หมวดอื่นๆ (Other) | วันที่ : 11 กรกฎาคม 2560
Huawei ผู้จัดหาโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำระดับโลก แสดงความพร้อมระบบนิเวศธุรกิจครบวงจรเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการหน้าใหม่ โดยอาศัยเทคโนโลยีในการเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาแนะนำด้านเทคโนโลยีโดยผู้เชี่ยวชาญแก่ธุรกิจ Startup ต่างๆ รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคการศึกษาและเอกชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมโชว์ 3 โซลูชั่นนวัตกรรมใหม่ในงาน Startup Thailand 2017 และเตรียมนำผู้ชนะการประกวด Startup Thailand Pitching Challenge เยี่ยมชมนวัตกรรมเทคโนโลยีที่สำนักงานใหญ่ของหัวเว่ย ในเมืองเซิ่นเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน
หัวเว่ยเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพในไทย โดยอาศัยเทคโนโลยีเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ ตั้งแต่การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อให้คำปรึกษาแนะนำให้กับธุรกิจ Startup ต่างๆ ทั้งทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐ ภาคการศึกษาและองค์กรเอกชนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้หัวเว่ยยังเดินหน้าลงทุนพัฒนาธุรกิจในไทย ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้ประกาศตั้ง หัวเว่ย โอเพ่นแล็ป แบงค์กอก (Huawei Open Lab Bangkok) ด้วยงบกว่า 500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจต่างๆ รวมถึงกลุ่ม Start Up ในประเทศไทย
สำหรับ หัวเว่ย โอเพ่นแล็ป แบงค์กอก ออกแบบมาเพื่อให้เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรูปแบบใหม่โดยมีผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัย จากบริษัทหัวเว่ย เป็นผู้ให้คำปรึกษา พร้อมด้วยอุปกรณ์ทั้งระบบเครือข่ายเน็ตเวิร์ก ระบบ Cloud ,Data Center , เครือข่าย IoT รวมถึง ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์อื่นๆ เช่น กล้องซีซีทีวี ที่มีความละเอียดสูง เพื่อใช้ตรวจจับใบหน้าหรือวัตถุ เป็นต้น เพื่อให้พันธมิตรของหัวเว่ยทั้งภาคธุรกิจต่างๆ ตลอดจนสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องสามารถใช้ทรัพยากรของหัวเว่ยทดสอบและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ผลักดันให้เกิดการสร้างธุรกิจที่เติบโตและยั่งยืน
“หัวเว่ยมีความพร้อมเต็มที่ที่จะให้การสนับสนุนภาคธุรกิจของไทย รวมถึงกลุ่มสตาร์ทอัพ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัล และก้าวขึ้นเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาค” มร. โรบิน หลู รองประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “นอกจากนี้ เรายังเชื่อว่า สตาร์ทอัพคืออนาคต และจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างโลกที่เชื่อมโยงสื่อสารได้ดีกว่าเดิม”
หัวเว่ยนำ 3 โซลูชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมมาจัดแสดงภายในงาน เพื่อแสดงถึงศักยภาพของหัวเว่ยที่ทำงานร่วมกับพันธมิตรในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
โซลูชั่น Airport Visualizes Operation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสนามบินโดยผสมผสานเทคโนโลยี Location Based Services และ GIS ซึ่งพัฒนาเป็นระบบอัจฉริยะที่ช่วยให้สนามบินสามารถบริหารจัดการข้อมูลที่อยู่ภายในเขตสนามบินได้แบบรวมศูนย์ ควบคุมความแม่นยำเรื่องเวลาการบิน ยกระดับความปลอดภัยในสนามบิน ติดตามข้อมูลของรถขนเสบียงและรถขนกระเป๋า ตลอดจนติดตามข้อมูลแบบวิดีโอและภาพด้วยระบบไร้สายในช่วงเวลาฉุกเฉิน ซึ่งจะแสดงผลผ่านแดชบอร์ด
นอกจากนี้ ยังมีโซลูชั่น Smart Passenger Service ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้โดยสารด้วยการแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อาทิ ตารางเวลาของเที่ยวบิน การบอร์ดดิ้ง ระยะทางและเวลาจากจุดที่อยู่จนถึงพิกัดของเคาท์เตอร์เช็คอิน ห้องน้ำ ห้องพยาบาล และสถานที่อื่นๆ
