แท็บเล็ต (Tablet) | วันที่ : 29 มิถุนายน 2560
'จอแสดงผลที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก' เป็นคำที่ Apple ใช้เรียกเทคโนโลยีจอแสดงผลบนแท็บเล็ต iPad Pro สองรุ่นล่าสุดโดยทางบริษัทยืนยันว่าเป็นหน้าจอที่ช่วยถนอมสายตาผู้ใช้งาน
คำหวานดังกล่าวเป็นข้อความที่ไม่ห่างความเป็นจริงเท่าไรนัก iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว และรุ่น 12.9 นิ้วรุ่นใหม่ล่าสุดมีหน้าจอที่สว่างขึ้นและลดแสงสะท้อนได้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ มีฟังก์ชั่นรองรับการแสดงผลวิดีโอ HDR และการปรับสมดุลสีขาวอัตโนมัติใส่มาให้ใช้งาน แต่การอัพเกรดที่โดดเด่นที่สุดก็คือสิ่งที่ Apple เรียกว่า 'ProMotion display technology'
เทคโนโลยี ProMotion บน iPad Pro รุ่นใหม่คืออะไร ?
หากอธิบายง่าย ๆ ก็คือวิธีการแสดงผลที่ทำให้ภาพบนหน้าจอไหลลื่นขึ้น
ProMotion ทำงานอย่างไร ?
โดยปกติแล้วจอแสดงผลจะมีอัตราการอัพเดทข้อมูลภาพ ซึ่งเป็นความถี่ของการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสีของจุดพิกเซลบนหน้าจอแต่ละจุด หรือนิยมเรียกกันว่า refresh rate (อัตราการดึงข้อมูล) จอแสดงผลส่วนใหญ่จะมีอัตราการดึงข้อมูลที่ 60 ครั้งต่อวินาที (60Hz) ไม่ว่าจะแสดงผลวิดีโอ แอพพลิเคชั่น เกมหรือภาพนิ่งก็ตามโดยการดึงข้อมูลที่ระดับนี้จะมีความล่าช้าหรือความหน่วงเกิดขึ้น 16.6 มิลลิวินาที (0.016 วินาที) ซึ่งถือว่าน้อยและไม่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการแสดงผลแต่ก็นับเป็นความล่าช้าที่เกิดขึ้นจริง
ในช่วงเวลาเดียวกันหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) บน iPad จะสร้างข้อมูลภาพเพื่อนำไปแสดงผลบนหน้าจอทีละเฟรม (frame by frame) โดยไม่ขึ้นกับอัตราการดึงข้อมูล ในเชิงอุดมคติแล้ว GPU น่าจะส่งข้อมูลภาพให้ 60 เฟรมต่อวินาที แต่ในทางปฏิบัติตัวเลขดังกล่าวแตกต่างกันไปเนื่องจากกราฟิกบางอย่างใช้เวลาเรนเดอร์นานกว่าภาพอื่น ๆ
เพื่อให้เข้าใจว่าเทคโนโลยี ProMotion ทำงานอย่างไรจึงจำเป็นต้องรู้ว่าข้อมูลภาพที่ส่งมาจาก GPU และอัตราการดึงข้อมูลมาแสดงบนจอนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นค่าเดียวกัน เมื่อ GPU ทำการส่งข้อมูลภาพมายังจอแสดงผลอาจจะมีความล่าช้าเกิดขึ้นสูงสุด 16.6 มิลลิวินาทีก่อนที่เฟรมภาพนั้นจะถูกแสดงขึ้นบนจอจริง ๆ ด้วยอัตราการดึงข้อมูล 60Hz
เทคโนโลยี ProMotion จะลดความล่าช้าดังกล่าวลงครึ่งหนึ่งด้วยการเพิ่มอัตราการดึงข้อมูลบนหน้าจอ iPad Pro รุ่นใหม่สูงขึ้นเป็น 2 เท่า (120Hz) ทำให้ภาพที่ออกมาดูลื่นไหลขึ้นทั้งที่ความจริงไม่มีการเพิ่มอัตราการส่งข้อมูลภาพ (frame rate) แต่อย่างใด
ทำไมเทคโนโลยี ProMotion ถึงเปลี่ยนค่าการดึงข้อมูลบนหน้าจอในบางครั้ง ?
