สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 9 พฤษภาคม 2560

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Qualcomm เปิดตัวสองชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการแล้วได้แก่ Snapdragon 660 และ 630 โดยเป็นรุ่นสานต่อความสำเร็จจาก Snapdragon 653 กับ 626 ซึ่งเคลมว่ามีประสิทธิภาพความเร็วแรงทั้งประหยัดพลังงานยิ่งกว่าด้วยพร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งแพลตฟอร์มทั้งคู่ถูกออกแบบมาเฉพาะโจทย์ของเทรนด์สมาร์ทโฟนในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นระบบเสียง, ระบบกล้อง, ระบบการเชื่อมต่อไร้สาย , ระบบประมวลผล, ระบบชาร์จ หรือแม้แต่ว่าระบบความปลอดภัย เป็นต้น สำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟนจะได้ใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวจะเป็นในระดับกลางที่มีประสิทธิภาพสูงรองจากรุ่น Flagship

 

Qualcomm Snapdragon 660 และ 630 มีจุดเด่นหลัก 7 ประการดังต่อไปนี้

1. เพิ่มประสิทธิภาพกล้อง : ด้วยการใช้หน่วยประมวลผล ISP Qualcomm Spectra 160 เพื่อเพิ่มคุณภาพภาพให้มีความเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นในการถ่ายภาพสภาวะพื้นที่แสงน้อย (superior low light) ทั้งประหยัดพลังงานและถ่ายโอนข้อมูลภาพดียิ่งขึ้นในสมาร์ทโฟนแบบ Dual Camera รองรับการซูมแบบ Optical Zoom ได้ไหลลื่นขึ้นกว่าเดิม รวมถึงโหมด Bokeh และ Dual Pixel Autofocus อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพของความเสถียรด้านการบันทึกวิดีโอ

2. ด้านเสียง/ภาพ : เฉพาะแพลตฟอร์ม Snapdragon 660 และถือเป็นครั้งแรกของซีรีย์ 6xx ที่นำระบบ Qualcomm Hexagon 680 DSP มาใช้ในการประมวลผล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เฉกเช่นเดียวกับการประหยัดพลังงานกว่าเดิม โดยระบบถูกออกแบบมาให้บริหารจัดการอย่างชาญฉลาด

3. ระบบเชื่อมต่อ : Snapdragon 660 และ 630 มีโมเดมระดับ X12 LTE ส่งผลให้สามารถทำความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 600Mbps รองรับระบบ Wi-Fi 802.11ac + 2x2 MU-MIMO ส่งข้อมูลได้มากขึ้นกว่าเดิมสองเท่า ประหยัดพลังงานถึง 60% เมื่อเทียบกับรุ่น Snapdragon 652 นอกจากนี้ยังใช้งานระบบการเชื่อมต่อไร้สายผ่านอิฐหรือคอนกรีตได้ดีกว่าเดิม

สำหรับแพลตฟอร์มทั้งสองมีระบบ RF front-end ผสมผสานเทคโนโลยี Qualcomm TruSignal ที่ช่วยให้เสาสัญญาณสามารถรับสัญญาณมีประสิทธิภาพขึ้นภายใต้สภาวะแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้ท่องโลกออนไลน์ได้เพลิดเพลินด้วยการทำงานแบบ Carrier aggregation หรือการรวมคลื่นเข้าไว้ด้วยกันให้ความเร็วและแบนด์วิชดียิ่งขึ้น สุดท้ายคือการรองรับ Bluetooth 5

4. เพิ่มประสิทธิภาพ CPU & GPU : Snapdragon 660 เป็นรุ่นสานต่อจาก Snapdragon 653 ซึ่งใช้ CPU Kryo 260 ทำให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 20% ส่วน GPU ประมวลผลภาพดียิ่นขึ้น 30% ใน Adreno 512

ขณะที่ Snapdragon 630 ถูกปรับปรุงจาก Snapdragon 625 มีการประมวลผลกราฟฟิกดียิ่งขึ้นกว่าเดิม 30% ใช้ชื่อเรียก GPU ว่า Adreno 508 ส่วน CPU เร็วแรงขึ้น 10%

อย่างไรก็ตามทาง Qualcomm ทิ้งท้ายว่าแพลตฟอร์มทั้งสองถูกออกแบบมาให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาการใช้งานอย่างยอดเยี่ยม

5. Qualcomm Quick Charge 4 : เวอร์ชั่น 3 มาไม่นาน ระบบชาร์จเวอร์ชั่นใหม่ก็มาอีกแล้ว โดยทั้งสองแพลตฟอร์มผู้ใช้สามารถชาร์จเพียงแค่ 5 นาที แต่สนทนาต่อเนื่องได้นาน 5 ชั่วโมง หรือชาร์จเพียง 15 นาที ได้แบตฯ 50% จาก 0%

6. ระบบรักษาความปลอดภัย : ทั้งสองแพลตฟอร์มถูกออกแบบภายใต้ความเฉพาะในเรื่องราวของสมาร์ทโฟนมากขึ้น โดยเป็นการวิเคราะห์การใช้งานตามเทรนด์ในปัจจุบัน เพื่อออกแบบฮาร์ดแวร์ให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมการตรวจสอบผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. ระบบ Machine Learning : ผู้ผลิตและผู้พัฒนาจะสามารถเพิ่มเติมระบบต่างๆ อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ก็เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของ User ด้วยการใช้ระบบ Snapdragon Neural Processing Engine SDK พร้อมรองรับซอฟต์แวร์ Caffe/Caffe2 & TensorFlow จึงทำให้สามารถออกแบบระบบสมาร์ทโฟนให้มีความเข้ากันได้กับ CPU, GPU หรือ DSP/HVX นั่นเอง

Snapdragon 660 & 630 ใช้โมเด็ม,สถาปัตยกรรมกล้องรวมถึงรองรับการใช้พินและซอฟต์แวร์ที่เหมือนกัน เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถปรับความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ง่ายดายยิ่งขึ้น โดยแพลตฟอร์มทั้งสองผลิตบนเทคโนโลยีขนาด 14 นาโนเมตร รองรับการเล่นและบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K สามารถใส่ Ram ได้สูงสุด 8GB รองรับระบบ Vulkan API 

ส่วนความละเอียดหน้าจอ Snapdragon 660 รองรับสูงสุด 2K (QHD) ขณะที่ Snapdragon 630 จะมีความละเอียดสูงสุด FullHD

ทั้งสองแพลตฟอร์มเริ่มใช้งานจริงได้เมื่อไหร่

สำหรับ Snapdragon 660 ตอนนี้ถึงมือเหล่าพาร์ทเนอร์กับผู้ที่ต้องการไปใช้งานแล้วดังนั้นจึงคาดว่าอีกไม่นานเราอาจได้เห็นสมาร์ทโฟนพร้อมแพลตฟอร์มดังกล่าวในเร็วๆ นี้ ส่วน Snapdragon 630 ก็จะเริ่มขนส่งตั้งแต่สิ้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่