ซอฟต์แวร์ (Software) | วันที่ : 27 กุมภาพันธ์ 2561
หลังจากที่ Samsung เปิดตัว Galaxy S9 และ S9+ ไปได้ไม่นาน หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดนั่นก็คือ AR Emoji หรือลูกเล่นแบบใหม่ที่ให้กลิ่นอายคล้ายกับ Animoji ของ iPhone X จาก Apple ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนคงจะคิดว่ามันอาจจะเหมือนกัน หรือต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราก็มีปัจจัยหลักที่ทำให้ 2 ฟีเจอร์นี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อะไรคืออีโมจิเคลื่อนไหว (Animated Emoji) ?
ดูเผินๆ แล้ว การใช้งานของทั้ง 2 ฟีเจอร์มีความคล้ายคลึงกันมาก เนื่องจากให้ความสามารถที่แปลงจากใบหน้าคนเป็นตัวการ์ตูนตามอารมณ์แบบน่ารักๆ เพื่อแชร์ให้กับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ผ่านโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ทั้งยังให้ความแปลกใหม่ออกไปจากเดิมที่เป็นเพียงรูปตัวอีโมจินิ่งๆ
อะไรคือความต่าง?
แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจะเหมือนกัน แต่ก็มีพื้นฐานเบื้องต้นที่ต่างกันพอสมควร เริ่มกันด้วย Animoji ใน iPhone X ที่ใช้เซ็นเซอร์จากกล้องหลายตัวเพื่อบันทึกใบหน้ารูปแบบต่างๆ (รวมไปถึงการทำงานของ Face ID เช่นกัน) ซึ่งผลที่ได้ออกมา คือ หน้าไก่พูดได้, กระต่ายน่ารักๆ หรือรอยยิ้มจากอีโมจิรูปอุนจิ
และเพื่อใช้งาน Animoji นั้น เราต้องใช้งานอยู่ในแอพพลิเคชั่นที่ส่งข้อความและจะทำงานเมื่อเราเริ่มบันทึกวิดีโอสั้นๆ ประมาณ 10 วินาที โดยจะแชร์ผ่าน iMessage หรือแอพฯ อื่นได้ตามใจชอบเท่านั้น
มากันที่ฝั่ง Galaxy S9 และ S9+ ที่ไม่ได้ใช้เซ็นเซอร์จากกล้องหลายตัวเพื่อให้เกิด AR Emoji แต่ 2 รุ่นนี้ใช้กล้องหน้าเพียงตัวเดียว ผสานกับระบบซอร์ฟแวร์ภายใน เพื่อบันทึกใบหน้าของเราให้กลายเป็นอีโมจิ และสามารถบันทึกเป็นวิดีโอได้ด้วย
และสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง 2 ฟีเจอร์นี้ คือใน Galaxy S9/S9+ เราสามารถตกแต่งตัวการ์ตูนอิโมจิที่ออกแบบได้เอง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม, สีผิว, การแต่งกาย และอื่นๆ อีกมาก เพื่อให้เราได้อีโมจิที่เป็นตัวเรามากที่สุดคล้ายกับการเล่น The Sims เลยทีเดียว ทั้งนี้ เรายังเข้าถึง AR Emoji ได้ง่ายๆ เพียงแค่เข้าแอพฯ กล้องเท่านั้น ซึ่งเราสามารถบันทึกเป็นไฟล์ GIF ได้ถึง 18 แบบ โดยทั้งหมดนี้ iPhone X ยังไม่สามารถทำได้
แล้วอะไรคืออิโมจิที่ดีกว่ากัน?
หากถ้าเราไม่ได้จริงจังเรื่องการใช้งานส่วนนี้ ก็ไม่ต้องถึงกับซีเรียส แต่สำหรับผู้ที่ต้องใช้งานจริงแล้ว iPhone X ดูจะมีภาษีดีกว่าเล็กน้อยจากการใช้เซ็นเซอร์หลายตัวจนทำให้ได้อีโมจิที่เหมือนกับใบหน้าเรามากกว่า แต่หากใครต้องการความสวยงามหรือลูกเล่นหลากหลาย ทาง Galaxy S9/S9+ ก็ถือเป็นตัวเลือกแรกในฟีเจอร์นี้เลยทีเดียว
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.androidauthority.com วันที่ : 27 กุมภาพันธ์ 2561
คุ้มไหมที่จะซื้อ? Samsung Galaxy Tab S6 Lite (2024) แท็บเล็ตโทรได้ ลำโพง Dolby ATMOS แบตฯ เยอะ
OPPO และ OnePlus เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ AI อย่าง AI Eraser ทั่วโลก
Samsung Galaxy C55 หน้าจอ Super AMOLED+ ขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 1
พก Galaxy S24 Series ที่มี Galaxy AI เที่ยวคนเดียวไม่ยากอีกต่อไป
Samsung ครองแชมป์จำหน่ายสมาร์ทโฟนมากสุดไตรมาสแรก 2024 ขณะที่ iPhone ยอดขายลดฮวบ ทำไม ?
ส่องฟีเจอร์ realme 12+ 5G บอดี้สุดแกร่ง พร้อมรับทุกแรงปะทะในเทศกาลปีใหม่ไทย
realme Narzo 70x 5G และ realme Narzo 70 5G หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
MOMENTUM Sport หูฟังไร้สาย ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิไปพร้อมเสียงเพลง
Mercedes-Benz แนะนำ 5 ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า สำหรับรถอีวีและและปลั๊กอินไฮบริด
Sony เปิดตัวซีรีส์ ULT POWER SOUND เสียงเบสกระหึ่ม เต็มอารมณ์
Redmi Turbo 3 แรงฉบับนักฆ่าเรือธง Snapdragon 8s Gen 3 พร้อมรุ่นพิเศษ Harry Potter Edition
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย7 ชั่วโมงที่แล้ว