หูฟัง Earbuds (Earbuds)  |   วันที่ : 3 ธันวาคม 2561

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) นาฬิกาอัจฉริยะที่เปลี่ยนแปลงดีไซน์ให้ดูทันสมัยยิ่งกว่าเก่า พร้อมกับการพัฒนาด้านเซ็นเซอร์วัดหัวใจเพื่อช่วยให้ชีวิตของเราปลอดภัยยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่หน้าจอแสดงผล Apple Watch ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า ประกอบกับปุ่ม Digital Crown ที่รองรับระบบการสั่นไหว ทั้งยังมีชิพ S4 เพื่อให้มีความไหลลื่นทุการสัมผัส หน่วยความจำ 16GB และฟีเจอร์อื่นที่อัดแน่นในหน้าจอเล็กๆ แห่งนี้

 

ตัวเครื่องและดีไซน์ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ของเรามาพร้อมกับตัวเรือนอะลูมิเนียม สีทอง ครอบทับด้วยกระจก Ion-X ที่มีความแข็งแกร่งทนทาน โดยฝาหลังเป็นผลึกแซฟไฟร์และเซรามิก มีขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 44 x 38 x 10.7 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 36.7 กรัม

 

หน้าจอแสดงผลของ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) มีความโค้งมนในทุกมุม เพื่มความสะดวกในการใช้งาน มาพร้อมจอภาพแบบ LTPO OLED Retina พร้อม Force Touch ความสว่าง 1,000 นิต รุ่น 44 มม. มีความละเอียด 448 x 368 พิกเซล และมีพื้นที่แสดงผล 977 ตารางมิลลิเมตร

 

ทางซ้ายของตัวเครื่องมีลำโพงที่ให้เสียงดังกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 50%

 

ทางขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Digital Crown (เม็ดมะยม) ที่มีวงกลมสีแดงเสริมความสวยงาม ไมโครโฟน และปุ่มกดข้างตัวเครื่อง

 

ที่ด้านบนและด้านล่างเป็นช่องว่างสำหรับใส่สายรัดข้อมือ

 

สุดท้ายทางด้านหลังมีเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, แม่เหล็กสำหรับใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ โดยมีปุ่มกดเล็กๆ บริเวณริมตัวเรือนทั้ง 2 ฝั่งเพื่อปลดสายข้อมือ

 

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเรือน Apple Watch Series 4 (ตัวเรือนอะลูมิเนียม สีทอง)
  • สายรัดข้อมือแบบ Sport Loop
  • สายชาร์จ
  • สายชาร์จแบบแม่เหล็กความยาว 1 เมตร
  • อะแดปเตอร์ขนาด 5 วัตต์
  • วิธีการใช้งานเบื้องต้น
  • ใบรับประกันสินค้า

 

สรุปสเปค Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular)

  • ขนาดตัวเรือน : 44 x 38 x 10.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวเรือน : 36.7 กรัม
  • หน่วยประมวลผล : S4 Dual-core 64 บิต พร้อม W3 ชิปเซ็ตระบบไร้สายของ Apple
  • ระบบปฏิบัติการ : watchOS 5.0
  • การเชื่อมต่อ : 4G LTE และ UMTS (3G) ผ่าน eSIM, Wi-Fi 802.11b/g/n 2.4GHz, Bluetooth 5.0 และ NFC สำหรับ Apple Pay
  • กันน้ำลึกสูงสุด 50 เมตร
  • แบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง

 

คุณสมบัติและเซ็นเซอร์ต่างๆ

  • GPS, GLONASS, Galileo และ QZSS (ระบบนำทาง)
  • มาตรวัดความสูงแบบวัดความดันบรรยากาศ
  • เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า
  • เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอล
  • ตรวจจับแรง G สูงสุด 32 G
  • ไจโรสโคปที่พัฒนายิ่งขึ้น
  • เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ

วิธีการเชื่อมต่อกับ iPhone

  • 1. กดปุ่มด้านข้างตัวเครื่องเพื่อเปิดเครื่อง
  • 2. ติดตั้ง iOS เวอร์ชั่นล่าสุดบน iPhone
  • 3. เปิดแอพพลิเคชั่น Apple Watch เพื่อเริ่มเชื่อมต่อ โดยอาจใช้เวลาสักครู่

 

  • 4. ทำตามขั้นตอนการลงทะเบียนบนแอพฯ Apple Watch
  • 5. ลงทะเบียนกับ Apple ID และรอการเชื่อมข้อมูลในส่วนต่างๆ

 

  • 6. เข้าหน้าหลักและสามารถเริ่มใช้งานได้ทันที

 

*สำหรับ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ต้องทำงานร่วมกับ iPhone 6 ขึ้นไป และอัปเดทเป็น iOS 12 หรือใหม่กว่าเท่านั้น

หน้าตา UI บนหน้าปัดนาฬิกา และในแอพพลิเคชั่น

หน้าปัดนาฬิกา

 

หน้าจอแอพพลิเคชั่นบน iPhone

 

ความจุ

จากความจุทั้งหมด 16GB ของ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 12GB

