ในโลกของสมาร์ทโฟนเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง ณ ตอนนี้คงต้องยกให้กับระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ในหลายๆ แบรนด์ต่างนำมาผสมผสานและชูเป็นจุดขายที่สร้างความแตกต่างต่อลักษณะการใช้งาน ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอนาคต AI จะกลายเป็นมาตรฐานของดีไวซ์อย่างแน่นอน และปี 2018 ก็อาจเข้าสู่อะไรใหม่ๆ มากขึ้นในอุตสาหกรรมดังกล่าว ดังนั้นเรามาหาคำตอบกันหน่อยว่าเทคโนโลยีสุดลํ้าผู้ใช้งานจำเป็นต้องพึ่งพาจริงหรือ แล้วจะได้ประโยชน์อะไร ?
หลังจากบทความก่อนได้อธิบายเกี่ยวกับ ความลงตัวที่กลมกล่อมอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง Internet of Things กับระบบปัญญาประดิษฐ์ Artificial intelligence ทว่าบทความนี้จะเจาะลึกลงแค่โลกของสมาร์ทโฟนเท่านั้น
สำหรับระบบปัญญาประดิษฐ์ต้องอธิบายว่ามีความซับซ้อนกว่าเมื่อเทียบกับระบบประมวลผลทั่วไปซึ่งหากใช้จำนวนข้อมูลขนาดใหญ่อาจเกิดการทำงานที่บกพร่องได้รวมถึงใช้ทรัพยากรสูง ดังนั้นทางแก้คือต้องใส่เงื่อนไขเพื่อเรียกใช้ข้อมูลถูกต้องแม่นยำและเน้น Core มากขึ้นสำหรับการทำงานที่รวดเร็ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่สามารถตอบโจทย์การทำงานได้เหมาะสม
และเมื่อพูดถึงสมาร์ทโฟนเมื่อตัวอุปกรณ์มีขนาดเล็กจึงกลายเป็นเรื่องท้าทายใหม่ เพราะถ้าแก้ปัญหา เหมือนกับที่กล่าวมาข้างต้นจึงส่งผลให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ ทั้งยังสิ้นเปลืองพลังงานของแบตเตอรีโดยใช่เหตุ นอกจากนี้การทำงานหรือที่เราเรียกว่าฟีเจอร์ หากต้องการความซับซ้อน และข้อมูลแบบแม่นยำเที่ยงตรง ถ้าหวังพึ่งพาแค่ CPU ในทางทฤษฏีแล้วแทบเป็นไปไม่ได้กับข้อจำกัดที่มีอยู่ ดังนั้นจึงต้องอาศัยตัวช่วยอย่างระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ
แล้ว AI มีบทบาทอย่างไรต่อสมาร์ทโฟน ?
คำตอบนี้ไม่สามารถกระจ่างชัดเจนได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วระบบปัญญาประดิษฐ์จะมีความสามารถใด ล้วนขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบว่าต้องการเน้นประมวลผลรูปแบบไหนเหมือนกับที่เราเห็น เช่น เน้นถ่ายภาพเพื่อความเป็นธรรมชาติ สมจริงมากขึ้น หรือบริหารจัดการทรัพยากรเครื่องให้ดีขึ้นกว่าเดิม ก็เนื่องจากว่าหน่วยประมวลผลทั่วไปไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเห็นได้จากมีการแบ่งขั้นตอนชัดเจน เช่น 4 คอร์สำหรับการใช้งานทั่วไปและอีก 4 คอร์ใช้ก็ต่อเมื่อต้องการประมวลผลสูง โดยสรุปได้ว่า AI จะมีบทบาทเช่นใดขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาเป็นหลัก
แต่การประมวลผลของ AI ดังกล่าวข้างต้นก็ถือว่ายังไม่สมบูรณ์แบบ!
ทำไมถึงพูดว่าไม่สมบูรณ์แบบเหมือนกับหน่วยประมวลผล CPU ที่ปกติแล้วก็สามารถประมวลผลด้านกราฟฟิกได้ ทว่าเมื่อเจาะลึงลงไปผลลัพธ์ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ดังนั้นจึงเกิดเป็นหน่วยประมวลผลเฉพาะขึ้นมาหรือที่เรารู้จักว่า GPU (Graphics Processing Unit) เพื่อทำงานร่วมกันแต่ก็แยกออกจากกันชัดเจน
ซึ่ง AI ส่วนใหญ่ ณ ตอนนี้จะเป็นเพียงแค่ซอฟต์แวร์ไม่มีฮาร์ดแวร์ดังนั้นการทำงานจึงไม่สมบูรณ์แบบ ทว่าหลายแบรนด์มักโฆษณาชวนเชื่อว่าสมาร์ทโฟนของเรามีนะ แต่ในความเป็นจริงแล้วการมาพร้อมชิปเซ็ตแยกต่างหากถือว่าตอบโจทย์มากกว่า นั่นเท่ากับว่าคุณจะมีทั้งฮาร์ดแวร์ & ซอฟต์แวร์ แน่นอนว่าสองย่อมดีกว่าหนึ่ง ถ้าไม่มีฮาร์ดแวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการทำงานซับซ้อนของ AI วันใดวันหนึ่ง เมื่อปริมาณข้อมูลมากขึ้น หน่วยประมวลผลที่มีในสมาร์ทโฟนอาจไม่สัมพันธ์กันไปโดยปริยาย
