หลังจากที่ Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับ Mid-End อย่าง Galaxy A8 (2018) Series อย่างเป็นทางการเพื่อต้อนรับปี 2018 ที่กำลังจะถึงนี้ รวมไปถึงการทดแทนรุ่น Galaxy A7/A5 (2017) ด้วยเช่นกัน นั่นก็หมายความว่า Galaxy A8+ เทียบได้กับ Galaxy A7 (2017) ขณะที่ Galaxy A8 จะเทียบได้กับ Galaxy A5 (2017) แต่ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างและเปลี่ยนเยอะแค่ไหน เรามีคำตอบ
เปรียบเทียบสเปค
อย่างที่เราพอจะทราบกันดีว่า รุ่น Galaxy A Series มักจะมีสเปคหรือดีไซน์ที่คล้ายคลึงกันมาก และแทบจะไม่แตกต่างกันเลยด้วยซ้ำ เรามาดูกันในส่วนแรกอย่างหน้าจอแสดงผลกันก่อน โดย Galaxy A8+ มาพร้อมกับหน้าจอกว้าง 6 นิ้ว ขณะที่รุ่นน้องอย่าง Galaxy A8 กว้าง 5.6 นิ้ว ซึ่งทั้งคู่ก็มีหน้าจอแสดงผลแบบ Full HD+ อัตราส่วน 18.5:9 เหมือนกัน
ส่วนของสเปคที่ต่างกันอื่นๆ มีดังนี้
สเปคที่เหมือนกัน มีดังนี้
หากเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง Galaxy A7 (2017) และ Galaxy A5 (2017)?
หน้าจอของ Galaxy A7 (2017) และ Galaxy A5 (2017) มีความละเอียด Full HD กว้าง 5.7 นิ้ว และ 5.2 นิ้ว ตามลำดับ ส่งผลให้ทั้ง 2 เครื่องนี้ดูเล็กกว่า A8 Series รวมถึงอัตราส่วนที่น้อยกว่าที่ 16:9 แต่ก็ยังคงมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเหมือนกัน (แต่คนละตำแหน่ง)
นอกจากนี้ Galaxy A7 (2017) และ Galaxy A5 (2017) ก็มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลที่เก่ากว่าเล็กน้อยด้วย Exynos 7880 เช่นเดียวกับ RAM ที่มีเพียง 3 GB น้อยกว่า A8 Series ที่ให้มา 4/6 GB ส่วนกล้องหน้าของ A (2017) Series ก็เป็นกล้องเดี่ยวความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 และไม่ได้รองรับโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh) อย่างไรก็ตาม Galaxy A7 (2017) ก็มีขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า Galaxy A8+ ที่ 3,600 mAh (มากกว่า 100 mAh) ขณะที่ Galaxy A5 (2017) และ Galaxy A8 มีขนาดแบตเตอรี่เท่ากันที่ 3,000 mAh
ตารางเปรียบเทียบสเปค Galaxy A8 (2018) Series และ Galaxy A7 และ A5 (2017)
แล้วรุ่นไหนที่เหมาะกับเราล่ะ?
เราจะเลือก Galaxy A8 (2018) Series หรือ Galaxy A7/A5 (2017) ดีล่ะ? ก่อนอื่น เพื่อไม่ให้เกิดการสับสน เหล่า A8 Series มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เพียบพร้อมกว่าด้วยหน้าจอไร้ขอบ (Bezel-less) อัตราส่วน 18.5:9, หน่วยประมวลผลเร็วกว่า, มี RAM และมีตัวเลือกของ ROM มากกว่า รวมถึงกล้องหน้าคู่ที่ถือเป็นครั้งแรกของ Samsung เลยทีเดียว โดยหากเราต้องการสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ระดับกลางๆ แบบใหม่ล่าสุดสักเครื่อง คำตอบก็คงชัดเจนอยู่แล้ว (แต่ต้องรอวางจำหน่ายช่วงเดือนมกราคม ปี 2018)
ส่วน Galaxy A7/A5 (2017) ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่เหมือนเดิม เพราะมีหน่วยประมวลผล, RAM และ ROM เพียงพอต่อการใช้งานและเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น ซึ่งอาจจะต่างกันแค่เรื่องของดีไซน์และกล้องที่เห็นได้ชัดเจนเท่านั้น แต่ราคาของรุ่นนี้ก็จะถูกลงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะเลือกรุ่นไหน ก็อยู่ที่ความพึงพอใจของแต่ละคนนั่นเอง
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.androidauthority.com วันที่ : 22 ธันวาคม 2560
realme Narzo 70x 5G และ realme Narzo 70 5G หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
Polestar Phone เมื่อแบรนด์รถยนต์ EV เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตนเอง สเปคจัดเต็ม!
Samsung Galaxy C55 หน้าจอ Super AMOLED+ ขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 1
Tecno POVA 6 และ POVA 6 Neo เน้นแบตเตอรี่ใหญ่จุใจ หน้าจอ 120Hz พลังเสียง Dolby Atmos
ทำความรู้จัก OPPO A60 4G หน้าจอ 90Hz ลำโพงสเตอริโอ ชาร์จเร็ว 45 วัตต์ เริ่มต้น 5,999 บาท
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
realme 12 5G และ realme 12X 5G กล้องซูม 3 เท่าไม่สูญเสียรายละเอียด รองรับ 5G เริ่มต้น 5,xxx
Sony เปิดตัวซีรีส์ ULT POWER SOUND เสียงเบสกระหึ่ม เต็มอารมณ์
เตรียมเปิดตัว Samsung Galaxy Watch FE สมาร์ทวอทช์ราคาย่อมเยาในปีนี้
Polestar Phone เมื่อแบรนด์รถยนต์ EV เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตนเอง สเปคจัดเต็ม!
realme GT Neo6 SE เปิดตัวด้วยขุมพลัง Snapdragon 7+ Gen 3 ชาร์จเร็วระดับ 100W
ทำความรู้จักแท็บเล็ต HONOR Pad 9 พร้อมของแถมมูลค่ารวม 2,698 บาท
รวมลิสต์เครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์เสริมที่ควรมีติดบ้านหน้าร้อน18 ชั่วโมงที่แล้ว
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย20 ชั่วโมงที่แล้ว