วิธีการควบคุมเบื้องต้น

หน้าปัดนาฬิกา

  • ปัดขึ้นเพื่อไปที่ศูนย์ควบคุม หรือปัดลงเพื่อเพื่อดูการแจ้งเตือน
  • ปัดซ้ายหรือขวาเพื่อเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา
  • กดหนักที่หน้าจอเพื่อปรับแต่งหน้าปัด

 

ปุ่ม Digital Crown

  • กด 1 ครั้งเพื่อกลับไปยังหน้าปัดนาฬิกา
  • กดค้างเพื่อคุยกับ Siri
  • หมุนเพื่อเลื่อน, ซูม หรือปรับ

ปุ่มด้านข้าง

  • กด 1 ครั้งเพื่อแสดง Dock
  • กด 2 ครั้งเพื่อใช้งาน Apple Pay
  • กดค้างเพื่อปิดเครื่อง หรือโทรฉุกเฉิน

 

วิธีการเชื่อมต่อเซลลูลาร์

  • 1. ต้องตรวจสอบหมายเลขที่รองรับกับเซลลูลาร์ที่ใช้ผ่าน esim (ในแต่ละค่ายจะมีการตรวจสอบไม่เหมือนกัน)
    • 1.1 หากหมายเลขไม่รองรับ สามารถติดต่อศูนย์บริการ Truemove H, DTAC หรือ AIS
  • 2. หาการเชื่อมต่อรองรับ จะเข้ามาสู่หน้าเปิดบริการ
  • 3. ใส่ข้อมูลต่างๆ ตามขั้นตอน ทั้งหมายเลขบัตจรประชาชน หรือ Passport number และข้อมูลส่วนตัว
  • 4. สามารถใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์ได้ตามแพ็คเกจเดียวกับที่ใช้ใน iPhone

 

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจบน Apple Watch Series 4

ดีไซน์ใหม่ไฉไลกว่าเดิม

สำหรับ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ขนาด 44 มม. คือนาฬิกาที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Apple โดยมีการปรับดีไซน์ให้มีความโค้งมน ใช้งานง่าย และตัดขอบให้มีความบางลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสิ่งที่ต่างจากรุ่น Apple Watch Series 3 อย่างเห็นได้ชัดก็คือปุ่ม Digital Crown ที่จะมีขนาดเล็กลงและมีการสั่นทุกครั้งเมื่อเราหมุน

หน้าปัดหลากหลายแบบ

ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ก็ทำให้หน้าปัดนาฬิกามีพื้นที่ให้ใส่กลไกหรือฟีเจอร์ต่างๆ ถึง 8 อย่างโดยไม่จำเป็นต้องกดหาให้เสียเวลา ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนฟีเจอร์ที่เราใช้บ่อยได้อีกด้วย ผ่านแอพพลิเคชั่น Apple Watch ใน iPhone แถมยังมีหน้าปัดแบบอื่นให้เราเลือกใช้ได้อีกมากมาย

 

 

 

หน่วยประมวลผล

Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) มากับหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง S4 Dual-core 64 บิต ซึ่งทำงานได้เร็วกว่าชิป S3 ถึง 2 เท่า

 

กันน้ำลึกและพร้อมใช้งานทุกสภานการณ์

สำหรับ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) แน่นอนว่าต้องสามารถกันน้ำได้อย่างแน่นอนเพื่อใช้ในการออกกำลังกายและพร้อมใช้งานได้ทุกสถานการณ์ โดยสามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร สามารถใช้ได้กับน้ำน้ำในสระหรือน้ำทะเล แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในกีฬาที่ต้องใช้ความเร็วสูง รวมไปถึงการอาบน้ำปกติ ซึ่งไม่แนะนำให้สัมผัสกับสิ่งที่ไม่สะอาด เช่น น้ำสบู่ แชมพู หรือน้ำหอม เป็นต้น

สุขภาพ

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึง Apple Watch ก็ต้องนึกถึงเรื่องของสุขภาพอย่างแน่นอน ซึ่งก็จะเน้นให้เราทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สุขภาพของเราแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการเดินกลางแจ้งหรือในร่ม, ปั่นจักรยาน, ก้าวขึ้นบันได, เดินเขา, โยคะ, ว่ายน้ำในสระ หรือวิ่ง เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ เราสามารถตั้งเป้าหมายต่อการออกกำลังกายเป็นครั้งๆ ได้ เช่น ตั้งเป้าหมายเดินในร่ม 2 กิโลเมตร เป็นต้น โดยเมื่อทำสำเร็จ เราก็จะสามารถเก็บเป็นรางวัลสะสมได้ ซึ่งสามารถดูได้ในแอพฯ กิจกรรมใน iPhone

  

ทั้งนี้ การตั้งค่าออกกำลังหายต่างๆ เราสามารถเปิดฟีเจอร์หยุดชั่วคราวเมื่อเราหยุดวิ่งหรือกำลังอยู่ หรือเตือนให้เริ่มออกกำลังกายเมื่อเรากำลังเดินในระยะทางที่เริ่มไกลแล้ว

