เทคโนโลยี (Technology) | วันที่ : 10 พฤษภาคม 2561
เจนเนอรัล มอเตอร์ส ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก และเป็นผู้ผลิตยานยนต์แบรนด์เชฟโรเลตได้นำเทคโนโลยีการออกแบบขั้นสูงด้วยซอฟต์แวร์ใหม่ มาใช้ในการออกแบบยานยนต์รุ่นใหม่ที่มีน้ำหนักเบา โดยเทคโนโลยีล้ำสมัยดังกล่าวเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนารถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีน้ำหนักเบาขึ้น และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
จีเอ็ม เป็นหนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์รายแรกของโลกที่นำเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ใหม่จากบริษัท ออโตเดสก์ ซึ่งเป็นบริษัทรับออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์จากเบย์ แอเรีย ซานฟรานซสโก โดยเทคโนโลยีล้ำสมัยดังกล่าวใช้ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) และอัลกอริทึมในปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งสามารถจัดเรียงและสับเปลี่ยนแบบชิ้นส่วนต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ได้ตัวเลือกแบบที่มีประสิทธิภาพสูง และมักจะเป็นรูปทรงเรขาคณิตแบบออแกนิค แบบที่ได้จะขึ้นอยู่กับเป้าหมายและการตั้งค่าของพารามิเตอร์ของผู้ใช้ โดยผู้ใช้จะต้องป้อนข้อมูลต่างๆ เช่น น้ำหนัก ความทนทาน ประเภทวัสดุ วิธีการผลิต และอื่นๆ จากนั้นผู้ใช้จะสามารถเลือกชิ้นส่วนที่เหมาะสมดีที่สุดเพื่อพิมพ์สามมิติ
“เทคโนโลยีขั้นสูงนี้ทำให้เราสามารถออกแบบและพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ในอนาคตของเราให้มีน้ำหนักเบาลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” มร.เคน เคลเซอร์ รองประธานกรรมการ ฝ่าย Global Vehicle Components and Subsystems บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) กล่าว “เมื่อเรานำเทคโนโลยีการออกแบบมารวมกับความก้าวหน้าในการผลิต เช่น การพิมพ์สามมิติ ขั้นตอนการออกแบบและพัฒนายานยนต์ของเราจึงเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เราสามารถสร้างชิ้นงานโดยการออกแบบร่วมกับคอมพิวเตอร์ในแบบที่เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำได้”
จีเอ็มกำลังนำอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันเข้าสู่ยุคของยานยนต์น้ำหนักเบา เทคโนโลยีการออกแบบใหม่นี้ช่วยลดมวลน้ำหนักรถยนต์ลงอย่างเห็นได้ชัด และเพิ่มโอกาสในการรวมชิ้นส่วนซึ่งไม่สามารถทำได้ผ่านการออกแบบและวิธีในรูปแบบเดิม
จีเอ็มนำนวัตกรรมดังกล่าวมาใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต วิศวกรจีเอ็มและออโตเดสก์ใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ในการผลิตชิ้นส่วนของโครงสร้างเบาะที่นั่ง ซึ่งมีน้ำหนักเบาลง 40% และแข็งแรงขึ้น 20% เมื่อเทียบกับชิ้นส่วนเดิม นอกจากนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวยังรวบรวมส่วนประกอบที่แตกต่างกัน 8 ส่วน แล้วพิมพ์ออกมาเป็นชิ้นส่วนแบบสามมิติ 1 แบบอีกด้วย
จีเอ็มและออโตเดสก์เป็นพันธมิตรทางนวัตกรรมร่วมกันมาหลายปี ทั้งจีเอ็มและออโตเดสก์จึงเตรียมทำโครงการร่วมกันเกี่ยวกับแนวคิดการนำ AI มาใช้ออกแบบโครงสร้างเชิงวิศวกรรม (Generative Design) กระบวนการผลิตแบบ Additive Manufacturing ซึ่งคือการขึ้นรูปชิ้นงานด้วยการเติมเนื้อวัสดุเข้าไป และหลักการวัสดุศาสตร์ โดยผู้บริหารและวิศวกรจากทั้งสองบริษัทจะร่วมประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ภูมิปัญญา และความชำนาญ นอกจากนี้ จีเอ็มยังสามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์ของออโตเดสก์ได้อย่างเต็มรูปแบบและสามารถติดต่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของออโตเดสก์ได้