หัวเว่ยมุ่งพัฒนา Unified Networking Platform ที่รวบรวมแอพพลิเคชั่นล้ำยุคสำหรับการใช้งานเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือ IoT ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การทำแพลตฟอร์มสำหรับเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีในอนาคตอย่างการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงผ่านสายไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมในระบบ (PLC : Power Line Communication), คลื่นวิทยุ (RF), GPRS/3G/4G และเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย GPON
หัวเว่ยได้นำเทคโนโลยี IoT มาประยุกต์ใช้ได้ตั้งแต่ระดับควบคุมการเปิดปิดไฟถนนอัจฉริยะในเมือง ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานให้น้อยลง นอกจากนี้ยังพัฒนาสมาร์ท มิเตอร์ ช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลการใช้ไฟฟ้าตามบ้านเรือนได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความผิดพลาดในการจดบันทึกข้อมูลแบบเดิมแล้ว ยังนำข้อมูลที่ได้ไปวางแผนการใช้ไฟฟ้าในอนาคตได้ด้วย
หัวเว่ยนำเสนอขีดความสามารถของเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์เพื่อลดความเสี่ยงในการทุจริตในธุรกิจการเงิน โดยสาธิตผ่านโซลูชั่น Real Time Anti Fraud Operating Management Platform ซึ่งหัวเว่ยทำงานร่วมกับพันธมิตรผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สร้างแพลตฟอร์มสำหรับมอนิเตอร์เส้นทางการเงินในหลายระดับ เช่น Geolocation ที่สามารถติดตามข้อมูลการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มจากสาขาในพื้นที่ต่างๆ ได้
นอกเหนือจากความพร้อมระบบนิเวศธุรกิจครบวงจร พร้อมนวัตกรรมโซลูชั่นใหม่ ๆ แล้ว หัวเว่ยยังให้การสนับสนุนกิจกรรม Startup Thailand Pitching Challenge ด้วยรางวัลดังต่อไปนี้
1. ทริปเยี่ยมชมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอันทันสมัย ณ สำนักงานใหญ่ของหัวเว่ย ที่เมืองเซิ่นเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ระยะเวลา 3 วัน สำหรับผู้ชนะลำดับที่ 1-3 จากการแข่งขัน Startup Thailand Pitching Challenge ทั้ง 5 ภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 15 รางวัล
2. ทริปเยี่ยมชมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอันทันสมัย ณ สำนักงานใหญ่ของหัวเว่ย ที่เมืองเซิ่นเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ระยะเวลา 3 วัน สำหรับผู้ชนะเลิศในรอบ Startup Thailand Pitching Grand Challenge จำนวน 1 รางวัล
3. ในรอบ Startup Thailand Pitching Grand Challenge ผู้ชนะเลิศจะได้รับสมาร์ทโฟน รุ่น Huawei Mate 9 จำนวน 1 เครื่อง และผู้ชนะลำดับที่ 2- 5 จะได้รับสมาร์ทโฟน รุ่น Huawei GR5 2017 Premium version จำนวน 1 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 5 เครื่อง
4. สิทธิพิเศษในการเข้าใช้ Huawei OpenLab Bangkok สำหรับผู้ชนะลำดับที่ 1-3 จากทั้ง 5 ภูมิภาค ภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560
มร. เหยา ลู่ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจและสื่อสาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้เห็นการแข่งขัน Startup Thailand Pitching Challenge ได้รับเสียงตอบรับมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักธุรกิจรุ่นใหม่มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยผลักดันประเทศไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัล หัวเว่ยได้สร้างแพลตฟอร์มเพื่อช่วยบ่มเพาะธุรกิจ SME และขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านไอซีทีและเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างเต็มกำลังของเรากับพันธมิตรในด้านต่างๆ อาทิ การฝึกอบรมด้านไอที การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการสร้างงาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล”
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ www.huawei.com
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.huawei.com วันที่ : 11 กรกฎาคม 2560
ทำไม HUAWEI MatePad 12 X ถึงเป็นตัวเลือกมาใช้งานแทนที่แล็ปท็อป
Caviar ปล่อย HUAWEI Mate XT Ultimate รุ่นพิเศษ ตัวเครื่องทองคำ 18K น้ำหนักเกือบ 1 กิโลกรัม ราคาทะ...
HUAWEI Mate X6 สมาร์ทโฟนแบบพับได้ระดับท็อปสุดแกร่ง ประกาศราคาไทยแล้ว
ทำความรู้จักแท็บเล็ต HUAWEI MatePad 12 X หน้าจอ PaperMatte 144Hz ตัวเครื่องบาง 5.9 มม. ชาร์จเร็ว ...
HUAWEI FreeBuds SE 3 สัมผัสเสียงคมชัด ดีไซน์โดดเด่น ในราคาที่เข้าถึงได้