หมวดอื่นๆ (Other) | วันที่ : 27 มิถุนายน 2557
หลายๆ คนที่เป็นสาวกหรือผู้ใช้งาน Android อาจจะยังไม่ทราบว่าทาง Google ได้ทำการเปลี่ยนหัวหน้าทีมของ Android จากคุณ Andy Rubin ที่เป็นผู้ก่อตั้งและคิดค้น Android OS มาเป็นคุณ Sundar Pichai หัวหน้าทีม Google Chrome มาได้สักระยะแล้ว โดยคุณ S. Pichai ก็ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆ เกี่ยวกับตัวเขาและ Android OS รวมไปถึงความเป็นมาในการโยกย้ายตัวเขามาแทนที่ Andy Rubin และทิศทางของ Android นับจากนี้เอาไว้มากมายกับทาง Businessweek ซึ่งเรียกได้ว่าหากเป็นคนรักแอนดรอยด์ควรจะอ่านเลยทีเดียว
เริ่มกันที่ประวัติของคุณ Sundar Pichai
คุณ Sundar Pichai เป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ชาวอินเดีย โดยเขาเข้าทำงานกับทาง Google ครั้งแรกในปี 2004 ในตำแหน่ง Product Manager and Innovation ในทีม Google Chrome ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันเป็นหัวหน้าทีม Android และ Google Chrome&App ในบริษัท Google
โดยเขามีผลงานหลักๆ หลังเข้ามาดูแลทีม Android ดังนี้
ความเป็นมาในการเข้ามาดูแลทีม Android ในปี 2013
คุณ Sundar Pichai ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเข้ามาเป็นหัวหน้าทีม Android ต่อจาก Andy Rubin ว่า จริงๆ แล้วเขากับ Andy ไม่ได้มีปัญหาใดๆ ต่อกันเลย ถึงแม้จะไม่ได้สนิทกันมาก แต่ก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันเสมอมา แต่เขาคิดว่าอาจเป็นเพราะสไตล์การทำงานของ Andy ที่ค่อนข้างเป็นแบบปิดและไม่ค่อยเป็นมิตรกับบริษัทพันธมิตรด้านฮาร์ดแวร์เท่าไรนัก และถึงขนาดทีมงานในส่วนอื่นๆ ของ Google ยังบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าทำงานร่วมกับ Apple ยังง่ายกว่าทำงานร่วมกับทีม Android ของ Andy เสียอีก
จึงทำให้ทาง Larry Page CEO ของ Google ต้องทำการร้องขอให้ทาง Andy Rubin เปลี่ยนแนวทางการทำงานให้เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงแรกทาง Andy Rubin ก็ยินยอมที่จะลองเปลี่ยนสไตล์การทำงานของตนให้เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น แต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนใจและขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าทีม Android ในที่สุด พร้อมให้เหตุผลว่า เขาเปลี่ยนรูปแบบและสไตล์การทำงานของตนเองไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับงานนี้
ทาง Larry Page จึงให้ทาง Andy Rubin ย้ายไปทำงานในส่วนของโครงการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ทาง Google เพิ่งทำการซื้อกิจการบริษัทด้านพัฒนาหุ่นยนต์มาถึง 8 บริษัทแทน และแต่งตั้งคุณ S. Pichai เข้ามารับหน้าที่ดูแลทีม Android ต่อจาก Andy Rubin แทนจากผลงานการดูแลทีม Google Chrome ได้เป็นอย่างดีนั้นเอง
สัมผัสแรกเมื่อเข้ามาดูแลทีม Android ต่อจาก Andy Rubin
คุณ S. Pichai ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับงานแรกของเขาเมื่อเข้ามาดูแลทีม Android ว่า งานแรกของเขาคือการเรียกความมั่นใจให้กับทีม โดยเขามองว่าทีมของ Android เป็นทีมขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีอยู่แล้ว และงานต่อมาก็คือการเริ่มเดินหน้าเชื่อมความสัมพันธ์กับทีมงานอื่นๆ ใน Google อีกครั้ง โดยมีแกนหลักอยู่ที่ Google Now (เป็นไอเดียของ A. Rubin)
