โทรศัพท์ (Phone) | วันที่ : 1 ธันวาคม 2560
กระแสมาแรงจากรุ่นของสมาร์ทโฟนช่วงท้ายปี 2017 นี้ หลายคนคงจะต้องตอบว่าเป็น "iPhone X" กันไม่น้อย เพราะได้มีการเปลี่ยนทั้งดีไซน์และวิธีการใช้งานไปจากรุ่นอื่นๆ ค่อนข้างเยอะพอสมควร อย่างไรก็ตาม เราก็มี 10 สิ่งที่อยากบอกเกี่ยวกับ iPhone X จาก Apple ที่น่าสนใจที่คุณอาจจะยังไม่รู้
1. ดีไซน์ของ iPhone X ผลิตออกมาเร็วก่อนกำหนด
ในเรื่องนี้ เราต้องย้อนกลับไปดู Roadmap หรือกลยุทธ์ของ Apple ในตอนแรกที่ทางบริษัทจะเปิดตัวในปี 2018 แต่ได้เลื่อนกำหนดให้เร็วขึ้นมาอีก 1 ปี โดย Dan Riccio ผู้อำนวยการอาวุโสด้านฮาร์ดแวร์ของ Apple ได้ให้คำอธิบายถึงการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ถึง 3 รุ่นภายในปีเดียวกันไว้ดังนี้ "จริงๆ แล้วพวกเราได้ตั้งเป้าหมายเปิดตัวดีไซน์และเทคโนโลยีต่างๆ ของ iPhone X ในปี 2018 แต่ด้วยการทำงานอย่างหนัก ประกอบกับความสามารถของผู้ผลิตก็สามารถทำให้เราได้เปิดตัวก่อนกำหนด นั่นก็คือในปี 2017"
2. Apple ไม่ได้ใช้เวลาตัดสินใจนานเกินไปเกี่ยวกับการตัดปุ่มโฮม
และก็เป็นอีกครั้งที่ Dan Riccio ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า "ผมเคยได้ยินข่าวจากหลากหลายแหล่งว่า พวกเราไม่สามารถทำระบบ Touch ID ใต้หน้าจอได้หรอก ดังนั้น เราจึงเริ่มตัดสินใจที่จะทำบางสิ่ง นั่นคือการสร้างระบบ Face ID เพื่อให้มันออกมาดีเท่าที่มันควรจะเป็น แล้วพวกเราก็รู้ในทันทีว่า หากเราทำมันสำเร็จ เราก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่พวกเราต้องการมาตลอด โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการสร้างระบบสแกนลายนิ้วมือหลังตัวเครื่องหรือบนหน้าจอแสดงผล เนื่องจากหากเราทำระบบอื่นขึ้นมา ระบบ Face ID ก็จะไม่มีความหมายใดๆ เลย"
3. ทำไมตำแหน่งของกล้องหลังถึงเป็นแบบนั้น?
คำตอบของคำถามนี้ไม่ใช่เพราะว่ามันดีต่อการใช้งานเทคโนโลยี AR หรือต้องการใช้ต่างจากรุ่นอื่น แต่นั่นเป็นเพราะว่าเทคโนโลยีกล้อง TrueDepth และเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่เราได้เห็นกันที่ด้านหน้าของตัวเครื่องของ iPhone X (อยู่ตรงกลางระหว่างช่องว่างทั้ง 2 ข้างทางด้านหน้า) เป็นแนวนอน จึงทำให้การผลิตมีการทับซ้อนกัน ดังนั้น กล้องหลังก็ต้องผลิตให้เป็นแนวตั้งแทน
4. Face ID มีผลต่อการโทรเข้าและระบบการแจ้งเตือน
สิ่งเจ๋งๆ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับระบบสแกนใบหน้าอย่าง Face ID ว่ามีผลต่อเสียงริงโทนเมื่อเวลามีสายโทรเข้า โดย Face ID จะเริ่มสแกนหน้าใบหน้าของเจ้าของ และเมื่อมันเห็นเราแล้ว จะมีเพียงใบหน้าของเราเท่านั้นที่สามารถลดเสียงริงโทนลงได้
นอกจากนี้ ระบบการแจ้งเตือนผ่านหน้าจอล็อก ก็ต้องใช้ใบหน้าของเจ้าของเท่านั้น ที่จะมีการแสดงรายละเอียดต่างๆ ขึ้นมา และหากเป็นใบหน้าของคนอื่น หน้าจอก็จะแสดงผลเพียงคำว่า "มีการแจ้งเตือน" เท่านั้น
5. Face ID สามารถทำงานได้เมื่อเราใส่แว่นตาดำ (แต่ไม่ทั้งหมด)
อีกอย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับ Face ID คือเมื่อเจ้าของได้ใส่แว่นดำ ระบบก็ยังคงสามารถทำงานได้อยู่ แต่ขอย้ำว่าไม่ใช่แว่นตาดำทั้งหมดบนโลกนี้ เพราะบางยี่ห้อก็ผลิตออกมากันรังสีอินฟราเรดด้วยความยาวคลื่นที่ 940 นาโนเมตร ส่งผลให้ iPhone X ไม่สามารถจับภาพได้ทั้งหมด
6. ระบบปฏิบัติการ iOS 11 แตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่น (จริงๆ นะ)
