เทคโนโลยี (Technology)  |   วันที่ : 27 กุมภาพันธ์ 2562

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Huawei นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายที่งาน Mobile World Congress 2019 ได้แก่ โน้ตบุ๊ก Huawei MateBook X Pro รุ่นใหม่ โน้ตบุ๊ก Huawei MateBook 13 และ Huawei MateBook 14 สมาร์ทโฟน 5 จีแบบพับหน้าจอได้ Huawei Mate X และอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ 5 จี Huawei 5G CPE Pro ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ของหัวเว่ยรุ่นแรกที่ใช้ชิปเซต 5 จี Balong 5000 ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณสมบัติด้านการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งกว่าที่เคย ช่วยให้แนวคิดของโลกที่ทุกสมาร์ทดีไวซ์เชื่อมโยงกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงใกล้เป็นจริงยิ่งกว่าที่เคย

ริชาร์ด หยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าวว่า “ผู้บริโภคยุคปัจุบันคาดหวังจะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งยุคอนาคต อันเป็นยุคที่ทุกสมาร์ทดีไวซ์สามารถทำงานเชื่อมโยงกันได้ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป พร้อมสนับสนุนการก้าวเข้าสู่ยุค 5 จีด้วยกลยุทธ์ด้านการสร้างและส่งเสริมการใช้งานสมาร์ทดีไวซ์ที่เชื่อมโยงกันได้อย่างครบวงจร เราพร้อมจะค่อยๆ ผลักดันให้ผู้บริโภค รวมถึงสถานประกอบการเริ่มต้นใช้งานอุปกรณ์ที่รองรับเครือข่าย 5 จีเพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานแห่งอนาคต อันเป็นโลกที่สมาร์ทดีไวซ์ทุกชิ้นทำงานอย่างสอดประสานกันได้สู่ท้องตลาด”

Huawei MateBook X Pro รุ่นใหม่

ในงาน MWC 2018 หัวเว่ยภูมิใจเสนอโน้ตบุ๊ก Huawei MateBook X Pro รุ่นแรก ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง รองรับทุกคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อยุคใหม่ในรูปทรงที่เพรียวบาง และใช้หน้าจอแบบ FullView Huawei MateBook X Pro คือจุดเริ่มต้นของหัวเว่ยในการก้าวเข้าสู่ตลาดคอมพิวเตอร์โดยมุ่งหวังจะเป็นผู้นำตลาด อีกทั้งยังสะท้อนถึงยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่ต้องมีขอบหน้าจอบาง และในงาน MWC ปีนี้ หัวเว่ยนำเสนอ Huawei MateBook X Pro รุ่นใหม่ที่รักษาเอกลักษณ์ของโน้ตบุ๊กระดับเรือธง ทั้งงานออกแบบที่งดงาม และนวัตกรรมอัจฉริยะไว้เช่นเดิม โดยหัวเว่ยได้ยกระดับประสิทธิภาพและคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อของคอมพิวเตอร์แบบพกพารุ่นนี้ไปอีกขั้น

Huawei MateBook X Pro รุ่นใหม่ ผสานทั้งศาสตร์และศิลป์ไว้อย่างลงตัว โดยโครงสร้างแบบยูนิบอดี้ผลิตโดยใช้เทคนิค CNC และวัสดุโลหะที่ขัดผิวจนละเอียดเหมือนเนื้อทรายเพื่อความรู้สึกหรูหราขณะจับถือ โน้ตบุ๊กรุ่นนี้มี 2 สีให้เลือกคือสีเงินมิสติกซิลเวอร์และสีเทาสเปซเกรย์ หัวเว่ยเลือกใช้หน้าจอแบบ Ultra FullView ขนาด 13.9 นิ้ว ความละเอียด 3K โดยมีอัตราส่วนหน้าจอต่อขอบที่ร้อยละ 91 หน้าจอนี้ยังรองรับการสัมผัสแบบมัลติทัชได้สูงสุด 10 จุด อีกทั้งยังเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกของโลกที่รองรับการสั่งบันทึกภาพหน้าจอโดยใช้ท่าทางการขยับนิ้วมือ (Fingers Gesture Screenshot) ช่วยให้ผู้ใช้สั่งการได้อย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น Huawei MateBook X Pro รุ่นใหม่ ประสิทธิภาพสูงมากเนื่องจากใช้หน่วยประมวลผลกลาง Intel Core i7 8565 และหน่วยประมวลผลกราฟิก NVIDIA GeForce MX250 พร้อมแรม GDDR5 ขนาด 2 กิกะไบต์ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อไว-ไฟบรอดแบนด์ บลูทูธรุ่น 5.0 และมีพอร์ต ธันเดอร์โบลต์ 3 เพื่อการทำงานอย่างไร้ขีดจำกัด หัวเว่ยยังติดตั้งระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อประสบการณ์ด้านเสียงที่เต็มอิ่มทั้งสำหรับความบันเทิงหรือการทำงาน

