กลุ่มบริษัทจีเอเบิล ผู้นำการให้บริการไอทีโซลูชั่นครบวงจร เผยเทรนด์ไอทีระดับโลกและของไทยปี 2559 พร้อมเปิดแผน “Corporate Digital Transformation” กุญแจสำคัญของการปฏิรูปธุรกิจไทยในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการแข่งขันในยุคดิจิตอล ชูมิติใหม่ 3 โซลูชั่น “คลาวด์ (Cloud)” “บิ๊ก ดาต้า (Big Data)” และ “ซีเคียวริตี้ (Security)” แนะทุกองค์กรต้องปฏิรูปเพื่อความอยู่รอดและความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ
นายนาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทจีเอเบิล ผู้นำการให้บริการไอทีโซลูชั่นครบวงจรกล่าวว่า “กระแสการเปลี่ยนแปลงด้านไอทีในปัจจุบันเป็นการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิตอล ที่จะพลิกโฉมทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของโลก ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลโดยตรงต่อทุกธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งเทรนด์เปลี่ยนแปลงเร็วเท่าไหร่ องค์กรต่างๆ ยิ่งต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งเราสามารถนำเทรนด์ไอทีมาประยุกต์ใช้เพื่อผลักดันธุรกิจให้เกิดความสะดวก ถูกต้อง รวดเร็ว และเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเทรนด์ไอทีโลกและประเทศไทยที่ต้องจับตามองได้แก่ Cloud, Big Data, 4G, IoT, SaaS, Security, Mobile Banking, E-Commerce, AI, Smart Devices
การปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีไอทีถือเป็นความสำคัญเร่งด่วน ที่องค์กรธุรกิจในประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดอาเซียนและตลาดโลก ซึ่งจะส่งผลถึงความเป็นอยู่ในอนาคต ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทจีเอเบิลซึ่งให้บริการแก่องค์กรในรูปแบบ End-to-End Solution Partner หรือการให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ จึงมีศักยภาพที่พร้อมที่สุดในการเป็น “Agent of Transformation” กุญแจสำคัญในการช่วยปฎิรูปองค์กรธุรกิจไทยสู่ยุคดิจิตอลได้อย่างรวดเร็วและครบวงจร
นายสุเทพ อุ่นเมตตาจิต กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทจีเอเบิล เปิดเผยว่า “ในปีนี้บริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่ 3 ไอทีโซลูชั่น คือ “คลาวด์ (Cloud)” “บิ๊ก ดาต้า (Big Data)” และ “ซีเคียวริตี้ (Security)” หัวใจสำคัญที่จะช่วยลูกค้าปฏิรูปองค์กรธุรกิจสู่ยุคดิจิตอล ได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด โดยเริ่มจาก Cloud (คลาวด์) ซึ่งในต่างประเทศมีอัตราการเติบโตของการใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 2015 อยู่ที่ 51% และคาดการณ์ในปี 2016 ที่ 71% แต่เมื่อเทียบกับอัตราการใช้บริการคลาวด์ในประเทศไทย เรากลับพบว่าอัตราการเติบโตของการใช้คลาวด์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะเมื่อพูดถึงเทคโนโลยีคลาวด์ สำหรับหลายๆ คน มักจะหมายถึงเฉพาะการจัดเก็บข้อมูล หรือ Cloud storage เป็นหลัก ซึ่งศักยภาพของ คลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud computing) สามารถทำได้มากกว่านั้น โดยคาดว่าในปีนี้ คลาวด์จะเริ่มเติบโตมากขึ้น และในระยะยาวประมาณ 3-5 ปี ภาคธุรกิจจะให้ความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณด้านไอทีเพื่อการลงทุนด้านคลาวด์ไม่น้อยกว่า 20-25% ซึ่งจะส่งผลทำให้มูลค่าการลงทุนด้านคลาวด์เพิ่มขึ้น หรืออาจกล่าวได้ว่า คลาวด์จะกลายเป็นองค์ประกอบหลักของโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีขององค์กร