ทัศนคติและทิศทางของ Android หลังจากนี้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเขาเกี่ยวกับทัศนคติต่อคำพูดของ Tim Cook CEO Apple คู่แข่งคนสำคัญที่ได้กล่าวไว้ในงาน WWDC 2014 ว่า "Android fragmentation turning devices into a toxic hellstew of vulnerabilities" ซึ่งเป็นคำพูดที่ทาง Tim Cook ได้อ้างอิงจากคำพูดของ Adrian Kingsley แห่ง ZDNet
ซึ่งคุณ S.Pichai ก็ได้แสดงมุมมองของเขากับ Bloomberg และ Businessweek โดยเขาตอบว่า iOS กับ Android ไม่สามารถนำมาเทียบกันได้หรอก ซึ่งหากเปรียบเทียบ iOS เหมือนรถยนต์ Mercedes-Benz แล้วล่ะก็ Android ก็คงเหมือนรถยนต์ Honda Civic เพราะการสร้างรถยนต์ให้มีราคาแพงต้องทำมาแบบใส่ใจทุกรายละเอียด แต่รถราคาถูกจะสามารถเข้าถึงคนทั่วไปได้มากกว่า
และนอกจากนั้นคุณ S.Pichai ยังยอมรับว่า เขากังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ Apple ทำอยู่เหมือนกัน เพราะ Apple ถือเป็นบริษัทยอดเยี่ยมแห่งหนึ่งในด้าน IT และสินค้าที่เขาทำออกมานับว่าดีมากเลยทีเดียว และสามารถเข้ากันได้ดีทีเดียว แต่ว่าอย่างไรก็ดีเป้าหมายหลักของทั้ง Apple และ Google นั้นแตกต่างกันอยู่แล้ว โดยเราเน้นให้ผู้ใช้งานทั่วโลกสามารถเข้าถึงนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีต่างๆ ได้ด้วยราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยทุกชนชั้น ไม่มีการแบ่งแย่งกัน และเราอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือให้ทุกๆ คนมีพื้นฐานการใช้งานด้านเทคโนโลยีที่ดี
โดยทั้งหมดนี้เป็นเพียงบทสัมภาษณ์ของคุณ S. Pichai หัวหน้าทีม Android คนใหม่ที่ดึงออกมาให้ได้อ่านกันส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยยังมีบทสัมภาษณ์อีกหลายส่วนที่น่าสนใจเช่นกัน ซึ่งสามารถติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มได้ที่นี้
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.businessweek.com วันที่ : 27 มิถุนายน 2557
Tecno POVA 6 และ POVA 6 Neo เน้นแบตเตอรี่ใหญ่จุใจ หน้าจอ 120Hz พลังเสียง Dolby Atmos
ทำความรู้จัก OPPO A60 4G หน้าจอ 90Hz ลำโพงสเตอริโอ ชาร์จเร็ว 45 วัตต์ เริ่มต้น 5,999 บาท
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
ทำความรู้จัก vivo Y100 4G หน้าจอ 120Hz กล้องหลัง 3 เลนส์ ระบบเสียง Hi-Res ชาร์จเร็ว 80 วัตต์ ราคา...
Moto G64 5G สมาร์ทโฟนรุ่นแรกใช้ Dimensity 7025 พร้อมกล้อง 50MP กันสั่น OIS
realme GT Neo6 SE เปิดตัวด้วยขุมพลัง Snapdragon 7+ Gen 3 ชาร์จเร็วระดับ 100W
Maono WM620 PC2 ไมโครโฟนไร้สาย ที่สายคอนเทนต์ต้องมี เพราะใช้งานง่ายมาก
Redmi Pad Pro แท็บเล็ต Snapdragon 7s Gen 2 แบตเตอรี่จุใจ 10,000mAh
เตรียมเปิดตัว Tesla Model 3 Performance (Ludicrous) ซูเปอร์ซีดานไฟฟ้าที่สุดแห่งสมรรถนะ
เตรียมเปิดตัว realme GT Neo6 SE สมาร์ทโฟนชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 3 เครื่องแรกของ realme
vivo T3 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอ AMOLED 120Hz มีกล้องความละเอียดสูงสุด 50MP กันสั่น OIS
Samsung ครองแชมป์จำหน่ายสมาร์ทโฟนมากสุดไตรมาสแรก 2024 ขณะที่ iPhone ยอดขายลดฮวบ ทำไม ?
Xiaomi ต้อนรับ Payday จัดโปรโมชันพิเศษที่ Shopee ส่วนลดสูงสุด 50%12 ชั่วโมงที่แล้ว