สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 7 กันยายน 2561

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Advertorial : หากพูดถึงสมาร์ทโฟนที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้คงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ก็คือ OPPO F9 สมาร์ทโฟนที่ต้องหลงรักตั้งแต่แรกเห็น ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผล Waterdrop Screen พร้อมพื้นที่หน้าจอแสดงผลสูงถึง 90.8% กล้องหลังคู่ AI ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล โดยสิ่งที่ขาดไม่ได้คือเทคโนโลยี VOOC Flash Charge ที่เข้ามาเป็นรุ่นแรกของตระกูล OPPO F Series ช่วยให้ชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถคุยสายได้นาน 2 ชั่วโมง และด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้ เราก็จะมาพูดถึงความสามารถที่แท้จริงของหน้าจอแบบรอยบากหยดน้ำและดีไซน์ใหม่สะท้อนแสงเล่นสี Starry Purple กัน

1. หน้าจอ Waterdrop Screen ดีอย่างไร?

เรียกว่าปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนให้สั่นสะเทือนอย่างแน่นอนด้วยรอยบากหยดน้ำหรือ Waterdrop Screen กว้าง 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 ทำให้ OPPO F9 มีพื้นที่หน้าจอแสดงผลสูงถึง 90.8% ช่วยให้ใช้งานได้เต็มตาจุใจ ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูภาพยนตร์ หรือรับชมวิดีโอ ก็ยิ่งทำให้มั่นใจได้เลยว่าทุกการมองเห็นและทุกการเคลื่อนไหวของภาพ เราจะได้สัมผัสความคมชัด เฉดสีและประสบการณ์ที่เต็มตาไม่เหมือนใคร

 

2. ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์บน Waterdrop Screen

ไม่ใช่เพียงดีไซน์หน้าจอเท่านั้นที่ดูดี แต่รวมไปถึงผู้ที่รักความเอ็นเตอร์เทนของการใช้งานหน้าจอ Waterdrop Screen อีกด้วย เพราะสามารถให้เราได้ใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การรับชมความบันเทิงแบบเต็มจอ เต็มอัตราส่วนขั้นสูงสุดที่มาพร้อมกับ Split Screen หรือการใช้งาน 2 หน้าจอที่ OPPO F9 พร้อมให้เราเปิดแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน 2 แอพฯ แบบเต็มสุดส่วน ที่เมื่อเราอยากดูวิดีโอหรือเล่นโซเชียลไปพร้อมกันก็ทำได้อย่างสบายๆ แถมยังคงเล่นได้ไหลลื่นด้วย RAM ที่ได้มาถึง 6GB

 รวมไปถึงฟีเจอร์ App-in-App หรือแถบข้างอัจฉริยะที่เข้ามาตอบโจทย์คอเกมในเรื่องของความสะดวกสบายจากการเปิดแอพฯ แบบลอยที่มีหลากหลายฟังก์ชั่นให้เลือก ไม่ว่าเราจะเล่นเกมหรือดูวิดีโออยู่ แถบนี้ก็จะทำให้เราตอบข้อความในหน้าจอเดียวกันได้ทันที ซึ่งพร้อมใช้งานง่ายๆ ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เรียกได้ว่าหน้าจอรอยบากหยดน้ำมีประโยชน์ในการใช้งานเป็นอย่างมาก

  

3. ดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร

สำหรับ OPPO F9 สีม่วงสุดพิเศษอย่าง Starry Purple ถือว่ามีการดีไซน์ที่ให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงตัวจนความเป็น OPPO มากยิ่งขึ้น ด้วยการไล่เฉดสีม่วงจากด้านหลังไปถึงขอบตัวเครื่องพร้อมเสมือนมีดาวประกายอยู่เต็มท้องฟ้า สะท้อนแสงเล่นสี ให้ความสวยงามแบบที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ประกอบกับวัสดุพลาสติกโพลีคาร์บอเนตที่มีความทนทาน ไม่แตกง่ายเหมือนกับกระจก แต่ก็ยังคงมีความหรูหราอยู่ในตัวเอง

 

สรุปสเปก OPPO F9

  • ขนาดตัวเครื่อง : 156.7 x 74.0 x 7.99 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 169 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลแบบ TFT-LTPS กว้าง 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนพื้นที่แสดงผล 90.8%
  • หน่วยประมวลผล : Mediatek MT6771 Helio P60 Octa-core ความเร็ว 2.0 GHz
  • GPU : Mali-G72 MP3
  • RAM 6 GB
  • ROM 64 GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD สูงสุด 256GB
  • ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ColorOS 5.2
  • กล้องถ่ายรูปหลังคู่ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED รูรับแสงคู่ f/1.8
  • กล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อม Sensor HDR
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Nano SIM + MicroSD อีก 1 ช่อง รวมทั้งหมด 3 Slot
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, Micro USB 2.0 และช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
  • แบตเตอรี่ความจุ 3,500 mAh รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว (VOOC flash charge)

สำหรับ OPPO F9 เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยสำหรับสีแดง (Sunrise Red) และสีน้ำเงิน (Twilight Blue) ส่วนสีม่วงสุดพิเศษอย่าง Starry Purple จะเริ่มเปิดพรีออเดอร์วันที่ 8 – 26 กันยายน 2561 ในราคา 10,990 บาท ณ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยจะได้รับของสมนาคุณเป็น VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ปี และ OPPO Special Gift

**บทความเพื่อการโฆษณา**

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่