iPhone X ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Apple ที่มีฟีเจอร์ Tap to Wake หรือแตะ 2 ครั้งที่หน้าจอเพื่อปลุกหน้าจอ แม้ว่าแอนดรอยด์บางรุ่นก็สามารถทำมาได้สักพักแล้วก็ตาม ทั้งนี้ เรายังสามารถเข้าถึงกล้องหรือไฟฉายด้วยการเลื่อนซ้ายหรือขวาได้อย่างรวดเร็วผ่านหน้าจอล็อกได้ทันที
7. การสลับแอพพลิเคชั่นเป็นเรื่องง่ายมาก
การสลับแอพฯ เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับ iPhone X โดยที่เราไม่ต้องกดปุ่มโฮม 2 ครั้ง หรือย้อนกลับไปหน้าหลักให้ยุ่งยากแล้ว เพียงแค่เราเลื่อนซ้ายหรือเลื่อนขวาจากทางด้านล่างหน้าจอแสดงผล ที่เป็นขีด "-" สีขาว และนี่ถือเป็นความสะดวกสบายแบบใหม่ที่เข้ามาในไอโฟนรุ่นใหม่นี้
8. แอพฯ ที่เคยใช้ Touch ID รองรับ Face ID หมดแล้ว
เป็นที่ทราบกันดีว่าเพื่อความปลอดภัยของแอพพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น แอพเรื่องการเงินของธนาคาร ต้องใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือเพื่อล็อกอินเข้าระบบ (หรือรหัสอื่นๆ) อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานก็ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องระบบ Touch ID ที่ไม่มีใน iPhone X เพราะแอพฯ ต่างๆ ได้ทำการรองรับ Face ID ได้ทั้งหมดแล้ว
9. มีเสียงริงโทนสุดน่ารักแบบเฉพาะสำหรับ iPhone X
ในส่วนของริงโทนที่มีชื่อว่า "Reflection" ได้กลายเป็นริงโทนที่มีบน iPhone X เท่านั้น โดยเสียงดังกล่าวก็อาจจะทำให้เราเคลิ้มจนลืมรับสายเลยทีเดียว
10. แม้ว่าการทำงานของปุ่มเปลี่ยนไป แต่ยัง Force Restart ได้อยู่นะ
ถ้าหากเราต้องการที่จะ Force Restart บน iPhone X เมื่อเกิดการค้าง, กระตุก หรือดับไปอย่างดื้อๆ (โอกาสเป็นไปได้น้อย) ก็ให้เรากดปุ่มเพิ่มเสียงค้างไว้แล้วปล่อย > กดปุ่มลดเสียงค้างไว้แล้วปล่อย และกดปุ่ม Power ค้างไว้แล้วปล่อย จากนั้นไอโฟนของเราก็จะเริ่มกระบวนการรีสตาร์ทโดยอัตโนมัติ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงสิ่งสำคัญ 10 สิ่งที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับ iPhone X ซึ่งก็แน่นอนยังคงมีอีกหลายอย่างที่เราต้องเรียนรู้เกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ โดยสามารถลองอ่านข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ iPhone X ได้ที่นี่
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.forbes.com วันที่ : 1 ธันวาคม 2560
realme Narzo 70x 5G และ realme Narzo 70 5G หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
Polestar Phone เมื่อแบรนด์รถยนต์ EV เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตนเอง สเปคจัดเต็ม!
Samsung Galaxy C55 หน้าจอ Super AMOLED+ ขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 1
Tecno POVA 6 และ POVA 6 Neo เน้นแบตเตอรี่ใหญ่จุใจ หน้าจอ 120Hz พลังเสียง Dolby Atmos
ทำความรู้จัก OPPO A60 4G หน้าจอ 90Hz ลำโพงสเตอริโอ ชาร์จเร็ว 45 วัตต์ เริ่มต้น 5,999 บาท
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
เตรียมเปิดตัว Samsung Galaxy Watch FE สมาร์ทวอทช์ราคาย่อมเยาในปีนี้
Maono WM620 PC2 ไมโครโฟนไร้สาย ที่สายคอนเทนต์ต้องมี เพราะใช้งานง่ายมาก
realme Narzo 70x 5G และ realme Narzo 70 5G หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
Redmi Turbo 3 แรงฉบับนักฆ่าเรือธง Snapdragon 8s Gen 3 พร้อมรุ่นพิเศษ Harry Potter Edition
Nothing Ear และ Nothing Ear (a) ประกาศวันเปิดตัว มีการรีเซ็ตชื่อ และมาด้วยกัน 2 รุ่น