สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 20 กันยายน 2560
ย้อนกลับไปในปี 2007 บริษัท Apple ได้ให้กำเนิด iPhone ขึ้นมา ซึ่งมีขนาดความจุภายในเครื่องอยู่ที่ 4/8GB คล้องกับขนาดไฟล์ภาพในสมัยจะมีอยู่เพียงไม่กี่ KB (Kilobytes) เท่านั้น จนกระทั่งผ่านมา 10 ปี ในปี 2017 นี้ ก็ได้ทำการเปิดตัว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ขึ้นมา โดยมีหน่วยความจำภายในอยู่ที่ 64GB หรือ 256GB แต่ด้วยความจุที่ค่อนข้างต่างกันมาก อาจทำให้เราคิดไม่ตกว่าเราจะเลือกขนาดไหนดีที่เหมาะสมกับเรา ดังนั้น วันนี้เราจะมาลองให้สาวกชาว Apple ได้มาลองดูข้อมูลคร่าวๆ และขนาดของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ว่าเราจะใช้ได้พอหรือไม่
1. จะเหลือพื้นที่ว่างสำหรับการใช้งานเท่าไหร่สำหรับ iPhone 8 64GB
เป็นคำถามที่ใครหลายคนคงอยากรู้กันอย่างแน่น โดยเมื่อเราลองกลับไปดูรุ่นก่อนอย่าง iPhone 7 Plus ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 11 (ตัวทดลอง) จะพบว่า ถูกใช้งานไปกับระบบปฏิบัติการประมาณ 3.7GB และอีกหลายร้อย MB ที่ใช้งานไปกับแอพฯ พื้นฐานของระบบ เช่น Safari, เพลง และแผนที่ เป็นต้น ดังนั้น เราจะได้พื้นที่ว่างในการใช้งานเหลือประมาณ 60GB จาก 64GB อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวข้างต้นก็ยังคงมีความแตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์
2. แอพพลิเคชั่นยอดนิยมจะกินพื้นที่เท่าไหร่ในการติดตั้งครั้งแรก?
สำหรับแอพพลิเคชั่นยอดนิยมบนระบบปฏิบัติการ iOS อย่างเช่น iLife (GarageBand ที่ใช้ในการสร้างเพลง และ iMovie ในการตัดต่อวิดีโอ) จะกินพื้นที่ของเครื่องรวมกันประมาณ 2GB และ iWork (ประกอบด้วยแอพฯ Pages, Keynote และ Numbers) จะกินพื้นที่ของเครื่องรวมกันประมาณ 1.3GB
แต่ในส่วนที่เป็นแอพพลิเคชั่นที่เราดาวน์โหลดมา เราก็มีตัวอย่างแอพฯ ยอดนิยมกว่า 20 แอพฯ และเกมให้มาดูกันถึงขนาดที่ถูกใช้ไปบน iPhone กัน (ไม่รวมไฟล์แคชที่เกิดในภายหลัง)
จากตารางด้านบนเราก็จะเห็นได้ว่า แอพพลิเคชั่นยอดนิยมจะใช้พื้นที่ในการติดตั้งครั้งแรกรวมกันราว 2.3GB, เกมยอดนิยมจะใช้พื้นที่ในการติดตั้งครั้งแรกรวมกันราว 7.2GB และแอพพลิเคชั่นของ Apple จะใช้พื้นที่ในการติดตั้งครั้งแรกรวมกันราว 3.3GB
3. แล้วภาพถ่าย, วิดีโอ และเพลง จะกินพื้นที่เท่าไหร่?
เพื่อไม่ให้เป็นการสับสน เราจะมาแยกขนาดที่เกิดขึ้นของไฟล์เพลง, รูปภาพ และการถ่ายวิดีโอความยาว 1 นาทีให้ดูกันแบบชัดๆ ดังนี้
4. สรุปภาพรวม 64GB และ 256GB บน iPhone 8
สำหรับหน่วยความจำภายใน 64GB
จากความจุคร่าวๆ เบื้องต้นก็ถือว่าผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ค่อนข้างเยอะแล้ว แต่หากใครที่ชอบเล่นเกมและถ่ายวิดีโอหรือถ่ายภาพมากๆ ก็ควรเลือกความจุ 256GB จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าอย่างแน่นอน
และสุดท้ายนี้ หากใครที่ต้องการเป็นเจ้าของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็สามารถพรีออเดอร์ผ่านทางเว็บไซต์หลักของ Apple ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน โดยจะมีราคาอยู่ที่ 699 ดอลลาร์ (ประมาณ 23,000 บาท) และ 799 ดอลลาร์ (ประมาณ 26,000 บาท) ตามลำดับ และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 22 กันยายน 2560
ส่วน iPhone X จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 999 ดอลลาร์ (ประมาณ 33,000 บาท) โดยจะเริ่มเปิดพรีออเดอร์วันที่ 27 ตุลาคม และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.phonearena.com วันที่ : 20 กันยายน 2560
Samsung ครองแชมป์จำหน่ายสมาร์ทโฟนมากสุดไตรมาสแรก 2024 ขณะที่ iPhone ยอดขายลดฮวบ ทำไม ?
Apple ประกาศวันจัดงาน WWDC24 เที่ยงคืนวันที่ 11 มิถุนายนประเทศไทย
iPhone 16 Pro Series หน้าจอใหญ่ขึ้น แบตฯ อึดกว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมเพิ่มความจุสูงสุด 2TB
realme Narzo 70x 5G และ realme Narzo 70 5G หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
Polestar Phone เมื่อแบรนด์รถยนต์ EV เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตนเอง สเปคจัดเต็ม!
Polestar Phone เมื่อแบรนด์รถยนต์ EV เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตนเอง สเปคจัดเต็ม!
Redmi Pad Pro แท็บเล็ต Snapdragon 7s Gen 2 แบตเตอรี่จุใจ 10,000mAh
Sennheiser MOMENTUM True Wireless 4 เอียร์บัดรุ่นเรือธง กับฟีเจอร์และเทคโนโลยีเพื่อเหล่าออดิโอไฟล์
HONOR X7b 5G ขยับใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6020 จุใจด้วยกล้องระดับ 108MP
ทำความรู้จัก OPPO A60 4G หน้าจอ 90Hz ลำโพงสเตอริโอ ชาร์จเร็ว 45 วัตต์ เริ่มต้น 5,999 บาท
realme 12 5G และ realme 12X 5G กล้องซูม 3 เท่าไม่สูญเสียรายละเอียด รองรับ 5G เริ่มต้น 5,xxx
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย3 ชั่วโมงที่แล้ว