หากมองถึงสมาร์ทโฟนช่วง Mid-range ไปถึงบน และเป็นระบบปฏิบัติการเพียวๆ แบบ Android One ณเวลานี้เป็น 2 รุ่นไหนไปไม่ได้เลย ต้อง Nokia 7 Plus กับ Xiaomi Mi A2 เท่านั้น เนื่องจากทั้งคู่มีสเปคที่พอฟัดพอเหวี่ยง รวมไปถึงราคาที่ใกล้เคียงกัน ทีนี่มาดูกันดีกว่าว่า ความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นมีอะไรบ้าง เพื่อเป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจก่อนซื้อ
การออกแบบตัวเครื่องและดีไซน์
วัสดุรอบตัวเครื่องที่ใช้จะเป็นอะลูมิเนียมเหมือนกันทั้ง Xiaomi Mi A2 และ Nokia 7 Plus แล้วยังมีขนาดตัวเครื่องที่พอๆ กัน แต่ทาง Nokia 7 Plus จะมีน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อยที่ 180 กรัม ส่วน Xiaomi Mi A2 จะมีน้ำหนัก 168 กรัม ตรงจุดนี้ไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างกันมาก
หน้าจอแสดงผล
ในส่วนหน้าจอแสดงผลก็ไม่มีอะไรต่างกันมากเช่นกัน โดย Xiaomi Mi A2 ใช้หน้าจอ IPS-LCD กว้าง 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด FHD+ (2160x1080 พิกเซล) ส่วน Nokia 7 Plus ก็ใช้หน้าจอ IPS-LCD กว้าง 6 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด FHD+ (2160x1080 พิกเซล) แถมทั้งคู่ยังมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass เหมือนกัน ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดที่ไม่มีข้อแตกต่างกันมาก แม้ว่า Nokia 7 Plus จะกว้างกว่า 0.01 นิ้วก็ตาม
เทียบสเปคภายใน
ชิปเซ็ตของทั้ง 2 รุ่นใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 660 Octa-Core หน่วยประมวลผลกราฟฟิก Adreno 512 ซึ่งเป็น CPU ระดับกลางค่อนไปทางบน แต่ตัวเลือกของ RAM และ ROM ทาง Xiaomi Mi A2 จะมีตัวเลือกที่มากกว่า โดยมี 4GB+64GB, 6GB+128GB แต่ไม่มีช่องเพิ่ม MicroSD การ์ด ในขณะที่ Nokia 7 Plus มีตัวเลือกเพียง 4GB+64GB เท่านั้น แต่มีช่องเพิ่ม MicroSD การ์ด
จากการทดสอบความเร็ว ดูทาง Nokia 7 Plus จะทำงานเร็วกว่าเล็กน้อย หลังจากได้คะแนน Antutu Benchmark ไป 140,364 ส่วน Xiaomi Mi A2 (รุ่น RAM 4GB) ได้คะแนนไป 123,061 อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ลองใช้งานจริงก็ไม่เห็นข้อแตกต่างอะไรมาก แถมยังใช้งานได้เพียวๆ ตามฉบับ Android One พร้อมได้รับการอัปเดตแบบต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ปี สรุปด้านความเร็ว ตัวเลขอาจจะเอียงไปทาง Nokia 7 Plus ก็จริง แต่ก็ไม่ต่างกันมาก
กล้องถ่ายรูป
กล้องหลังของ Nokia 7 Plus เป็นแบบเลนส์ ZEISS ความละเอียด 12+13 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช Dual LED มีฟีเจอร์มาตรฐานทั่วไป ทั้งถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ และ ปรับหน้าสวย ส่วน Xiaomi Mi A2 ก็เป็นกล้องคู่เช่นกัน แต่มีความละเอียดมากกว่าคือ 12+20 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช LED ตัวเดียว รองรับระบบ Pixel Binning แถมมีการทำงานร่วมกับ AI ทั้งการปรับหน้าสวย และปรับหน้าชัดหลังเบลอ สำหรับการถ่ายวิดีโอทำความละเอียดได้ UHD 4K เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น
