สิ้นสุดการรอคอยสำหรับสมาร์ทโฟนตัวใหม่ล่าสุด คราวนี้เป็นคิวของ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ สมาร์ทโฟนหน้าจอ Infinity Display อัตราส่วน 18.5:9 ที่มาพร้อมจุดเด่นกล้องถ่ายรูปรูรับแสงคู่ f/1.5 และ f/2.4 สามารถสร้างตัวกาตูนอีโมจิจากใบหน้าของผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยี AR Emoji รองรับการถ่ายวิดีโอ Super Slow Motion ที่ 960 fps ทั้งยังมีระบบปลดล็อคอัจฉริยะ ใช้งานสแกนม่านตาและใบหน้าได้พร้อมกัน และระบบเสียงลำโพงคู่สเตอริโอปรับจูนจาก AKG
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ รอบตัวเครื่องเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบ Unibody ไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผลิตจากอลูมิเนียมซีรีย์ 7000 แข็งแรงทนทาน โดย Samsung Galaxy S9+ มีขนาด 158x73.8x8.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 189 กรัม ส่วน Samsung Galaxy S9 มีขนาด 147.7x68.7x8.5 มิลลิเมตร น้ำหนักตัว 163 กรัม
หน้าจอแสดงผลแบบ Infinity Display เทคโนโลยี Super AMOLED ความละเอียด WQHD+ (2960x1440 พิกเซล) อัตราส่วน 18.5:9 และมีฟิลม์แบบพิเศษติดไว้เพิ่อให้หน้าจอดำสนิทสวยงาม โดย Samsung Galaxy S9+ มีขนาด 6.2 นิ้ว และ Samsung Galaxy S9 จอกว้าง 5.8 นิ้ว
ข้างล่างหน้าจอไม่มีปุ่มนำทางอยู่ เนื่องจากปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์อยู่ในหน้าจอแสดงผล
ข้างบนหน้าจอมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 อยู่ทางขวา ขยับมาทางซ้ายเป็นตัวสแกนม่ายตา (Iris Scanner) และไฟแสดงสถานะอยู่ทางซ้ายสุด ส่วนตรงกลางเป็นลำโพงเสียงไว้สำหรับการสนทนา และยังเป็นลำโพงเสียงเวลาเปิดการใช้งาน Speaker
ทางซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มลดและเพิ่มเสียงอยู่ข้างบน ถัดมาข้างล่างเป็นปุ่มเริ่มการใช้งาน Bixby
ทางขวาตัวเครื่อง มีปุ่มเพาเวอร์สำหรับพักหน้าจอหรือเปิดปิดตัวเครื่อง
ส่วนบนด้านบนของตัวเครื่อง มีช่องสำหรับถาดใส่ SIM Card โดยในถาดจะเป็นแบบ Hybrid สามารถใช้งานได้ 2 ซิมการ์ดแบบ Nano SIM และช่อง MicroSD Card รองรับความจุสูงสุด 400GB ส่วนทางขวาสุดเป็นไมโครโฟนตัวที่ 2 ตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างตัวเครื่อง มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร อยู่ทางซ้าย ตรงกลางเป็นช่องเสียบสาย USB Type-C ขยับมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน และลำโพงเสียง
ข้างหลังตัวเครื่อง Samsung Galaxy S9+ จะมาเป็นแบบกล้องคู่ ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล รูรับแสงคู่ f/1.5 กับ f/2.4 ป้องกันการสั่นไหวด้วย Dual OIS ส่วน Samsung Galaxy S9 จะเป็นกล้องตัวเดี่ยวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงคู่ f/1.5 กับ f/2.4 มีระบบป้องกันการสั่นไหว OIS โดยทั้ง 2 รุ่นมีที่สแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้กล้อง และมีไฟแฟลชแบบ LED อยู่ทางขวา ข้างล่างไฟแฟลชจะเป็นตัวเซ็นเซอร์สำหรับวัดระดับการเต้นของหัวใจ ที่สำคัญมีการครอบทับด้วยกระจกแก้ว Gorilla Glass 5 ทางด้านหลังด้วย
สรุปสเปคของ Samsung Galaxy S9+
สรุปสเปคของ Samsung Galaxy S9
จุดเด่นของ Samsung Galaxy S9 / S9+
ดีไซน์
กล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปบน Samsung Galaxy S9 / S9+ ปรับใหม่ให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น ซึ่งสำหรับ Galaxy S9 จะเป็นกล้องเดี่ยวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง (f/1.5 กับ f/2.4) มีระบบกันสั่น OIS และ Galaxy S9+ เป็นกล้องคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (f/1.5 กับ f/2.4) + กล้องเลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล (f/2.4) ระบบกันสั่นแบบ Dual OIS โดยค่ารูรับแสงจะทำงานอัตโนมัติเมื่อถ่ายรูปในสภาวะแสงน้อย และปรับค่ารูรับแสงเป็น f/2.4 เมื่ออยู่ในสภาวะแสงปกติ
Super Slow Motion
