สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 29 มีนาคม 2566
รู้หรือไม่! ถ้ามือถือหาย หรือเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด, โดนขโมย, สูญหาย หรือตัวเครื่องเสียหาย คุณอาจไม่ต้องปวดหัวหรือเสียใจมากในการติดตามค้นหา หากได้ทำประกันภัยโทรศัพท์มือถือไว้ จะช่วย save ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมได้ แถมบางประกันยังมีโทรศัพท์มือถือไว้ให้ใช้งานระหว่างรอประกันอนุมัติด้วย ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า ประกันภัยโทรศัพท์มือถือคืออะไร ประกันภัยโทรศัพท์มือถือมีกี่ประเภท ควรทำประกันภัยโทรศัพท์มือถือไว้หรือไม่?
การประกันภัยโทรศัพท์มือถือ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
ประกันร้าน คืออะไร เมื่อซื้อโทรศัพท์มือถือจากร้านจะได้รับความคุ้มครองอัตโนมัติ โดยจะได้รับความคุ้มครองไม่เกิน 7 วัน หากมีความผิดปกติที่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุผู้ใช้งาน ปกติจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทันที หลังจากพิสูจน์สาเหตุแน่ชัด อาทิ เครื่องเปิดไม่ติด, เลนส์กล้องมีปัญหา, หน้าจอแสดงผลสีผิดเพี้ยน, ปุ่มควบคุมกดไม่ติด ใช้งานไม่ได้, แบตเตอรี่ชาร์จแบตฯ ไม่เข้า เป็นต้น หากเกิดปัญหาให้นำโทรศัพท์มือถือไปแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นกับร้านที่ซื้อได้เลย
อย่างไรก็ดีก่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ ควรทดลองกดปุ่มต่างๆ บนตัวเครื่องและทดลองฟังก์ชั่นต่างๆ ให้ดีก่อนจ่ายเงินทุกครั้ง ที่สำคัญเก็บใบเสร็จไว้ด้วย เผื่อว่าเกิดปัญหาใดขึ้นมา จะทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบ!!!
ประกันศูนย์ คืออะไร เป็นประกันที่เมื่อซื้อโทรศัพท์มือถือจะได้รับสิทธิ์ความคุ้มครองจากแบรนด์นั้นๆ ส่วนใหญ่สิทธิ์ความคุ้มครองจะไม่เกิน 1 ปี ถ้าเครื่องมีปัญหาสามารถส่งเคลมได้เลย แต่คุ้มครองเฉพาะอาการชำรุดเกิดจากความผิดพลาดของตัวเครื่องอันเนื่องจากการผลิตเท่านั้น ไม่ใช่ปัญหาจากการใช้งาน
วิธีการเคลมประกันศูนย์ : ผู้ซื้อต้องแสดงใบเสร็จเงิน/ใบกำกับภาษี หรือใบรับประกันเพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงวันที่ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ต่อเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ ในกรณีที่ผู้ซื้อต้องการการคุ้มครองการรับประกันผลิตภัณฑ์และการเก็บใบรับประกันและหลักฐานการซื้อไว้ตลอดการใช้งาน
ข้อแตกต่างระหว่าง ประกันร้านและประกันศูนย์
--- สำหรับประกันร้าน เคลมได้ทันทีไม่เกิน 7 วัน แต่บางร้านก็จัดไปเลย 30 วัน เมื่อเครื่องเกิดปัญหาจากการผลิต เปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ทันที
--- ส่วนประกันศูนย์ เกินประกันจากร้านมาแล้ว แต่ประกันศูนย์จะเป็นของแบรนด์นั้นๆ เมื่อเกิดปัญหาส่งเคลมได้เลยเช่นกัน แต่ต้องไปที่ศูนย์บริการเท่านั้น
ประกันภัยโทรศัพท์มือถือคืออะไร เมื่อเกิดอุบัติเหตุตกหล่น, ตกน้ำ, น้ำท่วมม พายุ, ไฟไหม้, ฟ้าฝ่า, โดนขโมย หรือสูญหาย ผู้ทำประกันจะได้รับความคุ้มครอง จากเบี้ยประกันที่ได้จ่ายไปของแต่ละกรณีที่ทำไว้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดประกันภัยแต่ละผู้ให้ประกัน ดังนั้นผู้ทำประกันต้องตรวจสอบ รายละเอียดกรมธรรม์ให้ละเอียด ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ความคุ้มครองอย่างครบถ้วน และตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด
การทำประกันภัยมือถือ ดีอย่างไร จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ที่เกิดจากอุบัติเหตุต่างๆ ไม่ต้องจ่ายในราคาเต็ม เช่น ค่าซ่อมแซมทั้งหมด 9,000 บาท ผู้ที่ทำประกันไว้ก็จะไม่ต้องจ่ายในราคาเต็ม แต่จะจ่ายเท่าใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกัน ของแต่ละราย
ก่อนทำประกันภัยโทรศัพท์มือถือ ควรอ่านรายละเอียดที่สำคัญอะไรบ้าง
ตัวอย่างผู้ให้บริการด้านการประกันภัยโทรศัพท์มือถือ
ก่อนทำประกันภัยโทรศัพท์มือถือ เงื่อนไขใดที่ควรต้องมีในกรมธรรม์
อย่างไรก็ดีผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ควรพิจารณาถึงประโยชน์ อ่านรายละเอียด เงื่อนไขต่างๆ ในการทำประกันภัยทุกครั้ง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง ตามประกันที่เราได้จ่ายออกไป ที่สำคัญคือ วงเงินคุ้มครอง โดยจะไม่ใช่ 100% อย่างน้อย 1-3 ปี ควรคุ้มครองขั้นต่ำที่ 50% ขึ้นไป
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 29 มีนาคม 2566
เปิดรายชื่อรุ่นสมาร์ทโฟน Xiaomi, POCO และ Redmi ที่จะได้รับอัปเดต HyperOS 2
ชี้เป้า! สมาร์ทโฟน HONOR ลดราคาสูงสุด 5,000 บาท ฟรี HONORxENGFA Gift Box Limited Edition
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 14X 5G หน้าจอ 120Hz กันน้ำ IP69 แบตฯ 6000mAh ชาร์จเร็ว 45W อัปเดต OS นา...
ทำความรู้จัก Infinix HOT 50i หน้าจอ 120Hz เก็บข้อมูลจุใจ 256GB ราคาใหม่ พร้อมสีใหม่สดใส
พรีวิว HUAWEI Mate X6 ก้าวใหม่ของสมาร์ทโฟนจอพับ ผสมความทนกับความบางอย่างลงตัว
realme Neo7 หน้าจอ 6.78 นิ้ว 1.5K ขุมพลัง Dimensity 9300+ กันน้ำกันฝุ่น IP68+IP69 แบตฯ 7000mAh
Redmi Buds 6 Pro อัปเกรดการตัดเสียงรบกวน 55 เดซิเบล เทคโนโลยีเสียงมาครบ
Motorola ก้าวสู่ยุคใหม่แห่ง AI ด้วย Moto AI และ Smart Connect
Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกรันบน HyperOS 2 หน้าจอสี่เหลี่ยม AMOLED กว้าง 2.07 นิ้ว