ในขณะที่กล้องหน้า Xiaomi Mi A2 ก็ยังมีความละเอียดมากกว่าที่ 20 ล้านพิกเซล ส่วน Nokia 7 Plus มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล การถ่ายรูปจากกล้องถ่ายรูปด้านหน้าและด้านหลัง หากว่ากันตามกระดาษสเปคและระบบ AI ก็ขอยกให้ Xiaomi Mi A2 มีความโดดเด่นในเรื่องของกล้องถ่ายรูปมากกว่า แต่ก็ขอให้รูปด้านล่างเป็นตัวตัดสินใจอีกครั้ง
Xiaomi Mi A2 Nokia 7 Plus
Xiaomi Mi A2 Nokia 7 Plus
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ
ทั้ง Xiaomi Mi A2 และ Nokia 7 Plus จะไม่มีระบบสแกนใบหน้ามาด้วย แต่ก็มีที่สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ส่วนการเชื่อมต่ออื่นๆ ทั้ง USB Type-C, Bluetooth 5.0, รองรับสัญญาณ 4G เหมือนกัน แต่มีฟีเจอร์หนึ่งที่เป็นข้อแตกต่างอย่าเห็นได้ชัดคือ ช่องหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร เพราะ Xiaomi Mi A2 จะไม่มี แต่ Nokia 7 Plus มีมาด้วย
แบตเตอรี่
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เห็นที Nokia 7 Plus จะเข้าวินแบบเห็นได้ชัด ด้วยการใส่แบตเตอรี่ขนาด 3,800mAh ถือว่ามากกว่าสมาร์ทโฟนตัวท็อปบางรุ่นเสียอีก ส่วน Xiaomi Mi A2 พกแบตเตอรี่มาเพียง 3,010mAh ซึ่งตามหน้ากระดาษแบบนี้ Nokia 7 Plus ใช้งานได้นานกว่าแน่นอน แถมยังมีการชาร์จที่เร็วกว่าที่ 9V/2A ชาร์จเพียง 30 นาทีก็ได้ถึง 50%
สรุปตรงนี้ หากจะเน้นไปในด้านการใช้งานกล้อง ขอยกให้ Xiaomi Mi A2 ไปดีกว่า เพราะมีระบบ AI เป็นตัวช่วยในการถ่ายภาพ แต่หากต้องการใช้งานแบบภาพรวมทั่วไป และมีแบตเตอรี่ที่อึดกว่า ก็จัด Nokia 7 Plus ไปเลย ซึ่งตอนนี้ Xiaomi Mi A2 มีราคาเริ่มต้นที่ 8,990 บาท ส่วน Nokia 7 Plus มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 13,900 บาท
การรีวิวของ Nokia 7 Plus : http://news.siamphone.com/review-35869.html
การรีวิวของ Xiaomi Mi A2 : http://news.siamphone.com/news-37519.html
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.androidauthority.com วันที่ : 3 กันยายน 2561
Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition สี Mystic Silver
รีวิว Xiaomi 14 หน้าจอ 120Hz ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 3 กล้องหลังเลนส์ LEICA-SUMMILUX ระบบเสียง D...
รีวิว Xiaomi 14 Ultra สมาร์ทโฟนกับกล้องถ่ายภาพระดับโปร ความลงตัวที่สมบูรณ์แบบ
Xiaomi 14 และ Xiaomi 14 Ultra เปิดตัวแบบ Global แย้มมาไทยวันที่ 13 มีนาคม 2024
Xiaomi 14 Series เตรียมเปิดตัวแบบ Global ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2024
realme GT Neo6 SE เปิดตัวด้วยขุมพลัง Snapdragon 7+ Gen 3 ชาร์จเร็วระดับ 100W
เตรียมเปิดตัว Tesla Model 3 Performance (Ludicrous) ซูเปอร์ซีดานไฟฟ้าที่สุดแห่งสมรรถนะ
Redmi Turbo 3 แรงฉบับนักฆ่าเรือธง Snapdragon 8s Gen 3 พร้อมรุ่นพิเศษ Harry Potter Edition
realme C65 สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น หน้าจอ 90Hz กล้องหลัง 50MP แบตเตอรี่ 5000mAh
HONOR 90 Smart สมาร์ทโฟน 5G ชิปเซ็ต Dimensity 6020 มี RAM 4G เท่านั้น
แนะนำกล้อง HUAWEI nova 12 Series รุ่นไหนเหมาะกับใคร23 เม.ย. 67 17:00