ด้วยอัตราการดึงข้อมูลที่มากขึ้นส่งผลให้มีการใช้พลังงานแบตเตอรี่มากขึ้นซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ นั่นคือเหตุผลที่ iPad Pro รุ่นใหม่จะมีอัตราการดึงข้อมูลบนหน้าจอ 120Hz เฉพาะตอนที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเท่านั้น อย่างเช่นการเลื่อนดูข้อมูลบนเว็บเบราว์เซอร์หรือการสลับหน้าไปมาระหว่างหน้าจอหลัก การแสดงผลจะไหลลื่นขึ้นเมื่อเล่นเกม ถ้าหากผู้ใช้งานมีปากกาสไตลัส Apple Pencil ก็สามารถขีดเขียนบนหน้าจอด้วยความล่าช้าต่ำที่สุดเท่าที่ใช้งานในระดับอุตสาหกรรมหรือมีความล่าช้าเพียง 20 มิลลิวินาทีซึ่งช่วยให้การใช้งานดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
เมื่อข้อมูลภาพนิ่งถูกส่งมายังหน้าจอ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้อัตราการดึงข้อมูลที่รวดเร็ว ProMotion จะเปลี่ยนอัตราการดึงข้อมูลเป็น 24 ครั้งต่อวินาที (24Hz) เพื่อประหยัดพลังงานแบตเตอรี่และเมื่อรับชมภาพยนตร์อัตราการดึงข้อมูลจะถูกตั้งไว้ที่ 48Hz เพื่อให้เพียงพอต่ออัตราการส่งข้อมูลของเฟรมภาพยนตร์ทั่วไปที่ 24 เฟรมต่อวินาที
จะใช้งานเทคโนโลยี ProMotion ได้อย่างไร ?
เทคโนโลยี ProMotion ของ Apple ขึ้นอยู่กับทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ซึ่งตอนนี้มีอุปกรณ์ที่รองรับอยู่ 2 รุ่น คือ iPad Pro รุ่นหน้าจอ 10.5 นิ้ว และ รุ่น 12.9 นิ้วใหม่ล่าสุด โดย iPad รุ่นก่อน ๆ หรือแม้แต่ iPhone จะไม่สามารถใช้งานเทคโนโลยี ProMotion ได้แม้ว่าจะอัพเดทแพลตฟอร์มเป็น iOS 11 ก็ตาม
สำหรับผู้ใช้งาน iPad Pro รุ่นใหม่สามารถเพลิดเพลินไปกับหน้าจอเทคโนโลยี ProMotion ได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าหรือเปิด-ปิดการทำงาน ระบบจะทำการปรับค่าอัตราการส่งข้อมูลบนหน้าจอแบบไดนามิกให้อัตโนมัติ
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.phonearena.com วันที่ : 29 มิถุนายน 2560
iPad mini 7 เปิดตัวแบบเงียบๆ ชิปใหม่ A17 Pro รองรับ Apple Intelligence เริ่มต้นที่ความจุ 128GB
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ
Blackview Active 10 Pro มาแล้ว! แท็บเล็ต 5G แบตฯ อึด กล้องเทพ ลดแรงแค่ 7 วันเท่านั้น!
ลือ! iPhone 17 และ iPhone 17 Air ยังไม่มีซูม Optical 5x ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะรุ่น Pro
HUAWEI MatePad Pro 13.2 (2025) แท็บเล็ตระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ทั้งการวาดภาพและการทำงาน
รีวิว Apple iPad mini 7 ควรอัปเกรดไหม? แตกต่างจาก iPad mini 6 อย่างไร!
vivo Y300 5G หน้าจอ AMOLED-120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP64 ชาร์จเร็ว 80W ลำโพง Hi-Res
Blackview Active 10 Pro มาแล้ว! แท็บเล็ต 5G แบตฯ อึด กล้องเทพ ลดแรงแค่ 7 วันเท่านั้น!
OPPO Find X8 Series สมาร์ทโฟนแฟลกชิปพลัง AI ซูมไกล 120 เท่า ด้วย AI Telescope Zoom
OPPO Reno 13 Series ชิปเซ็ต Dimensity 8350 กันน้ำกันฝุ่น IP69 และชาร์จเร็ว 80W!
Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกรันบน HyperOS 2 หน้าจอสี่เหลี่ยม AMOLED กว้าง 2.07 นิ้ว
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย10 ชั่วโมงที่แล้ว