ดังนั้นถ้าผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนเน้นการใช้งานระยะยาว และอยากให้เกิดประโยชน์สูงสุดจาก AI จึงควรต้องหารุ่นที่มีชิปเซ็ตประมวลผลเฉพาะ เพราะ CPU ยังมี GPU หรือการถ่ายภาพยังมีหน่วยประมวลผลภาพเฉพาะ เช่นเดียวกับระบบเสียงที่ต้องมีชิปเซ็ตของตนเองเพื่อพลังเสียงที่นุ่มนวล
ประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อมี AI อยู่ในสมาร์ทโฟน
ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้พัฒนาได้สร้างให้ระบบปัญญาประดิษฐ์มุ่งเน้นการทำงานด้านใด ผู้ใช้อย่างเราก็จะได้ข้อดีของตรงนั้นมา ซึ่งความซับซ้อน การแยกแยะ การวิเคราะห์ การเรียนรู้พฤติกรรม การใช้ข้อมูลที่เหมาะสม หรือการตรวจสอบความปลอดภัยที่ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นโซลูชั่นสำคัญแล้ว จะเห็นว่าหากพึ่งพาแค่เพียง CPU เพียงอย่างเดียวจึงทำไม่ได้ และเมื่อต้องอาศัยหน่วยประมวลผลแยกเฉพาะมากขึ้นจึงเกิดความสัมพันธ์หนึ่งรูปแบบของนวัตกรรมขึ้นมาในระดับนาโนเพื่อให้มีขนาดเล็กช่วยเพิ่มพื้นที่และประหยัดพลังงานมากขึ้น
สรุปได้ว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่มีระบบปัญญาประดิษฐ์ เราก็สามารถเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของเรา เช่น เน้นเกม เน้นภาพ เน้นข้อมูล เพราะค่อนข้างมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ก็มีบางรุ่นที่ครอบคลุมทั้งหมด ทว่าราคายังสูงหากเป็นุร่นที่มีฮาร์ดแวร์เฉพาะ แต่ถ้าถามถึงความจำเป็น ณ ช่วงเวลานี้อาจไม่จำเป็นแต่ถ้าคุณมีงบประมาณเพียงพอแน่นอนว่าจะส่งผลให้เรารับประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างจากเดิม สะดวกสบายคล่องตัวยิ่งขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งข้อแตกต่างอย่างชัดเจน
ดังนั้นก่อนซื้อต้องหาข้อมูลให้ละเอียด แต่หากหวังให้สมบูรณ์แบบซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาอีกพักหนึ่งเพราะถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับวงการสมาร์ทโฟนอยู่! และในอนาคตเราคงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีนี้กันมากขึ้นเพื่อเชื่อมต่อและใช้ข้อมูลทุกอย่างไว้ด้วยดัน
วันที่ : 22 ตุลาคม 2560
Siamphone แนะนำ! Smartphone of the Year 2020 รุ่นไหนปังปุริเย่
รีวิว OPPO A15 ภาพชัดจัดเต็มด้วย AI 3 กล้องหลัง จอใหญ่ ดีไซน์บางเบา
ทำความรู้จัก OPPO A15 มือถือประหยัดงบ หน้าจอ 6.52 นิ้ว กล้องหลัง AI 3 เลนส์
รีวิว Vivo Y20s รุ่นเล็ก จอใหญ่ RAM 8GB กล้อง AI 3 เลนส์ ถ่ายจัดเต็มทุกฟังก์ชั่น แบตอึดชาร์จไว
จอง iPhone 12 กับ AIS บนเครือข่ายที่ใช้งานได้ดีที่สุด ให้คุณเป็นเจ้าของคนแรกในไทย
[บทวิเคราะห์] มือถือ 5G 2021 มือถือ 5G ราคาประหยัด จะมีราคาประหยัดได้จริง หรือไม่!
OPPO เตรียมเปิดตัว Reno5 5G รุ่นใหม่ พร้อมกันทั่วประเทศ 26 มกราคมนี้
สยามโฟน.คอม มือถือเทรนด์ใหม่ 2021! มือถือน่าใช้ มือถือรุ่นใหม่ คุ้มค่าน่าซื้อ จะเป็นอย่างไร
รู้ก่อนตกเป็นเหยื่อ! แอปฯ เราชนะ คลังเตือนเป็นของปลอม ช่องทางอื่นๆ ระวังโดนหลอก
NOSTRA เพิ่มข้อมูลสถานที่กักตัวทางเลือก แสดงบนแอปฯ แผนที่ฟรี
Wiko Power U20 ใหม่ล่าสุด หน้าจอ 6.8 นิ้ว HD+ แบตเน้นๆ 6000mAh
Samsung จะไม่แถมหัวชาร์จอะแดปเตอร์และหูฟังไปแล้วต่อจากนี้... 48 นาทีที่แล้ว
Ulefone Armor Mini 2 ฟีเจอร์โฟนพันธุ์อึด พร้อมลุยได้ทุกสถานการณ์2 ชั่วโมงที่แล้ว
NOSTRA เพิ่มข้อมูลสถานที่กักตัวทางเลือก แสดงบนแอปฯ แผนที่ฟรี5 ชั่วโมงที่แล้ว
(อัพเดต พฤศจิกายน 2563) ถึงจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปนานแล้ว สำหรับ The Next iPhone รุ่นใหม่ ทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น iPhone 11 / iPhone 11 Pro / iPhone 11 Pro Max แต่ก็ยังได้รับความสนใจอยู่ตลอดเวลา ด้วยดีไซน์และจุดเด...