OLED vs LCD : มาทำความรู้จักหน้าจอ OLED ที่ใช้งานบน iPhone กัน

สำหรับหน้าจอแบบ OLED เป็นชนิดหน้าจอที่ทาง Apple ได้เลือกมาใช้งานใน iPhone X สมาร์ทโฟนตัวใหม่ล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวไป  ซึ่งจากเดิมใช้หน้าจอแบบ LCD มาโดยตลอดรวมถึง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus แต่หน้าจอแบบ OLED มีดีอย่างไรบ้าง ? คุ้มค่ากับการรอคอยหรือไม่ ? และต่างจากหน้าจอ LCD อย่างไร ?

ข้อแตกต่างระหว่าง OLED vs LCD

หน้าจอแบบ LCD จะมีการแบ่งแสงเป็น 2 ชั้น โดยชั้นบนจะเปร่งแสงสีขาวออกมาตลอดเวลาเมื่อหน้าจอเริ่มใช้งาน แต่ก็จะมีแสงอีกชั้นเป็น Backlight อยู่ด้านหลังเพื่อทำการควบคุมแสงและสีทำให้เห็นภาพเมื่อคุณมองมายังหน้าจอ ซึ่งหน้า LCD มีการใช้งานมานานแล้วสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องใช้หน้าจอแบบแบน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการกินพลังงานอย่างมากทำให้เป็นปัญหาหลักของอุปกรณ์พกพาอย่าง iPhone เป็นต้น

ทางด้านหน้าจอแบบ OLED จะเป็นหน้าจอ Backlight ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งแต่ละเม็ด Pixel สามารถเปร่งแสงและสีได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับควบคุมความสว่างของแต่ละเม็ดพิกเซลได้ ทำให้หน้าจอ OLED จะมีความคมชัด, สีสด และบางกว่าหน้าจอ LED รวมถึงการประหยัดพลังงานมากขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  HUAWEI nova Y73 วางจำหน่ายแล้ว! สมาร์ทโฟนแบตใหญ่ ใช้งานได้นาน จัดเต็มทุกฟีเจอร์
• 
  realme 14T 5G จอไฮเอนด์ AMOLED 120Hz กันน้ำกันฝุ่น IP69 พร้อมระบบระบายความร้อนขั้นเทพ

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

OLED จะมีบทบาทอะไรกับ iPhone X บ้าง

แน่นอนว่าหน้าจอเป็นส่วนประกอบที่กินไฟมากที่สุดในเครื่องสมาร์ทโฟน แต่พอ iPhone X มาใช้งานหน้าจอแบบ OLED จะทำให้การใช้พลังงานลดลงซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ระยะการใช้งานมีมากขึ้นไปด้วย แต่นั้นไม่ใช่เหตุผลเดียวเพราะว่าหน้าจอแบบ OLED มีความบางกว่า LED นั้นหมายความเครื่อง iPhone X จะมีพื้นที่วางมากขึ้น ทำให้เครื่องมีขนาดบางขึ้นหรือสามารถเพิ่มขนาดของแบตเตอรี่ไปได้ แต่อย่างไรก็ตามหน้าจอ OLED มีกำลังการผลิตที่น้อยจึงทำให้ราคาของ iPhone X มีราคาแพงและอาจถึงขึ้นเป็นสถิติราคาสูงสุดของสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้