องค์กร (Corporate)  |   วันที่ : 13 กุมภาพันธ์ 2562

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบปัญหายอดขายลดลงอีกครั้งในไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 หลังจากการลดลงอย่างมากในไตรมาสที่ 3 ของปี 2018 โดยยอดขายลดลงถึง 4.9 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ลดลง 13.6% จากปีก่อนซึ่งทำให้ยอดขายทั้งปี 2018 ลดลง 8.6% คิดเป็น 19.2 ล้านเครื่อง OPPO แซง Samsung เป็นครั้งแรกขึ้นเป็นผู้นำด้านการจำหน่ายสมาร์ทโฟน กว่าเกือบ 1.1 ล้านเครื่องครองส่วนแบ่งตลาด 22.2% ในขณะที่ Huawei และ Vivo ตามมาติดๆด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 13.1% และ 12.7% นอกจากนี้ Apple อยู่อันดับที่ห้าซึ่งรายงานส่วนแบ่งการตลาดในไตรมาสที่ 4 ต่ำที่สุดในประเทศ

ด้วยการแข่งขันที่สูงมากขึ้นเนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่หลายแบรนด์อย่างเช่น Xiaomi, Honor, Lava และ Wiko ได้เข้าสู่ตลาดอย่างจริงจังในช่วงสองปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามความต้องการของผู้บริโภคในสมาร์ทโฟนไม่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของตลาดไทย ระยะเวลาในการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคกำลังนานขึ้นแม้ว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจะเสนอส่วนลดที่น่าดึงดูดเพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคก็ตาม และผู้ใช้ฟีเจอร์โฟนนับล้านคนในพื้นที่ชนบทก็ยังคงไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟน

ในปี 2019 Canalys คาดการณ์ถึงการเติบโตของตลาดประเทศไทยในปีต่อปีที่ 4.1% ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะเป็นบวกหลังจากการเลือกตั้ง ซึ่งจะช่วยปรับปรุงแนวโน้มธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหญ่และกระตุ้นการลงทุนจากผู้ขายโทรศัพท์มือถือในต่างประเทศ แม้ว่า 5G ที่จะยังไม่มีการเปิดตัวในรูปแบบสมาร์ทโฟนและอาจนานไปจนปลายปี 2020 ผู้ประกอบการหลายๆแห่งก็เริ่มทำการตลาดในเรื่องนี้เพื่อสร้างความสนใจของผู้บริโภคด้านการพัฒนาของเทคโนโลยี ซึ่งจะมีความสำคัญต่อความต้องการของผู้บริโภคที่จะฟื้นตัวในช่วงปลายปี

แบรนด์ผู้นำด้านการจำหน่าย

OPPO ก้าวข้ามแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เป็นผู้นำตลาดอย่าง Samsung ด้วยอัตราการเติบโตเกือบ 70 % จากปีต่อปีในไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรุ่น A3s F7 และ F9 ซึ่งมียอดขายเกือบสองในสามเลยทีเดียว และประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ OPPO ให้ความสำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการลงทุนเป็นจำนวนมากเพื่อการสร้างแบรนด์และการบริการมากว่า 5 ปี โดยในปี 2018 OPPO ก็มีการกำหนดกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ด้วยการกลับมาของสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ที่ OPPO จะต้องรับมือกับการเปลี่ยนตลาดใหม่ให้พรีเมียมมากยิ่งขึ้นและดึงดูดผู้ใช้ที่พร้อมจ่ายได้มากขึ้น เพื่อสร้างความแตกต่างให้ชัดเจนยิ่งขึ้นระหว่าง OPPO และ แบรนด์คู่แข่งอย่าง Samsung, Apple, Huawei และ Vivo

Samsung ตกจากอันดับที่ 1 มาเป็นอันดับที่ 2 ในไตรมาสนี้ โดยมียอดขายเพียง 1 ล้านกว่าเครื่อง ซึ่งลดจากปีต่อปีถึง 36.1% เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Samsung ตกจากอันดับในไตรมาสนี้คือ การปล่อยผลิตภัณฑ์ J และ A series ล่าช้ากว่าที่คาดคิดไว้ ในขณะที่ J6+, J4+ and A7 2018 กลายเป็นยอดขายหลักในไตรมาสที่เปิดตัวสามรุ่นนี้ เช่นเดียวกับในตลาดอื่นๆ Samsung กำลังดำเนินการสร้างกลยุทธ์เพื่อแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งแบรนด์จีน ด้วยการปรับปรุงกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในช่วงระดับกลางทั้งราคาและคุณภาพ ซึ่งได้รับการตอบรับเชิงบวกในช่วงแรก แต่ในปี 2019 Samsung ก็ยังคงต้องเผชิญความท้าทายกับผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มราคา โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ยังคงมีความเสี่ยงอยู่คือ กลุ่ม High end ที่มีราคาสูง

Huawei ได้ดำเนินธุรกิจมาอย่างดีในปี 2018 ทำให้ก้าวข้าม Vivo และกลายเป็นแบรนด์อันดับ 3 ในไตรมาสนี้ ด้วยยอดขายสมาร์ทโฟนถึง 645,000 เครื่อง และเติบโตถึง 73.4% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Low-end อย่าง Y series และ Nova 3 ซึ่งทำให้ยอดขายโตขึ้นในสามไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ ด้วยความนิยมของแบรนด์ Honor ที่เพิ่มมากขึ้น Huawei จึงมีแนวโน้มที่จะผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์นี้มากกว่า 100,000 เครื่องต่อไตรมาส ทำให้ Huawei สามารถเจาะตลาดได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญสำหรับผู้จัดจำหน่ายในตลาดสมาร์ทโฟนไทย

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่