สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 13 ธันวาคม 2561

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Advertorial : นับตั้งแต่เปิดศักราชปี 2018 เป็นต้นมา สมาร์ทโฟนแบรนด์ต่างๆ ได้เปิดตัวกันมากมายหลายรุ่นตั้งแต่ระดับเล็กไปจนรุ่นระดับท็อป แต่มีอยู่รุ่นหนึ่งที่โดดเด่นและเปร่งประกายต่างจากเพื่อนเพราะมีความฉลาดล้ำด้วย AI สมองกลถึง 2 ตัว และกล้องถ่ายภาพสุดอัจฉริยะ สิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Huawei Mate 20 Series ของแบรนด์สมาร์ทโฟนเบอร์ 1 จากประเทศจีน ที่ตั้งแต่เปิดตัวมาก็ขึ้นแท่นเป็น The most intellegent smartphone of the year หรือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความฉลาดมากที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ แต่จะฉลาดอย่างไรบ้าง เรามาลองพิสูจน์กัน

1. การประมวลผลรวดเร็วพร้อมความฉลาดขั้นสุด

Huawei Mate 20 Series ทั้ง 3 รุ่นอย่าง Huawei Mate 20, Huawei Mate 20 Pro และ Huawei Mate 20 X ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่เร็วแรงและฉลาดที่สุดในโลกอย่าง Kirin 980 Octa Core ชิปเซ็ตขนาด 7 นาโนเมตรรุ่นแรกของโลก ผสมผสานกับหน่วยประมวลผลพิเศษอย่าง NPU ที่ทำงานร่วมกันถึง 2 ตัวรวมเป็น Dual NPU ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานเสถียรยิ่งขึ้น โดยเราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นยังไม่มี NPU การใช้งานต่างๆ ตั้งแต่การตอบสนองต่อการสัมผัสบนหน้าจอ และความเร็วในการเปิดแอพพลิเคชั่นยังสู้สมาร์ทโฟน 3 รุ่นนี้ไม่ได้

นอกจากหน่วยประมวลผล Kirin 980 ยังเป็นที่สุดของความฉลาดที่หาจากแบรนด์ไหนไม่ได้อีกแล้ว Huawei Mate 20 Series ยังมีระบบกราฟิกที่ดีเกินคาดด้วยเทคโนโลยี GPU Turbo แบบไม่เหมือนใคร ซึ่งก็พัฒนามาถึงเวอร์ชั่น 2.0 เพื่อรีดประสิทธิภาพของการ์ดจอให้ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด แถมยังช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานมากขึ้น และใช้งานได้นานติดต่อกันหลายชั่วโมง ให้เราได้สนุกกับการเล่นเกม รับชมวิดีโอ และใช้งานทุกอย่างได้ตรงตามใจนึก

2. ฉลาดในการทำงาน

นอกเหนือจากที่ Huawei Mate 20 Series จะฉลาดด้วยฮาร์ดแวร์กับชิปเซ็ต Kirin 980 แล้ว อีกสิ่งที่ทำให้ทั้ง 3 รุ่นมีความลงตัวเสมือนมีผู้ช่วยสมองกลมาอยู่ข้างๆ ก็คือระบบการทำงานภายในที่มีความฉลาดไม่แพ้กัน และเราก็หมายถึง HiVision ผู้ช่วยอัจฉริยะที่มาพร้อมฟีเจอร์มากมาย ตั้งแต่การระบุสถานที่ต่างๆ หรืองานศิลปะที่เราสนใจ HiVision ก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่เราต้องการทราบ มีชื่อว่าอะไร และมีประวัติเป็นอย่างไร ไปจนถึงการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย

 

ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ HiVision เป็นซอฟต์แวร์ด้าน AI ที่ไม่เหมือนกับแบรนด์อื่น คือ ฟีเจอร์ตรวจวัดแคลอรี่ในอาหาร ซึ่งปกติในแบรนด์อื่น แม้จะมีแอพพลิเคชั่นในการคำนวณแคลอรี่อยู่แล้ว แต่ก็จะเป็นการบอกตามค่าทั่วไปหรือบอกในภาพรวม ไม่มีการแบ่งว่าเนื้อสัตว์, ผัก หรืออื่นๆ ที่อยู่ในจาน แต่ละอย่างมีแคลอรี่เท่าไหร่ ขณะที่ HiVision ของ Huawei Mate 20 Series จะใช้ AI ในการแยกแยะขนาด น้ำหนัก ประเภท และชื่อของของอาหาร จากนั้นจึงจะมีการคำนวณแคลอรี่ออกมาได้ทันที ซึ่งจะตรงตามความเป็นจริงมากที่สุด

แค่คำนวณแคลอรี่ยังไม่พอ HiVision ยังรอบรู้ในเรื่องของสิ่งของด้วยว่าแต่ละชิ้นสามารถหาซื้อได้ที่ไหน ซึ่ง Huawei Mate 20 Series เหนือกว่าแบรนด์อื่นๆ ตรงที่จับมือร่วมกับ Lazada และ Shopee ที่เป็นแหล่งช็อปออนไลน์ที่ใหญ่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ขณะที่แบรนด์อื่นจะเป็น Amazon เสียส่วนใหญ่