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่หน้าสนใจคือกล้องถ่ายรูปรองรับการถ่าย Slow Motion ที่ 960 fps โดยในหน้ากล้องถ่ายรูปจะมีโหมดดังกล่าวให้เลือกใช้งาน สามารถถ่ายวิดีโอ Slow Motion แล้วเพิ่มลูกเล่นด้วยการใส่ Background Music และเลือกปรับวิดีโอสโลว์โมชั่นที่ถ่ายเป็นแบบก่อนหน้า ถัดไป หรือวนลูปได้
AR Emoji
ลูกเล่นการสร้างอิโมจิของตัวเอง ถูกเพิ่มเข้ามาในกล้องถ่ายรูป โดยเป็นการถ่ายรูปแล้วนำไปประมวลผลเป็น 3D ก็จะได้สติ๊กเกอร์รูปของตัวเองในท่าทางต่างๆ ที่เป็นไฟล์ Gif ซึ่งเริ่มต้นจะมี 18 แบบ ให้เลือกใช้งานตามอารมณ์ที่ต้องการจะสื่อ นอกจากนี้ ยังมีในรูปแบบของวิดีโอ และภาพนิ่ง สามารถส่งให้เพื่อนทางโซเชียลต่างๆ ได้
กล้องแปลภาษา
กล้องถ่ายรูปของ Samsung Galaxy S9 / S9+ สามารถใช้งานแปลภาษาได้ด้วยการถ่ายรูปแล้วทำงานร่วมกับ Bixby เบื้องต้นแปลจากภาษาต้นทางได้ 54 ภาษา แปลได้ 104 ภาษา และยังสามารถค้นหาสถานที่ได้จากกล้องถ่ายรูปด้วยเช่นกัน
ระบบความปลอดภัย
Samsung Galaxy S9 / S9+ รองรับการใช้งานความปลอดภัยหลายประเภท ทั้งระบบสแกนใบหน้า, สแกนม่านตา, ปลดล็อดด้วยลายนิ้วมือ และรูปแบบรหัสผ่าน จุดเด่นคือการสแกนอัจฉริยะ ที่สามารถใช้งานสแกนม่านตาได้พร้อมกับการสแกนใบหน้าโดยไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยการปลดล็อคจะขึ้นอยู่กับว่าระบบสามารถประมวลการสแกนแบบไหนได้ก่อน ซึ่งการทำงานบนแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญจะทำงานคู่กันทั้ง 2 อย่าง
ลำโพงคู่
ลำโพงบน Samsung Galaxy S9 / S9+ จะมาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอที่ถูกปรับแต่งจาก AKG รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และมีหูฟังที่มาในกล่องเป็นของ AKG ด้วยเช่นกัน
App Pair (สร้างคู่แอพฯ)
ในส่วนนี้จะเป็นการจับคู่แอพพลิเคชั่น เพื่อสะดวกต่อการใช้งานแบ่งหน้าจอ (Split Screen) โดยสามารถเลือกได้ทันทีว่าจะเปิดใช้งานระหว่าง 2 แอพฯ ได้ทันทีตามทีเลือกเอาไว้
วิธีเริ่มใช้งานให้ไปที่ Apps Edge ด้วยการเลื่อนหน้าจอทางขวาในหน้าโฮม จากนั้นกดเพิ่มแอพฯ และสร้างคู่แอพฯ เท่านี้ก็สามารถเลือกได้เลยว่าจะจับคู่ระหว่าง 2 แอพฯ ใดบ้าง
ความแตกต่างระหว่าง Samsung Galaxy S9 และ S9+
สำหรับในประเทศไทย Samsung Galaxy S9 / S9+ จะวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ (Midnight Black), สีม่วง (Lilac Purple) และสีฟ้า (Coral Blue)
สำหรับ S9 มีความจุให้เลือกขนาด 64GB ราคา 27,900 บาท และ S9+ มีให้เลือกความจุ 3 ขนาด ได้แก่ 64GB ราคา 31,900 บาท และ 128GB ราคา 33,900 บาท และเครือค่ายหลัก 3 เจ้าในไทยมีความจุ 256GB ราคาเริ่มต้น 37,900 บาท สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. - 5 มี.ค. 61 จัดส่งตั้งแต่ 9-11 มี.ค. และวางจำหน่ายจริง 16 มีนาคม 2561
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 26 กุมภาพันธ์ 2561
Samsung Galaxy S25 Series สรุปข่าวลือล่าสุดก่อนเปิดตัวต้นปี 2025
Samsung Galaxy S25 Slim สุดยอดกล้องระดับไฮเอนด์ในตัวเครื่องที่บางเฉียบ
Samsung Galaxy A16 จอ FHD+ Super AMOLED ใหญ่ชัดเสมือนจริง กล้อง Triple camera แบตยาวนานขึ้น
Samsung Galaxy S25 Ultra มาแน่! พร้อมตัวเลือกสีสุดอลังการถึง 7 เฉด
Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนพับรุ่นพิเศษ Galaxy W25 และ W25 Flip ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคระดับพรีเมียมใ...
ทำความรู้จัก Samsung Galaxy A16 5G อัปเดต OS นาน 6 ปี นานที่สุดที่เคยมีมา เคาะราคาไทยแล้ว!
เปิดตัว HUAWEI FreeBuds Pro 4! หูฟังไร้สายรุ่นแรกที่ใช้ HarmonyOS NEXT
Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกรันบน HyperOS 2 หน้าจอสี่เหลี่ยม AMOLED กว้าง 2.07 นิ้ว
OPPO Reno 13 Series ชิปเซ็ต Dimensity 8350 กันน้ำกันฝุ่น IP69 และชาร์จเร็ว 80W!
ทำความรู้จัก HONOR 200 Smart 5G หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP64 กล้องหลัง 50MP AI Motion Sensing
Blackview Active 10 Pro มาแล้ว! แท็บเล็ต 5G แบตฯ อึด กล้องเทพ ลดแรงแค่ 7 วันเท่านั้น!
ROG Phone 9 Series กับฟังก์ชัน AniMe Vision display และลูกเล่น AI เกมมิ่งฟีเจอร์แบบจัดเต็ม
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย11 ชั่วโมงที่แล้ว