ในช่วงเวลาสองสามปีที่ผ่านมา เราได้เห็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มากมาย และก็มีหลายสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เป็นไปได้แล้ว อาทิ Aeromobil รถยนต์บินได้ที่ใกล้วางขายเชิงพาณิยช์แล้ว รวมถึงเครื่องบินขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เท่านั้น ทว่าล่าสุดมีอะไรที่แปลกใจกว่านั้น เพราะบริษัท BRAVE ROBOTICS ร่วมมือกับ Asratec บริษัทดำเนินธุรกิจซอฟต์แวร์เกี่ยวกับหุ่นยนต์ และบริษัท Sanesi และดีไซน์เนอร์ Kunio Okawara ดูแลด้านการออกแบบ เปิดตัวรถยนต์ที่สามารถแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ได้เหมือนกับภาพยนตร์และการ์ตูนชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นนามว่า J-deite RIDE
J-deite RIDE เมื่อแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์จะมีขนาดสูง 4 เมตร แต่ถ้าเป็นโหมดรถยนต์จะสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้สองคน จุดเด่นคือพลขับจะนั่งอยู่ได้ในระหว่างกระบวนการแปลงร่างจากรถไปเป็นหุ่นยนต์ ส่วนประกอบหลักจะเป็นอลูมิเนียม และพลาสติกเกรดคุณภาพมีความยืนหยุ่นและหนาแน่น โดยเราสั่งการควบคุมผ่านรีโมทได้เลย ทั้งนี้การเคลื่อนไหวต่างๆ จะทำงานจากซอฟต์แวร์ที่มีชื่อเรียกว่า “V-Sido” พัฒนาโดยบริษัท Asratec
ทั้งนี้กระบวนการทั้งหมดใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียม มีนํ้าหนักรวมมากกว่า 1,695 กิโลกรัม ในโหมดรถยนต์ทำความเร็ว 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่โหมดหุ่นยนต์จะเดินที่ความเร็ว 100 เมตร/ชั่วโมง
J-deite RIDE จะถูกนำไปจัดแสดงที่งาน “GoldenWeek DOKIDOKI Festa All Working Cars Assemble!” ในวันที่ 5 พฤษภาคม อย่างไรก็ตามต้องบอกว่านี่คือก้าวใหญ่ครั้งสำคัญและเป็นเรื่องที่น่าติดตามกันต่อไปว่าจะมีการนำมาวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์หรือไม่ โดยผู้พัฒนาได้กล่าวทิ้งท้ายว่าเราจะทำการพัฒนา รวมถึงปรับเปลี่ยนต่อไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : braverobotics.com วันที่ : 30 เมษายน 2561
Tecno Pova 7 และ Pova 7 Pro ดีไซน์แสง Delta Light แบตเตอรี่จุใจ 6000mAh
OPPO K13x สมาร์ทโฟนพันธุ์แกร่งเกรดกองทัพ กันน้ำ IP65 จอ 120Hz ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้
TCL เปิดตัว NXTPAPER 11 Plus แท็บเล็ตจอใหญ่ 11 นิ้ว ถนอมสายตา ในราคาต่ำหมื่น
Xiaomi Watch S4 41mm สมาร์ทวอทช์ดีไซน์เล็กเหมาะกับผุ้หญิง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยชิป Xring T1
Xiaomi MIX Flip 2 ฟลิปโฟนรุ่น 2 กล้อง LEICA เพิ่มเติมด้วยสเปค Snapdragon 8 Elite
LG xboom Grab และ xboom Bounce ลำโพงพกพาสุดล้ำที่มาพร้อม AI และเสียงซิกเนเจอร์จาก will.i.am