 3. กล้องเทพถ่ายสวยทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

สิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในยุคนี้ก็คงต้องเป็นเรื่องของกล้องที่ต้องถ่ายภาพได้สวยงาม คมชัดทุกสถานการณ์ ซึ่งหนึ่งในแบรนด์กล้องที่หลายคนคงจะนึกถึงคงต้องเป็น Leica และเมื่อพูดถึง Leica หลายคนจะต้องคิดถึง Huawei ขึ้นมาอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้ Huawei แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง และหาตัวจับได้ยากในตลาด

โดย Huawei Mate 20 Series ได้นำกล้อง Leica มาอยู่ในทั้ง 3 เลนส์ ที่นอกเหนือจะฉลาดล้ำเหนือกว่ารุ่นใดๆ ตามสมญานามว่า "เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความฉลาดมากที่สุดในโลก" แล้ว ยังถ่ายสวยคมชัด พร้อมทุกสถานการณ์ำม่ว่าจะในที่สว่างหรือในที่มืดก็ตาม ส่งผลให้สมาร์ทโฟน 3 รุ่นแห่งตระกูล Mate 20 กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่สะดุดตามากที่สุด ประกอบกับฟีเจอร์กล้องต่างๆ ที่เกิดมาเพื่ออยู่ในเฉพาะ Huawei เท่านั้น

ถ่ายภาพนิ่งอัจฉริยะ

  • จดจำซีน (AI-Painting) : ด้วยความฉลาดของชิปเซ็ท Kirin 980 และสมองกลอย่าง Dual NPU จดจำฉากได้อย่างชาญฉลาดได้ถึง 25 หมวดหมู่ ซึ่งจะเปลี่ยนโหมดเองโดยอัตโนมัติด้วยเวลาอันรวดเร็ว ที่ไม่ว่าใครจะหยิบ Huawei Mate 20 Series มาใช้ ก็เสมือนมีกล้องเทพอยู่ในมือ มีการปรับแสงและสีให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่สุดทันที ทำให้ภาพออกมาสวยงามได้โดยที่เราแทบจะไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมเลยแม้แต่นิดเดียว
  • เลนส์มุมกว้างก็เก็บได้ครบ (Leica Ultra Wide Angle) : เก็บภาพทิวทัศน์ได้กว้างสุดถึง 120 องศา ทั้งยังให้รายละเอียดภาพภายในเฟรมได้ครบและสวยงามเป็นอย่างมาก
  • ซูเปอร์แมโคร (Super Macro) : นอกจากเลนส์ Leica Ultra Wide Angle จะช่วยให้ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศาได้แล้ว เลนส์นี้ก็ยังสามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้มากที่สุดถึง 2.5 เซนติเมตร ทำให้มองเห็นทุกรายละเอียดมากกว่าที่สายตาของมนุษย์เคยได้สัมผัส แถมเป็นสิ่งที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนทำได้มาก่อน

วิดีโอฉลาดล้ำแบบไม่เหมือนใคร

  • AI Color : ด้วยความฉลาดขั้นสุดยอดของกล้อง Huawei Mate 20 Series ก็สามารถจับวัตถุและบุคคลให้ยังคงมีสีสันอยู่ ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนฉากหลังให้กลายเป็นขาว-ดำได้โดยอัตโนมัติ เรียกว่ายังไม่มีแบรนด์ไหนเคยทำได้มาก่อน

4. ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และเทคโนโลยีการชาร์จที่ไม่เหมือนใคร

ปกติแล้วแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนระดับ High-End แทบทุกแบรนด์จะอยู่ในช่วง 3,000 - 4,000 mAh และใช้งานได้เพียงครึ่งวันก็เรียกหาที่ชาร์จกันแล้ว แต่ใน Huawei Mate 20 Series มีแบตเตอรี่ที่ให้มาสูงสุดถึง 5,000 mAh เรียกว่าหาในสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปแบรนด์ไหนไม่ได้อีกแล้ว ทั้งยังมี AI ช่วยในเรื่องการจัดสรรพลังงานและประสิทธิภาพของการทำงานให้คงที่ตลอดเวลา ทำให้ใช้งานได้เต็มวันแน่นอน

อย่างไรก็ตาม การใช้งานได้อึดตลอดทั้งวันคงจะไม่ใช่สิ่งที่ Huawei ต้องการเพียงอย่างเดียว เพราะยังมาพร้อมเทคโนโลยี HUAWEI SuperCharge กำลังไฟ 40 วัตต์ ช่วยให้ชาร์จเพียง 30 นาที ก็ได้กลับมาถึง 70% พร้อมด้วยมาตรฐาน TÜV Safe Fast-Charge System จากประเทศเยอรมัน ที่แสดงถึงความความปลอดภัยแบบหายห่วงไปได้เลย

รวมไปถึงการชาร์จไร้สายที่มาแบบ Fast Charge กำลังไฟ 15W เร็วกว่ารุ่นท็อปบางแบรนด์ที่ใช้อะแดปเตอร์เสียอีก และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือฟีเจอร์ชาร์จย้อนกลับ (Wireless Reverse Charging) ที่สามารถแบ่งปันแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นที่รองรับการชาร์จไร้สายได้เพียงแค่แนบ Huawei Mate 20 Series ไปกับอุปกรณ์ที่แบตฯ ใกล้หมดเท่านั้นเอง

ด้วยเหตุผลทั้ง 4 ข้อนี้ ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนเลยว่า Huawei Mate 20 Series กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ฉลาดล้ำที่สุดที่ยังหารุ่นเปรียบเทียบได้ยาก พร้อมกับการขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 1 ในทุกด้านแห่งปี 2018

**บทความเพื่อการโฆษณา**

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่