“แนวคิดการนำ AI มาช่วยใช้ออกแบบโครงสร้างเชิงวิศวกรรมนับว่าเป็นอนาคตของวงการการผลิต และจีเอ็มถือเป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในลดน้ำหนักรถยนต์ในอนาคตของจีเอ็ม” มร. สก็อตต์ รีส รองประธานกรรมการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการผลิตและการก่อสร้าง จากบริษัท ออโตเดสก์ กล่าว “การนำ AI มาใช้ในการออกแบบเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานทางวิศวกรรมอย่างสิ้นเชิง เพราะเราต้องคำนึงถึงขั้นตอนทางการผลิตตั้งแต่เริ่มต้นการออกแบบ และด้วยเทคโนโลยีนี้ วิศวกรจีเอ็มจะสามารถตรวจสอบตัวเลือกในการออกแบบที่พร้อมผลิตและมีประสิทธิภาพสูงกว่าร้อยแบบ ได้เร็วกว่าการตรวจสอบการออกแบบทีละแบบตามวิถีเดิม”
จีเอ็มคือผู้ริเริ่มการใช้กระบวนการผลิตแบบ Additive Manufacturing นับเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่จีเอ็มใช้การพิมพ์แบบสามมิติในการสร้างชิ้นส่วนโดยตรงจากข้อมูลดิจิตัลได้สำเร็จด้วยการเพิ่มชั้นของวัสดุ จีเอ็มเป็นที่แรกที่มีเครื่องพิมพ์สามมิติ ปัจจุบันมีเครื่องพิมพ์สามมิติที่ครอบคลุมมากกว่า 50 เครื่องและสามารถสร้างชิ้นงานต้นแบบด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติได้มากกว่า 250,000 ชิ้น ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
ตั้งแต่ปี 2559 จีเอ็มได้เปิดตัวรถยนต์ใหม่ถึง 14 รุ่น ด้วยน้ำหนักมวลรวมที่ลดลงมากกว่า 5,000 ปอนด์ (2,268 กิโลกรัม) หรือลดลงมากกว่า 350 ปอนด์ (159 กิโลกรัม) ต่อรถยนต์ 1 คัน ซึ่งน้ำหนักที่ลดลงนั้นเกิดจากความก้าวหน้าทางวัสดุและเทคโนโลยี และมากกว่าครึ่งหนึ่งของรุ่นรถที่เปิดตัวไปแล้วมีน้ำหนักลดลงถึง 300 ปอนด์ (136 กิโลกรัม) หรือมากกว่านั้น
การลดมวลน้ำหนักของชิ้นส่วนต่างๆ ที่ผลิตจากวัสดุซึ่งไม่มีผลต่อสมรรถนะ ร่วมกับการรวบรวมชิ้นส่วน ถือเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้รถยนต์ เพราะรถยนต์จะมีพื้นที่ใช้สอยภายในมากขึ้น มีฟีเจอร์ต่างๆ มากขึ้น และมีประสิทธิภาพในการใช้งานเพิ่มขึ้น ประโยชน์ต่างๆ ที่ได้จากเทคโนโลยีขั้นสูงนี้ นอกจากจะช่วยเปิดทางให้เกิดฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับลูกค้าแล้ว ยังเปรียบเสมือนกระดาษวาดรูปที่นักออกแบบรถยนต์สามารถวาดสิ่งใหม่ๆ และคิดค้นรูปลักษณ์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนได้อีกด้วย
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.gm.com วันที่ : 10 พฤษภาคม 2561
MG4 Electric 2024 ดีไซน์สปอร์ต สมรรถนะเร้าใจ เริ่มต้น 7 แสนบาท
CHANGAN กวาดยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าในงาน Motor Show 2024 ทะลุ 3,000 คัน
LG PuriCare 360° Alpha Pet เครื่องฟอกอากาศ สำหรับเหล่า Pet Parents
Mercedes-Benz แนะนำ 5 ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า สำหรับรถอีวีและและปลั๊กอินไฮบริด
Hyundai IONIQ 6 ดีไซน์ล้ำสมัย ขับขี่ไกล 545 กม. เปิดตัวในไทยราคา 1.899 ล้านบาท
เตรียมเปิดตัว Tesla Model 3 Performance (Ludicrous) ซูเปอร์ซีดานไฟฟ้าที่สุดแห่งสมรรถนะ
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 12x 5G มือถือราคาครึ่งหมื่นก็ใช้งานเน็ต 5G ได้แล้ว อย่างคุ้ม!
HONOR X7b 5G ขยับใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6020 จุใจด้วยกล้องระดับ 108MP
Moto G64 5G สมาร์ทโฟนรุ่นแรกใช้ Dimensity 7025 พร้อมกล้อง 50MP กันสั่น OIS
realme GT Neo6 SE เปิดตัวด้วยขุมพลัง Snapdragon 7+ Gen 3 ชาร์จเร็วระดับ 100W
Nothing Ear และ Nothing Ear (a) ประกาศวันเปิดตัว มีการรีเซ็ตชื่อ และมาด้วยกัน 2 รุ่น
realme P1 และ realme P1 Pro หน้าจอ AMOLED-120Hz กล้องหลัง 50MP ชาร์จเร็ว 45W
แนะนำกล้อง HUAWEI nova 12 Series รุ่นไหนเหมาะกับใคร20 ชั่วโมงที่แล้ว