GoPro Hero 7 Black ที่สุดกล้องแอคชั่นแคม ถ่ายวิดีโอนิ่งราวกับใช้กิมบอลด้วยระบบ HyperSmooth !!

GoPro Hero 7 Black เปิดตัวมาก็เรียกเสียงฮือฮาได้ยกใหญ่ ด้วยระบบ HyperSmooth เทคโนโลยีกันสั่นไหวที่ช่วยให้การถ่ายวิดีโอนิ่วราวกับใช้ไม้กิมบอล ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบใช้งานกล้องแอคชั่นแคมอย่างมากทีเดียว นอกจากนี้ยังมีกล้องความละเอียดถึง 12 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps และบันถึงวิดีโอแบบ TimeWarp ด้วยความเร็วสูงสุด 30 เท่า ถือว่า GoPro Hero 7 Black ได้ยกระดับกล้องแอคชั่นแคมขึ้นไปมากทีเดียว

ด้านหน้าของกล้อง GoPro Hero 7 Black มีเลนส์กล้อง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล นูนขึ้นมาอยู่บนขวา มีการครอบทับด้วยกระจกใสอย่างดี ทางซ้ายเป็นหน้าจอดิจิตอลสำหรับแสดงสถานะที่จำเป็นเช่น ความละเอียดของวิดีโอที่กำลังถ่าย, ระยะเวลาของวิดีโอ, เมมโมรี่ยังสามารถถ่ายได้อีกกี่ไฟล์ และเปอร์เซ็นแบตเตอรี่ ส่วนล่างขวาเป็นโลโก้ GoPro

ฝั่งขวาตัวเครื่อง มีโลโก้ Black 7 อยู่ข้างบน และด้านล่างจะเป็นช่องเสียบสายการเชื่อมต่อสามารถเปิดออกมาได้ โดยด้านในจะมีช่องเสียบสาย HDMI และ USB Type-C

ฝั่งซ้ายมีปุ่มเพาเวอร์ สำหรับการเปิดหรือปิดเครื่อง และยังเป็นปุ่มปรับโหมดได้ในตัว ส่วนด้านบนจะเป็นรูไมโครโฟน

ข้างบนตัวเครื่อง มีปุ่มกดชัตเตอร์อยู่ทางซ้าย และรูไมโครโฟน

ข้างล่างตัวเครื่อง สามารถเปิดฝาออกมาได้ และด้านในจะมีช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่และ MicroSD การ์ด ส่วนขวาสุดเป็นลำโพงเสียง

สุดท้ายด้านหลัง มีหน้าจอแสดงผลเป็นแบบสัมผัส สามารถใช้งานและสั่งการต่างๆ ได้ง่ายดายจากหน้าจอตรงนี้

จุดเด่นของ GoPro Hero 7 Black

ระบบ HyperSmooth

หมดปัญหาเรื่องการสั่นไหวไปได้เลยในขณะถ่ายวิดีโอ เนื่องจาก GoPro Hero 7 Black มีระบบกันสั่นไหวด้วย HyperSmooth ที่ให้ความนิ่งระดับเดียวกับไม้กิมบอล แต่จะให้ความรู้สึกที่ต่างกัน โดยระบบ HyperSmooth จะให้ความสึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่า และสะดวกต่อการใช้งานมากกว่าไม้กิมบอล ที่พกพาไปไหนค่อนข้างลำบากกว่า บอกไปเท่านี้อาจจะไม่เห็นความนิ่งของระบบ HyperSmooth ไปรับชมวิดีโอตัวอย่างทางด้านล่างจะดีกว่า

การถ่ายแบบ TimeWarp

ปกติการถ่ายวิดีโอแบบรวดเร็วจะเรียกว่า ไทม์แล็ป แต่ของ GoPro Hero 7 Black จะเรียกการถ่ายวิดีโอแบบนี้ว่า TimeWarp เนื่องจากมีความพิเศษกว่าไทม์แล็ปปกติ ด้วยความนิ่งของระบบ HyperSmooth ทำให้การถ่ายแบบ TimeWarp มีความนิ่งและวิดีโอออกมาดูสวยงามอย่างมาก ทั้งนี้ยังสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 30 เท่า

SuperPhoto

ในโหมด SuperPhoto จะเป็นการปรับแต่งภาพแบบอัตโนมัติให้มีความสวยงามมากที่ และยังทำงานได้ดีเวลาต้องถ่ายในที่ย้อนแสง สามารถดูภาพเปรียบเทียบการเปิดและปิดโหมด SuperPhoto ได้ทางด้านล่าง

จุดเด่นอื่นๆ ที่น่าสนใจของ GoPro Hero 7 Black

• ถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps และความละเอียด 1080p ที่ 240fps
• ถ่ายวิดีโอแบบ Slo-Mo ได้ช้าสุดถึง 8 เท่า
• สั่งการด้วยระบบเสียง เช่น GoPro, Take a picture หรือ GoPro start recording
• มีความทนทานสูง และกันน้ำได้ลึกถึง 10 เมตร (แบบไม่ใส่ Housing)
• หน้าจอสัมผัสใช้งานง่าย ด้วย UI คล้ายๆ กับสมาร์ทโฟน
• ไลฟ์ถ่ายทอดสดไปยัง Facebook Live ได้ทันที
• รองรับไฟล์รูป RAW และไฟล์วิดีโอ HEVC

ถือว่า GoPro Hero 7 Black มีความน่าสนใจอยู่มากทีเดียว โดยเฉพาะระบบ HyperSmooth ที่กันสั่นไหวได้อย่างดีเยี่ยม และหาไม่ได้ง่ายๆ จากกล้องแอคชั่นแคม แต่ก็ยังมีจุดเสียอยู่นั้นก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ ที่มีการสูบแบตเตอรี่ไปไวมากพอสมควร ยังไงก็ขอฝากทาง GoPro ช่วยแก้ไขเรื่องนี้ด้วยแล้วกัน สุดท้าย GoPro Hero 7 Black มีราคาอยู่ที่ 14,500 บาท เท่านั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  GoPro กล้องสุดแกร่ง ถ่ายได้ทุกที่ ลุยได้ทุกสภาพการณ์
• 
  ZTE ส่งทัพสมาร์ทโฟน 6 รุ่น ต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่