หัวเว่ยยกระดับคุณสมบัติอัจฉริยะไปอีกขั้น ได้แก่ Huawei Share 3.0 OneHop ที่ช่วยให้การถ่ายโอนระหว่างคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์กับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เป็นเรื่องง่าย คุณสมบัตินี้รองรับทั้งการถ่ายโอนภาพถ่าย คลิปวิดีโอ และไฟล์เอกสาร นอกจากนี้การบันทึกภาพหน้าจอและการส่งภาพนั้นไปยังสมาร์ทโฟนก็ง่ายยิ่งกว่าเดิม ผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่รองรับสามารถเขย่าสมาร์ทโฟน คลิก “PC Huawei Share” ที่คอมพิวเตอร์ ภาพของหน้าจอคอมพิวเตอร์จะส่งไปบันทึกไว้ที่สมาร์ทโฟนทันที ยิ่งไปกว่านี้ หัวเว่ยยังพัฒนาระบบแบ่งปันข้อมูลจากคลิปบอร์ด (Clipboard Sharing) ของตนเอง เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลที่บันทึกไว้ในคลิปบอร์ดจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ใกล้เคียงอย่างสะดวก

Huawei MateBook 13 และ Huawei MateBook 14

Huawei MateBook 13 และ Huawei MateBook 14 คือ โน้ตบุ๊กที่นำเสนอนวัตกรรมล่าสุดสู่กลุ่มผู้บริโภคทั่วไป สวยงาม อัจฉริยะ และมีความล้ำหน้าอย่างแท้จริง โน้ตบุ๊กทั้ง 2 รุ่นนี้ผสานหน้าจอแบบ FullView เข้ากับประสิทธิภาพที่เหนือระดับ จุดเด่นด้านการพกพา งานประกอบเปี่ยมคุณภาพ และรูปลักษณ์ที่งดงาม ช่วยให้ผู้ใช้ทำทุกอย่างได้ในโลกที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะพัฒนาเพื่อผู้บริโภคทั่วไป แต่ก็มีคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อที่ทันสมัยเทียบเท่าโน้ตบุ๊กสำหรับการทำงานระดับมืออาชีพ เช่นการรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้ดั่งใจ

Huawei MateBook 13 และ Huawei MateBook 14 พัฒนาสำหรับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่โดยเฉพาะใช้หน้าจอแบบ FullView ที่มีอัตราส่วนการแสดงผลที่ 3:2 ที่เอื้อกับการสร้างสรรค์งานยุคใหม่ ทั้งยังมีขอบหน้าจอบาง รองรับการสัมผัสแบบมัลติทัชสูงสุด 10 จุด และรองรับการสั่งบันทึกภาพหน้าจอโดยใช้ท่าทางการขยับนิ้วมือ ซึ่งสอดรับกับธรรมชาติของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

Huawei MateBook 14 ผลิตขึ้นตามแนวคิดเดียวกับโน้ตบุ๊กรุ่นก่อนหน้าของหัวเว่ย คือมีหน้าจอแบบ FullView

