ซอฟต์แวร์ (Software)  |   วันที่ : 12 ตุลาคม 2561

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ในช่วงแรก Google ได้คิดค้นการแปลภาษาด้วยคอมพิวเตอร์ที่ใช้ข้อมูลทางสถิติขนาดใหญ่ (large-scale statistical machine translation) ซึ่งใช้แบบจำลองทางสถิติเพื่อระบุรูปแบบในเอกสารที่แปลโดยมนุษย์จำนวนหลายร้อยล้านฉบับบนเว็บ ต่อมาในเดือนกันยายน 2559 Google ได้เปิดตัว Neural Machine Translation ซึ่งเป็นระบบการเรียนรู้แบบ end-to-end หรือการเรียนรู้จากต้นจนจบกระบวนการ ที่มีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้การแปลภาษามีความสละสลวยเป็นธรรมชาติและดียิ่งขึ้น

ระบบ Neural Machine Translation จะแปลประโยคทั้งประโยคในครั้งเดียว แทนที่จะแปลทีละส่วน โดยใช้ “deep neural network” ซึ่งช่วยให้ระบบเรียนรู้และจดจำรูปแบบและโครงสร้างของประโยคต่างๆ ทำให้ไวยากรณ์ในประโยคที่ผ่านการแปลใกล้เคียงกับการพูดของมนุษย์มากขึ้น และเมื่อระบบเข้าใจแต่ละประโยคได้ดีขึ้นก็จะทำให้ย่อหน้าและบทความที่ได้รับการแปลมีความลื่นไหล อ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้น การนำระบบ Neural Machine Translation มาใช้ทำให้ Google ได้เห็นการปรับปรุงคุณภาพการแปลที่ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับการพัฒนาปรับปรุงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดย Google ได้เปิดตัว Neutral Machine Translation สำหรับ Google Translate ใน 97 คู่ภาษากับภาษาอังกฤษ อาทิ ภาษาไทย ภาษาของอินเดีย 11 ภาษา (ภาษาฮินดี ภาษาเบงกาลี ภาษาปัญจาป ภาษามาราฐี ภาษาคุชราต ภาษาทมิฬ ภาษาเตลูกู ภาษามาลายาลัม ภาษากันนาดา ภาษาสินธี และภาษาอูรดู) ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ภาษารัสเซีย ภาษาฮินดี ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส ภาษาเวียดนาม

คุณสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Google Translate บนอุปกรณ์ Android และ iOS ได้หลายแบบ และสามารถแปลไปมาระหว่าง 103 ภาษาด้วยการพิมพ์ หรือแปลภาษาจากการเขียนด้วยลายมือที่ครอบคลุม 95 ภาษาด้วยการแปลภาษาโดยใช้โหมดกล้องในแอปพลิเคชัน Google Translate คุณสามารถแปลสิ่งที่คุณเห็นได้

  • เพียงแตะที่ไอคอนกล้องถ่ายรูปเพื่อถ่ายป้าย เมนู หรือข้อความภาษาต่างประเทศ เมื่อถ่ายภาพเสร็จแล้วให้กวาดนิ้วไปที่ข้อความที่ต้องการแปลเพื่อดูคำแปล
  • การแปลภาษาโดยใช้โหมดกล้องในแอปพลิเคชัน Google Translate รองรับ 50 ภาษา เหมาะสำหรับการแปลสิ่งต่างๆ เช่น ป้าย หรือเมนู โดยเฉพาะเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ

คุณสามารถแปลคำพูดของคู่สนทนา 2 ฝ่ายได้ถึง 42 ภาษาโดยใช้โหมดสนทนา ซึ่งมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  • เลือกคู่ภาษาที่ต้องการ จากนั้นแตะไอคอนไมโครโฟนบนแอป
  • Google Translate จะฟังบทสนทนา 2 ภาษา และแปลให้ตามความเหมาะสม ช่วยให้บทสนทนาของคุณลื่นไหลเป็นธรรมชาติ

ผู้ที่ใช้ Android สามารถใช้งานการแปลในแอปพลิเคชัน Android อื่นๆ ได้โดยใช้ฟีเจอร์ “แตะเพื่อแปล” โดยไม่ต้องคัดลอกข้อความไปมาระหว่างแอป ซึ่งรองรับการแปล 103 ภาษาบนโทรศัพท์ Android ทุกรุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Jellybean (4.2) ขึ้นไป การใช้งานฟีเจอร์ “แตะเพื่อแปล” มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  • เปิดแอป Google Translate และไปที่การตั้งค่าเพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ “แตะเพื่อแปล”
  • แตะข้อความที่ต้องการแปลในแอปและคัดลอกข้อความนั้น ไอคอนแปลจะปรากฏขึ้นมาตรงมุมบนขวาของหน้าจอ

คุณสามารถใช้แอปพลิเคชัน Google Translate ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยโหมดออฟไลน์

  • เพียงแตะลูกศรที่อยู่ถัดจากชื่อภาษาเพื่อดาวน์โหลดชุดภาษาที่คุณต้องการ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถแปลข้อความต่างๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตอีกต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ “แตะเพื่อแปล” ได้ด้วย
  • การแปลภาษาแบบออฟไลน์รองรับ 59 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย

ชุมชนแปลภาษา

 

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพการแปลของ Google Translate อย่างต่อเนื่อง Google ได้เปิดตัว Google Translate Community หรือชุมชนแปลภาษา ในเดือนกรกฎาคม 2557 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้ที่ชื่นชอบภาษาจากทั่วโลกได้ช่วยกันพัฒนาการแปลให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

โดยให้คำแนะนำในการปรับปรุงการแปล และให้คะแนนผลลัพธ์การแปลของ Google Translate นอกจากนี้สมาชิกในชุมชนยังได้ช่วยเหลือ Google ในการเปิดตัวภาษาใหม่ๆ เช่น การแปลจากภาษาคาซัคเป็นภาษาอังกฤษ เป็นต้น

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

ที่มา : translate.google.com วันที่ : 12 ตุลาคม 2561

มือถือออกใหม่