Schneider electric เปิดตัว Square D Classic+ ตู้ไฟยุค 4.0 ทางเลือกใหม่แห่งอนาคต

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการบริหารจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชัน เปิดตัวตู้ไฟ หรือตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต (Consumer Unit) ยุค 4.0 พลิกโฉมตู้ไฟแบบดั้งเดิมสู่ตู้ไฟแห่งอนาคต สแควร์ดี คลาสสิคพลัส (Classic Plus) สวยใส ล้ำสมัย ปลอดภัยสูงสุด กลมกลืนกับทุกดีไซน์ของบ้าน มาพร้อมเทคโนโลยี QR Code สามารถเก็บและเรียกดูข้อมูลการติดตั้ง รวมถึงข้อมูลช่างไฟผ่านสมาร์ทโฟนได้ ทั้งยังรองรับการเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยได้ครบครันใน 1 เดียว รวมถึงได้รับฉลากอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กรีนพรีเมี่ยม (Green Premium) ที่ให้ความปลอดภัย ทั้งเรา และทั้งโลก

นายธนากร วงศ์วิเศษ รองประธานธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจ Partner Project & EcoBuilding ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย กล่าวว่า “ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เล็งเห็นความต้องการของผู้พักอาศัยในแบบต่างๆ จึงคิดค้นและพัฒนาด้านการดีไซน์ ให้ตู้ไฟ หรือ ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต รุ่นใหม่ สามารถเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตได้ สำหรับสแควร์ดี คลาสสิคพลัส เราได้ปรับดีไซน์ให้มีรูปแบบที่สวยงามมากขึ้น ขณะที่มีความทนทานเหมือนเดิม และสามารถรองรับระบบความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์ คือ สามารถรองรับได้ทั้งเมนเบรกเกอร์กันดูด (RCBO 2 Pole) อุปกรณ์กันไฟกระชาก ป้องกันแรงดันส่วนเกินจากฟ้าผ่า (Surge Protection) และเบรกเกอร์กันดูดแบบลูกย่อย (RCBO 1 Pole) ที่สามารถตัดไฟเฉพาะจุดที่มีปัญหา ไฟไม่ดับทั้งบ้าน ที่ให้ทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ทำให้เจ้าของบ้านสามารถใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร้กังวล และแก้ปัญหาอย่างตรงจุดและรวดเร็ว และด้วยเทคโนโลยี QR Code ของสแควร์ดี คลาสสิคพลัส ที่ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถเรียกดูข้อมูลการติดตั้ง และข้อมูลของช่างไฟที่มาติดตั้งได้ ซึ่งสามารถตรวจเช็คได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของแท้จากชไนเดอร์ อิเล็คทริคหรือไม่ ขณะเดียวกันช่างไฟก็สามารถเก็บข้อมูลการติดตั้งของตนเองทั้งหมดไว้ในรูปแบบดิจิทัล ที่สามารถค้นหาได้ง่ายและไม่สูญหายอีกด้วย”

โดยปกติตู้ไฟ หรือตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต ในท้องตลาดส่วนมากจะเน้นในเรื่องการฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลัก แต่อาจจะไม่ค่อยลงตัวในเรื่องของดีไซน์สำหรับบ้าน ตู้ไฟรุ่นใหม่จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค สแควร์ดี คลาสสิคพลัส จึงเข้ามาตอบโจทย์ ได้อย่างลงตัวด้วยดีไซน์โค้งมน สีขาวสะอาด เจ้าของบ้านสามารถเลือกให้ติดตั้งในที่ๆ เข้าถึงได้สะดวก ส่วนไหนของบ้านก็ได้ ไม่ต้องหลบมุมอยู่ในครัว หรือห้องเก็บของเสมือนเป็นส่วนเกินของบ้าน อีกทั้งยังทำจากวัสดุกรีนพรีเมียม (Green Premium) ที่เป็นมิตรทั้งต่อเจ้าของบ้านและต่อโลก

นอกจากนี้เทคโนโลยี QR code ที่ติดตั้งมากับตู้ ยังช่วยให้ช่างไฟสามารถบันทึกข้อมูลการติดตั้ง รวมถึงประวัติ และเบอร์โทรของช่างไฟได้ ช่วยแก้ปัญหาสำหรับเจ้าของบ้านในเรื่องเบอร์โทรศัพท์สูญหายเมื่อเวลาผ่านไปนาน และเป็นประโยชน์กับช่างไฟที่สามารถเก็บรวบรวมประวัติการติดตั้งทั้งหมดไว้ได้ในรูปแบบดิจิทัล ทำให้ง่ายต่อการเก็บรวบรวมและค้นหา

ตู้ไฟชไนเดอร์ อิเล็คทริค สแควร์ดี คลาสสิคพลัส มีให้เลือกหลายขนาด ตามความต้องการใช้งานจริงของแต่ละบ้าน ติดตั้งง่าย มีให้เลือกทั้งแบบ สแควร์ดี คลาสสิคพลัส แบบบัสบาร์เดี่ยว (Single Bus) ขนาด 4 ช่อง 6 ช่อง 8 ช่อง 14 ช่อง 18 ช่อง และสแควร์ดี คลาสสิคพลัส แบบแยกบัสบาร์ (Split Bus) ขนาด 4+4 ช่อง 8+4 ช่อง 8+8 ช่อง

ตู้ไฟ สแควร์ดี คลาสสิคพลัส สามารถตอบโจทย์ ทั้งในมุมของสถาปนิกผู้ออกแบบบ้าน ที่ต้องการออกแบบบ้านให้ได้ตรงกับใจ และรสนิยมของผู้พักอาศัยให้ได้มากที่สุด ดังนั้นเรื่องของดีไซน์ที่เข้ากันได้กับทุกพื้นที่ในบ้าน ขณะเดียวกันในมุมของช่างไฟ ที่ต้องการมอบความปลอดภัยอย่างสูงสุดให้กับเจ้าของบ้าน รวมไปถึงเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และความง่ายในการซ่อมบำรุงเป็นสำคัญ ตอบโจทย์ภายใต้คอนเซปต์สวยใส ล้ำสมัย ปลอดภัยสูงสุดอย่างสมบูรณ์

“เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ไม่ได้เพียงต้องการผลิตสินค้าเพื่อป้อนตลาดแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการนำเสนอการตอบโจทย์ความต้องการในอนาคตให้แก่ลูกค้าของเราอีกด้วย เราจึงมุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์มากที่สุด ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เรียกสิ่งนี้ว่า “Life is On” นายธนากร กล่าวทิ้งท้าย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  สรุปจุดเด่นและสเปค Infinix ZERO Flip 5G หน้าจอ LTPO AMOLED 120Hz ลำโพงคู่ JBL ชาร์จเร็ว 70 วัตต์ เข้าไทยแล้ว
• 
  Emotional Clothing เสื้อผ้าที่เปลี่ยนสีและอุณหภูมิตามอารมณ์

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่