ผลิตอย่างพิถีพิถัน มีรูปลักษณ์ที่งดงาม และมีประสิทธิภาพสูง โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ในฐานะผลิตภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของกลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กที่มีหน้าจอ 14 นิ้วจากคุณสมบัติของหน้าจอที่ล้ำสมัย ประสิทธิภาพระดับสูงสุด รวมไปถึงคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อที่เป็นที่หนึ่ง ใช้หน่วยประมวลผลกลาง Intel Core i7-8565U รุ่นที่ 8 และหน่วยประมวลผลกราฟิก NVIDIA GeForce MX250 มีช่องพัดลมระบายอากาศที่ได้แรงบันดาลใจมาจากครีบของปลาฉลาม ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น แบตเตอรี่แบบมาตรฐานความจุ 57.4 วัตต์พร้อมระบบประหยัดพลังงานนั้นช่วยรองรับการใช้งานได้ตลอดวัน

Huawei MateBook 13 ใช้หน่วยประมวลผลกลาง Intel Core i7-8565U processor รุ่นที่ 8 และหน่วยประมวลผลกราฟิก the NVIDIA GeForce MX150 ช่องพัดลมระบายอากาศ Huawei Shark Fin Fans 2.0 ที่ได้ แรงบันดาลใจมาจากครีบของปลาฉลาม ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น ไร้เสียงหมุนของพัดลมแม้จะกำลังทำงานด้วยความเร็วสุงสุด คอมพิวเตอร์แบบพกพารุ่นนี้ใช้หน้าจอแบบ FullView ที่มีอัตราส่วนการแสดงผลที่ 3:2 มีอัตราส่วนหน้าจอต่อขอบหน้าจอที่ร้อยละ 88 และรองรับการสัมผัสแบบมัลติทัชสูงสุด 10 จุด

ทั้งสองรุ่นมาพร้อม Huawei Share 3.0 พร้อม OneHop และระบบแบ่งปันข้อมูลจากคลิปบอร์ด ช่วยให้การแบ่งปันข้อมูลจากสมาร์ทโฟนไปยังคอมพิวเตอร์หรือกลับกันเป็นไปได้โดยง่ายและรวดเร็วกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากสำหรับผู้ใช้รุ่นใหม่ เช่น นักศึกษาที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาหรือพนักงานรุ่นใหม่ขององค์กร เช่น การสั่งบันทึกภาพหน้าจอโดยใช้ท่าทางการขยับนิ้วมือ คุณสมบัติ Fingerprint Button 2.0 ระบบเสียง Dolby Atmos และอื่นๆ อีกมาก เหมาะสมกับการทำงานนอกสถานที่ และการส่งต่อหรือแบ่งปันข้อมูลอย่างไร้รอยต่อ

5G Foldable Smartphone: Huawei Mate X

Huawei Mate X คือจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนแห่งยุคอนาคต อีกทั้งยังเป็นเครื่องสะท้อนหัวใจของสมาร์ทโฟนตระกูล Mate ได้เป็นอย่างดี สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ผสานทั้งเทคโนโลยี 5 จี แนวคิดสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอพับได้ ปัญญาประดิษฐ์ และส่วนต่อประสานผู้ใช้แบบไม่เหมือนใครเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานใหม่ๆ จากสมาร์ทโฟนแนวคิดใหม่

สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแบบทูอินวัน Huawei Mate X คือผลลัพธ์ของการทดลองด้านรูปทรงของสมาร์ทโฟนโดยหัวเว่ย โดยหัวเว่ยผสานพาเนลจอแบบ OLED ที่ยืดหยุ่นได้เข้ากับบานพับกลไกแบบฟัลคอนวิง (Falcon Wing Mechanical Hinge) ส่งผลให้สมาร์ทโฟนแห่งอนาคตนี้มีสไตล์และดูล้ำสมัย สมาร์ทโฟนพับได้ที่มีน้ำหนักเบานี้มีตัวเครื่องสีฟ้า Interstellar Blue อันเป็นสีสันใหม่ที่สื่อถึงอนาคตและความงดงามของเทคโนโลยีล่าสุด Huawei Mate X ผสานข้อดีของทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตไว้อย่างลงตัว หน้าจอFullView OLED แบบยืดหยุ่นได้และชิปเซ็ต Balong 5000 ชิปเซ็ตโมเดม 5 จีที่มีความเร็วสุงที่สุดในปัจจุบันนำเสนอประสบการณ์การใช้งานใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร ผสานทั้งหน้าจอขนาดใหญ่และความสะดวกในการพกพาไว้อย่างลงตัว Huawei Mate X คือเครื่องมือสร้างสรรค์งานที่ยอดเยี่ยมที่สุดเมื่อใช้งานในโหมดแท็บเล็ต และการสลับการทำงานระหว่างแอพลิเคชั่นก็เป็นไปโดยง่ายขึ้นอย่างยิ่ง ผู้ใช้งานสามารถทำงานโดยใช้หน้าจอ 2 หน้าจอพร้อมกันเพื่อการทำงานหลายงานพร้อมกัน สร้างความรู้สึกราวกับใช้งานเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์

