ข่าวต่างประเทศ วันที่ : 20 มิถุนายน 2557
สัญลักษณ์หรือโลโก้ของแบรนด์แต่ละแบรนด์นั้น ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบริษัทแต่ละบริษัทเลยก็ว่าได้ และยังเป็นจุดสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตัวบริษัท สินค้า และผู้บริโภคเข้าไว้ด้วยกันอีกด้วย แต่เชื่อว่าอาจมีอีกหลายๆ คนคงเคยสงสัยหรือไม่รู้ว่าโลโก้ของบริษัทต่างๆ ที่เราเคยเห็นนั้นมีที่มาอย่างไร หรือมีความหมายอย่างไรกันแน่ ทำไมถึงดีไซน์ออกมาแบบนี้ วันนี้เรามีคำตอบส่วนหนึ่งมาฝากกันกับโลโก้ของ 5 แบรนด์ดังในแวดวง IT
เริ่มกันที่ Google Inc.
บริษัท Google ที่หลายๆ คนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีนั้น มีโลโก้บริษัทเป็นตัวอักษรคำว่า Google ซึ่งแต่ละตัวอักษรมีการแต่งเติมสีสันให้ดูแตกต่างกัน โดยทาง Google ต้องการที่จะสื่อให้เห็นถึงความแตกต่างทางด้านความคิด และความสนุก (Playfulness) ซึ่งไม่จำเป็นต้องพึ่งสัญลักษณ์ใดๆ นั้นเอง และมีการเติมความสนุกในรูปแบบของสีเข้ามา
และจะเห็นว่าสีทั้งหมดในโลโก้ของ Google นั้นจะเป็นแม่สีทั้งหมดยกเว้นตัวอักษรเพียงตัวเดียวคือตัว “ L ” ที่เป็นสีเขียว โดยสีเขียวนั้นเป็นสีที่ได้จากการผสมของแม่สี (secondary color) และนั้นเองเป็นอีกสิ่งที่ทาง Google พยายามจะสื่อถึงบุคลิกอีกตัวตนของบริษัทที่ไม่สามารถใช้กฎเกณฑ์ใดๆ มาเปลี่ยนแนวทางของบริษัทได้ เพราะขนาดตัว L บนโลโก้ของบริษัทยังไม่สามารถเปลี่ยนไปตามกฎได้เลย
Android (หุ่นเขียว)
ระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์พกพาอันเลื่องชื่อของ Google "Android OS" มาพร้อมโลโก้เป็นรูปหุ่นยนต์สีเขียว โดยโลโก้หุ่นยนต์สีเขียวนี้มีที่มาจาก Irina Blok นักออกแบบที่เคยทำงานกับ Google เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเขากับเพื่อนได้รับมอบหมายให้ออกแบบโลโก้หรือสัญลักษณ์ที่จะสามารถสื่อให้ผู้คนที่เห็นนึกถึงหุ่นยนต์ได้ทันที โดยเธอได้เริ่มความคิดในการออกแบบจากการดูของเล่นต่างๆ ที่เป็นแนวอวกาศและวิทยาศาสตร์ต่างๆ ที่จะสามารถช่วยให้เธอได้ไอเดียในการออกแบบได้
จนในที่สุดเธอได้ไปสะดุดกับสัญลักษณ์ของห้องน้ำที่เป็นรูปตัวละครผู้ชายและผู้หญิงเปลือยเปล่า เธอจึงได้นำแรงบันดาลใจนั้นมาออกแบบโลโก้หุ่นยนต์ ด้วยการนำมาเติมเสาอากาศ และปรับแต่งๆ ต่าง จนเธอและทีมงานเห็นพ้องร่วมกันว่าโลโก้ที่จะมาเป็นสัญลักษณ์ของระบบปฏิบัติการ Android นั้นต้องสื่อถึงการทำงานร่วมกันที่ทุกคนในโลกสามารถปรับแต่งได้ตามใจต้องการเหมือนที่ Android OS เป็นนั้นเอง จนในที่สุดก็ได้เป็นโลโก้หุ่นยนต์สีเขียวแบบในปัจจุบันที่ไม่ว่าใครก็สามารถนำไปปรับแต่งให้เป็นรูปแบบต่างๆ ตามที่หลายคนต้องการได้ ตามเจตนารมณ์ในการออกแบบของเธอ
Apple
Apple Inc. เป็นอีก 1 บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการ IT ทีหลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ของบริษัทที่เป็นรูปผลแอปเปิ้ลแหว่งนั้นเอง ซึ่งก่อนจะมาเป็นรูปผลแอปเปิ้ลแหว่งแบบในปัจจุบันนั้น ทาง Steve Jobs เคยได้ใช้โลโก้ของบริษัทมาแล้ว 2-3 แบบ โดยทาง Ronald Wayne เป็นผู้ออกแบบโลโก้แรกที่เป็นรูปของ เซอร์ ไอแซก นิวตันนั่งอยู่ใต้ต้นไม้และมีแอปเปิ้ลตกลงบนหัวให้กับ S. Jobs ตามข้อตกลงร่วมที่จะใช้ชื่อบริษัทว่า "Apple"
