโหมดถ่ายรูป

และนอกจากนี้ยังมีความสามารถอื่นๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาอีกมากมายเช่น Safari สามารถเข้าชมเว็บไซต์แบบเต็มจอได้แล้ว และมีการเพิ่ม iCloud Tab เข้ามา, แอพฯ EMail สามารถเลื่อนลงมาเพื่อ refresh หน้าจอได้ และสามารถใช้งาน Facetime ผ่านเครือข่าย 3G ได้แล้วเป็นต้น

iOS 7.0

เป็น iOS เวอร์ชั่นล่าสุด ณ ตอนนี้ (iOS 7.1) และถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงของ iOS ใหม่เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการปลด Scott Fostall ที่เป็นคนดูแลระบบและดีไซน์ของ iOS มาตั้งแต่ต้น โดยยกงานทั้งหมดด้านการออกแบบมาให้ทาง Jonathan Ive ผู้ซึ่งเคยออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Apple มาแล้วไม่ว่าจะเป็น iMac iPod หรือ iPhone รับหน้าที่ต่อแทน

iOS 7 นั้นได้เปลี่ยนดีไซน์ของตัวระบบปฏิบัติการใหม่ทั้งหมด โดยเน้นดีไซน์ในรูปแบบของ Flat Design แทนของเดิม โดย Flat Design กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันด้วยเช่นกัน และในเวอร์ชั่นนี้ได้มีการยกเลิกการรองรับการใช้งานของ iPhone 3GS และ iPod touch Gen 4 ออกไป นอกจากจะมีการเปลี่ยนด้าน Design ทั้งหมดแล้ว ยังมีการเพิ่มความสามารถใหม่ๆ เข้ามาไม่ว่าจะเป็น Control Center, AirDrop, Notifications Center และการแจ้งเตือนแบบใหม่, เพิ่ม iTunes Radio เข้ามา, แอพฯ Photos แบบใหม่ และเพิ่มโหมดกล้องถ่ายรูปให้ใส่ฟิลเตอร์สำหรับแต่งภาพได้ ฯลฯ เป็นต้น

iOS 7.1 

เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของ iOS ณ ตอนนี้ ที่ทาง Apple ได้ทำการปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ (Bug) ที่เกิดขึ้นใน iOS 7 และมีการปรับลูกเล่นรวมถึงหน้าตาของ UI บางจุดให้ดูสบายตาและใช้งานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย  

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเนื้อหาส่วนนึงที่เกิดขึ้นในระบบปฏิบัติการ iOS ที่นับเป็นระบบปฏิบัติการที่เรียกได้ว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้ใช้งานทั่วโลก จากจุดเด่นทั้งด้านของแอพพลิเคชั่นที่มีมาให้โหลดก่อนใครและตัวระบบปฏิบัติการที่จัดได้ว่ามีความเสถียรค่อนข้างมากที่เดียว

ซึ่งเราต้องติดตามกันต่อไปว่าในเวอร์ชั่นต่อๆ ไปของ iOS ทาง Apple จะนำนวัตกรรมรวมถึงเทคโนโลยีที่น่าสนใจอะไรมาให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้เห็นและได้ใช้กันและหวังว่าบทความนี้จะมีส่วนทำให้ผู้ใช้งานหลายๆ คนรู้จักระบบปฏิบัติการชื่งดังของ Apple อย่าง iOS มากขึ้นจากเดิมไม่มากก็น้อย

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่