สมาร์ทโฟนกลุ่มเรือธงของหัวเว่ยต้องมีกล้องถ่ายภาพที่เป็นเสิศเสมอ และ Huawei Mate X ยังคงรักษาหลักการนี้ไว้อย่างเคร่งครัด สมาร์ทโฟนแบบพับหน้าจอได้ช่วยให้กล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังตามต้องการ ยกระดับการถ่ายภาพไปอีกขั้น

เนื่องจากหัวเว่ยต้องการก้าวขึ้นผู้นำในยุค 5 จี Huawei Mate X มีนวัตกรรมที่ล้ำหน้าทั้งชิปเซ็ต แนวคิดการออกแบบอุปกรณ์ และเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร กล่าวคือ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ตโมเดม Balong 5000 ชิปเซ็ตโมเดมแบบมัลติโหมดรุ่นแรกของโลกที่รองรับเทคโนยี 5 จีและผลิตโดยใช้สถาปัตยกรรมการผลิตแบบ 7 นาโนเมตร ส่งผลใช้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนในยุค 5 จี แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความจุ 4,500 mAh อีกทั้งยังรองรับ Huawei SuperCharge ชาร์จแบตได้อย่างรวดเร็วสอดรับกับยุค 5 จี

อุปกรณ์รับส่งสัญญาณ Huawei 5G CPE Pro เริ่มต้นยุค 5 จีในบ้าน

ชิปเซต Balong 5000 คือชิปเซ็ตที่เป็นจุดเริ่มต้นของยุค 5 จี เนื่องจากชิปเซ็ตนี้สามารถติดตั้งในอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ นอกเหนือจากสมาร์ทโฟนได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์รับส่งสัญญาณบรอดแบนด์ภายในบ้าน อุปกรณ์ในรถยนต์ หรือโมดูล 5 จีต่างๆ ชิปเซ็ตนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้อินเทอร์เนตที่ความเร็วระดับ 5 จีได้จากผลิตภัณฑ์หลากรูปแบบ

Huawei 5G CPE Pro ใช้ชิปเซ็ต Balong 5000 รองรับย่านความถี่ทั้ง 4 จี และ 5 จี ชิปเซ็ตนี้ยกระดับการสื่อสารไร้สายไปอีกขั้น ทั้งสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์รับส่งสัญญาณภายในบ้าน และมาตรฐานของการสื่อสารแบบ 5 จี กล่าวคือ ชิปเซ็ตนี้ช่วยให้การดาวน์โหลดคลิปวีดีโอความละเอียด HD ขนาด 1 กิกะไบต์ใช้เวลาเพียง 3 วินาที และสามารถสตรีมคลิปวิดีโอความละเอียด 8K ได้โดยไม่มีการสะดุด Huawei 5G CPE Pro สามารรถใช้งานได้ทั้งที่บ้านและสำนักงานขนาดกลางและขนาดย่อมที่ต้องการการสื่อสารในความเร็วสูงสุด ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี Huawei HiLink ยกระดับสมาร์ทโฟนไปสู่ยุค 5 จี

ในยุคอนาคตที่เทคโนโลยี 5 จี จะช่วยเชื่อมโยงสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว และหัวเว่ยพร้อมจะเป็นผู้นำเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำงานอย่างสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว ปัจจุบันหัวเว่ยเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่มีผลิตภัณฑ์ 5 จีครบถ้วนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ชิปเซ็ต ระบบประมวลผลข้อมูลแบบ edge และบริการระบบคลาวด์ หัวเว่ยมุ่งมั่นจะยกระดับการสื่อสารข้อมูลแบบ 5 จีในทุกๆ สถานการณ์ และช่วยเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ รอบตัวผู้บริโภคเป็นหนึ่งเดียว

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่