Big Data (บิ๊ก ดาต้า) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความได้เปรียบเชิงธุรกิจให้กับทุกองค์กร ในประเทศไทยมีการคาดการณ์ถึงความต้องการบุคลากรด้านบิ๊ก ดาต้า จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีและพันธมิตรทางธุรกิจ ในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ‘Big Data Experience Center’ หรือ BX ซึ่งเปิดตัวไปในปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนและเป็นตัวเร่งให้นำเอาเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา BX ได้จัดฝึกอบรมและสัมมนาฟรีไปแล้วกว่า 40 ครั้ง มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมมากกว่า 6,000 คน มีการเข้าเยี่ยมชมเพื่อรับคำปรึกษาในการเตรียมความพร้อมในด้านเทคโนโลยีจำนวน 26 หน่วยงานจากภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้ BX ได้สร้างระบบต้นแบบโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายไปแล้วเป็นจำนวน 12 โมเดล
Security (ซีเคียวริตี้) จากงานวิจัยของบริษัท Intel Security (McAfee) ระบุว่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจที่เกิดจากอาชญากรรมบนโลกไซเบอร์ มีมูลค่าสูงถึง 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 14 ล้านล้านบาท ในปี 2015 (ประมาณความเสียหายรวมกันทั่วโลก) งานวิจัยเดียวกันระบุอีกว่า ผลสำรวจจากหลายประเทศยอมรับว่าความเสียหายจากอาชญากรรมบนโลกไซเบอร์มีสูงถึง 2% ของ GDP อีกทั้งปัญหาจากการโจมตีในโลกไซเบอร์ต่างๆ เช่น Ransomeware หรือโจรเรียกค่าไถ่ออนไลน์ การข่มขู่ด้วยเทคนิคประเภท DDoS (Distributed Denial of Service) ที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานต่างๆ ล้วนมีสาเหตุมาจากเทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการด้านความมั่นคงมีความเข้มข้นขึ้น
จากแนวโน้มดังกล่าว จีเอเบิลจึงมีการลงทุนในด้านการวิจัย เพื่อพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ได้อย่างรัดกุมและทรงประสิทธิภาพ ตอบโจทย์องค์กรเชิงรุก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน รวมถึงการตัดสินใจบริหารความเสี่ยงและจัดการภัยไซเบอร์ได้อย่างตรงจุด ระบบซีเคียวริตี้ที่จีเอเบิลมุ่งเน้น คือ 1) Security Consulting Service 2) Security Implementation Service 3) Security Managed Service และ 4) Security Sustainability Service ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่างครบครันกว่า 40 คน ถือเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของไทยในปัจจุบันที่ให้บริการด้าน ซีเคียวริตี้ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นใจ ว่าทรัพยากรและระบบได้รับการดูแลอย่างมั่นคง ปลอดภัย และมีความน่าเชื่อถือ
“จากพันธกิจ ‘Corporate Digital Transformation’ และในฐานะผู้นำการให้บริการไอทีโซลูชั่นครบวงจรแบบ End-to-End ด้วยนวัตกรรมที่โดดเด่น ตลอดจนบุคลากรมืออาชีพ ทำให้เรามั่นใจว่า กลุ่มบริษัทจีเอเบิลจะเป็นบริษัทไอทีโซลูชั่นสัญชาติไทย ที่จะเป็นพาร์ทเนอร์ให้กับองค์กรธุรกิจไทย ก้าวผ่านยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและสังคมสู่ยุคดิจิตอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันประเทศไทยให้มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนความพร้อมด้านบุคลากรด้านไอที เพื่อรองรับการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และการเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิตอล" นายนาถ กล่าวสรุป
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.g-able.com วันที่ : 1 เมษายน 2559
realme P1 และ realme P1 Pro หน้าจอ AMOLED-120Hz กล้องหลัง 50MP ชาร์จเร็ว 45W
vivo V30e 5G เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้ ดีไซน์สีสวยสุดพรีเมียม แบตฯ 5500mAh
มือถือใหม่ 2024 มือถือใหม่ 2567 มือถือราคาประหยัด 2024 ใช้มือถือรุ่นไหนดี
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 12x 5G มือถือราคาครึ่งหมื่นก็ใช้งานเน็ต 5G ได้แล้ว อย่างคุ้ม!
Redmi Pad Pro แท็บเล็ต Snapdragon 7s Gen 2 แบตเตอรี่จุใจ 10,000mAh
Moto G04s น่าใช้ขึ้นด้วยกล้อง 50MP เทคโนโลยี Quad pixel และลำโพง Dolby Atmos
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย10 ชั่วโมงที่แล้ว