เมื่อเราออกกำลังกาย สิ่งที่เราต้องการดูมากที่สุดคือผลลัพท์ทั้งหมด โดยเราสามารถดูการสรุปผลได้ด้วยว่าในแต่ละสัปดาห์เราออกกำลังกายไปกี่นาทีและลดแคลเลอรี่ได้ขนาดไหนอีกด้วย

 

วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

สำหรับ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ก็ยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอลที่มีความแม่นยำมากขึ้น ทั้งการวัดแบบปกติ หรือจะมีการเตือนเมื่ออัตราการเต้นไม่คงที่ โดยเราสามารถดูข้อมูลสรุปทั้งหมดผ่านแอพฯ สุขภาพใน iPhone ที่เชื่อมต่อไว้ ซึ่งจะบอกอย่างละเอียดทั้งอัตราการเต้นของหัวในครั้งล่าสุด, สรุปรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปี รวมถึงมีการแบ่งอัตราเป็นหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นอัตราขณะพัก อัตราขณะเดิน และอัตราขณะออกกำลังกายหนักๆ

 

นอกจากนี้ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ยังสามารถอ่านค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ด้วยแอพฯ ECG ที่อาศัยประโยชน์จากการเพิ่มขั้วไฟฟ้าลงในปุ่ม Digital Crown โดยเพียงแค่แตะนิ้วลงบนปุ่มแค่ 30 วินาที ก็จะมีการแสดงผลวิเคราะห์การเต้นของหัวใจได้ทันที อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกจะใช้ได้เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

 

ตรวจจับการล้มและ SOS ฉุกเฉิน

และฟีเจอร์ใหม่ที่ถือว่าเป็นตัวชูโรงให้กับ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ก็คือฟีเจอร์ตรวจจับการล้ม โดยใช้ตรวจจับการเคลื่อนไหวและไจโรสโคปเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งสามารถวัดการล้มได้สูงสุดถึง 32 แรงจี (ต้องล้มแรงจริงๆ ถึงจะสามารถตรวจจับได้ เช่น การตกบันได หรือตกจากที่สูง เป็นต้น) และเมื่อนาฬิกาตรวจจับได้ จะมีการเตือนให้โทรเบอร์ฉุกเฉินที่เราได้ตั้งค่าผ่านแอพฯ Watch (สามารถกดยกเลิกได้ใน 60 วินาที) หรือหากเราไม่ตอบสนองก็จะมีการโทรหาบริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติและส่งข้อความพร้อมระบุตำแหน่งไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉินของเราทันที

 

การเชื่อมต่อต่างๆ

เมื่อ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) เชื่อมต่อเซลลูลาร์หรือ Wi-Fi อยู่ เราจะใช้งานส่วนต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น Siri, ส่งและรับข้อความ, โทรออกหรือรับสายโทรเข้าได้ หรือการฟังเพลง และตรวจสอบสภาพอากาศได้ เป็นต้น

 

ทั้งนี้ หาก iPhone ของเราไม่ได้อยู่ใกล้กับนาฬิกา การใช้งานเซลลูลาร์จะสลับไปใช้ Wi-Fi ที่อยู่ใกล้เคียงแทน โดยจะสามารถใช้งานได้เหมือนกับการต่อเซลลูลาร์ทั้งหมด

ส่วนเมื่อเราไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรือเซลลูลาร์จาก iPhone ได้ จะสามารถใช้งานในส่วนต่างๆ ได้อยู่ทั้งฟีเจอร์การออกกำลังกาย, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ดูความคืบหน้าการออกกำลังกาย (แอพฯ กิจกรรม) ดูภาพถ่ายจากอัลบั้มที่ซิงค์ไว้ และการดูเวลา เป็นต้น

ใช้เป็นรีโมทถ่ายรูปได้

นอกจากจะเป็นอุปกรณ์ในการสวมใส่ ออกกำลังกาย และการเชื่อมต่อข้อมูลได้แล้ว Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ยังสามารถใช้งานในการเป็นรีโมทควบคุมในการถ่ายภาพได้อย่างสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องกดชัตเตอร์ที่ iPhone

ผู้ช่วยอัจฉริยะ Siri

Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อยกนาฬิาขึ้นมา โดยสามารถสั่งการต่างๆ เป็นภาษาไทยได้ทันที เหมือนกับการใช้งานใน iPhone

 

สายรัดข้อมือหลากสไตล์

นอกจากจะมีสายรัดข้อมือแบบ Sport Loop แถมมาให้ในกล่องแล้ว Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ยังมีอีกหลายแบบให้เลือกซื้อมาเปลี่ยนอีกมากมาย ทั้งแบบ Sport Band, Nike Sport Band และ Sport Loop สีต่างๆ

 

สำหรับ Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ตัวเรือนอะลูมิเนียม สีทอง ขนาดหน้าจอ 44 มม. พร้อมสายแบบ Sport Loop รุ่น GPS + Cellular มีราคาอยู่ที่ 18,900 บาท โดยยังมีรุ่นอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมายผ่านเว็บไซต์ Apple

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่