ต่อมาเมื่อบริษัทเริ่มขยายใหญ่ขึ้น S. Jobs จึงว่าจ้าง Rob Janoff เป็นผู้ออกแบบโลโก้ใหม่ให้กับบริษัท แต่หลังจากได้เลือกใช้โลโก้เป็นรูปแอปเปิ้ลคาดด้วยสีสันต่างๆ แล้ว กลับให้ผลตรงกันข้ามผู้บริโภคหลายๆ คนกลับมองว่าเป็นลุกเชอรี่บ้าง ลูกมะเขือเทศบ้าง ทาง R. Janoff จึงกลับไปออกแบบใหม่ด้วยการทำให้ผลแอปเปิ้ลมีรอยแหว่งเหมือนโดนกัด และคำว่ากัด (Bite) ในภาษาอังกฤษก็พ้องเสียงกับคำว่า Byte ที่เป็นหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ด้วยนั้นเอง และทาง S. Jobs ก็เลือกใช้โลโก้แอปเปิ้ลแหว่งเป็นโลโก้ของบริษัทเรื่อยมาจนปัจจุบัน
Sony
เป็นอีกบริษัทที่เมื่อเอยชื่อ ผู้ใช้งานหลายๆ คนมันจะนึกถึงอุปกรณ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ในแวดวง IT สำหรับชื่อและโลโก้ของ Sony นั้นยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าจริงๆ แล้วมีที่มาอย่างไรกันแน่ แต่หากอ้างอิงจากข้อมูลที่ลงในนิตยสารฮิฮิ ฉบับที่ 13 จะสามารถชี้ได้ว่าคำว่า Sony ที่ใช้เป็นโลโก้ของบริษัทในทุกวันนี้มีที่มาอย่างไร
Sony เป็นแบรนด์สินค้าจากประเทศญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกแบรนด์หนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยคุณมาซารุ อิบุกะ และ อากิโอะ โมริตะ เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา และนำชื่อ SONY มาใช้ โดยเป็นคาดกันว่าน่าจะเกิดจากการผสมของคำว่า Sonus ที่ในภาษาละตินมีความหมายว่า เสียง, Sunny มีความหมายในภาษาอังกฤษว่า อากาศดี และ Sonny boys ที่เป็นศัพท์สแลงในภาษาญี่ปุ่น มารวมเข้าด้วยจนเกิดเป็นคำว่า Sony ที่เป็นคำที่ไม่มีความหมายในภาษาใดๆ เลย แต่ผู้คนทั่วโลกและเกือบทุกภาษารู้จักคำนี้เป็นอย่างดี
Amazon
บริษัทด้าน Shop Online รายใหญ่ของโลกที่หลายๆ คนอาจคุ้นเคยหรือใช้งานกันบ่อยๆ สำหรับโลโก้ของ Amazon นั้นมีลักษณะเป็นคำว่า Amazon.com และตามด้วยรอยยิ้มด้านล่าง หากเราสังเกตดีๆ ในโลโก้ของ Amazon นั้นจะมีรอยยิ้มลักษณะเหมือนลูกศรที่ชี้จาก A ไป Z ซึ่งนั้นมาจากความหมายที่ทาง Amazon ตั้งใจจะสื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจว่า ทาง Amazon มีทุกอย่างที่คุณต้องการตั้งแต่ A ถึง Z เลยนั้นเอง
ที่มา : listverse.com วันที่ : 20 มิถุนายน 2557
30 นาทีที่แล้ว Mahajak Year End Sale 2020 ลดสูงสุด 30% ซื้อคู่สุดคุ้ม รับของสมนาคุณฟรี
2 ชั่วโมงที่แล้ว Lenovo ชูนวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด
3 ชั่วโมงที่แล้ว OPPO A53 สมาร์ทโฟนน้องเล็ก สีเขียว Mint Cream ใหม่
4 ชั่วโมงที่แล้ว Dell เผยผลิตภัณฑ์พีซี มอนิเตอร์ พร้อมซอฟต์แวร์ใหม่
6 ชั่วโมงที่แล้ว LINE BK ส่งโปรฯ วงเงินให้ยืม ดอกเบี้ยพิเศษ 9.99%
Samsung Galaxy M02s รุ่นเล็กพลังแบตเตอรี่ 5,000mAh กล้องหลัง 3 เลนส์ ลุ้นเข้าไทยเร็วๆ นี้ !
สยามโฟน.คอม มือถือเทรนด์ใหม่ 2021! มือถือน่าใช้ มือถือรุ่นใหม่ คุ้มค่าน่าซื้อ จะเป็นอย่างไร
หมอชนะ ประเมินความเสี่ยงโควิดใน 4 ขั้นตอน พร้อมวิธีลงทะเบียนใช้งาน
ชี้เป้า! Huawei ลดราคาแท็บเล็ตหนักมากสูงสุด 5,000 บาท Work from home ชิลๆ
หลุดภาพ OPPO Find X3 Pro ดีไซน์ใหม่ จอสวย กล้องคมชัด 50 ล้านพิกเซล
(อัพเดต พฤศจิกายน 2563) ถึงจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปนานแล้ว สำหรับ The Next iPhone รุ่นใหม่ ทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น iPhone 11 / iPhone 11 Pro / iPhone 11 Pro Max แต่ก็ยังได้รับความสนใจอยู่ตลอดเวลา ด้วยดีไซน์และจุดเด...