องค์กร (Corporate)  |   วันที่ : 13 มีนาคม 2562

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

OutSystems ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันด้วย low-code ทำรายได้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2561 โดยได้แรงหนุนจากการที่ลูกค้าเลือกใช้บริการและสร้างประโยชน์จากแพลตฟอร์ม low-code เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง OutSystems มีรายได้ประจำ (recurring revenue) เพิ่มขึ้น 66% ในปี 2561 ซึ่งนับเป็นปีที่สามติดต่อกันที่รายได้ของบริษัทเติบโตมากกว่า 50% สู่ระดับกว่า 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี เอเชียแปซิฟิกมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเติบโตของบริษัทในปี 2561 ซึ่งเป็นผลมาจาก OutSystems เดินหน้ายกระดับธุรกิจ ตลอดจนเครือข่ายพันธมิตรและหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ทั่วภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เฉพาะในประเทศไทย

OutSystems ได้สร้างระบบ ecosystem ที่ครอบคลุมตั้งแต่ผู้วางระบบ พันธมิตรด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ และคู่ค้าที่ปรึกษาทางธุรกิจ ได้แก่ CTC Global (Thailand) Ltd., Datapro Computer Systems Co., Ltd, G-Able, SSC Integration Co., Ltd., Stream I.T. Consulting และ Virtual Link Solutions Co., Ltd. โดยพันธมิตรในประเทศเหล่านี้ได้ช่วยให้บริษัททั่วประเทศพลิกโฉมองค์กรธุรกิจเป็นระบบดิจิทัลได้เร็วขึ้น

สำหรับทั่วโลก OutSystems มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นหลายร้อยราย และมีนักพัฒนารายใหม่เกือบ 60,000 คนในปี 2561 บริษัทชั้นนำอย่าง AXA, FWD Insurance, McMillan Shakespeare Group, Randstad, Ricoh, และ Schneider Electric ต่างไว้วางใจเลือกใช้แพลตฟอร์ม low-code ของ OutSystems เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันให้พร้อมใช้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนองค์กรเป็นดิจิทัลและสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ

"ความสำเร็จของลูกค้าในการเร่งผลักดันการพลิกโฉมธุรกิจเป็นดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วด้วยแพลตฟอร์ม low-code ของเรานั้น นับได้ว่าน่าประทับใจมาก" Paulo Rosado ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง OutSystems กล่าว "ความสำเร็จของลูกค้ากำลังแปรเปลี่ยนเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับเราและสำหรับลูกค้าเอง แพลตฟอร์ม low-code ของเราเป็นที่ต้องการสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเรามุ่งหวังว่าจะได้เห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและลูกค้าให้การต้อนรับแพลตฟอร์มของเราอย่างอบอุ่นอีกครั้งในปีนี้"

ข้อเสนอแนะและติชมของลูกค้าได้ช่วยให้เราไม่หยุดพัฒนา จนได้รับการยอมรับว่าเป็นทางเลือกของลูกค้าในรายงาน Gartner Peer Insights Customers' Choice 2018 ถึง 2 สาขา คือ การพัฒนาแอปมือถือ และ high-productivity aPaaS

"เราตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกค้าใช้แพลตฟอร์ม low-code ของเราในการคิดค้นนวัตกรรม สร้างรายได้ และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต" Rosado กล่าว "ในปี 2561 เราเห็นน้องใหม่มากมายเข้าสู่ตลาด low-code แต่โซลูชั่นที่ได้อาจทำให้ลูกค้ากลับไปติดกับอยู่กับระบบเดิมที่มาในรูปแบบใหม่ ขณะเดียวกัน ลูกค้าสร้างความแปลกใจและความตื่นเต้นยินดีให้กับเราในทุก ๆ วัน จากการที่เราได้เห็นวิธีการอันหลากหลายที่พวกเขานำแพลตฟอร์มของเราไปใช้ สิ่งนี้ส่งเสริมความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบแพลตฟอร์ม low-code แบบ full-stack โดยที่ไม่มีกำแพงใด ๆ มาเป็นอุปสรรคในการพัฒนา แอปพลิเคชั่น เพื่อสร้างความได้เปรียบขององค์กร"

"ปี 2561 เป็นปีที่บริษัทในเอเชียแปซิฟิกวางใจเลือกใช้บริการ OutSystems กันมากขึ้น เพื่อช่วยเร่งผลักดันการพลิกโฉมธุรกิจของพวกเขาให้เป็นระบบดิจิทัล โดยมุ่งไปที่การปรับปรุงยกระดับระบบเดิมให้ทันสมัย ทั้งนี้ เพื่อสานต่อแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่งในปี 2561 เราจะยังคงมุ่งมั่นผลักดันผลิตภัณฑ์และบริการชั้นเลิศเพื่อช่วยเสริมศักยภาพให้แก่ลูกค้าในภูมิภาคนี้ ด้วยแพลตฟอร์ม low-code ที่รองรับการสร้างสรรค์นวัตกรรม การส่งมอบต่อเนื่อง และการบริหารทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถได้ดีขึ้น" Mark Weaser รองประธาน OutSystems APAC กล่าว

แพลตฟอร์มจาก OutSystems สนับสนุนแอปพลิเคชั่นการใช้งานขององค์กรธุรกิจได้หลากหลายรูปแบบมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าบางรายนำโซลูชั่นไปใช้ในการพัฒนาโซลูชั่นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภารกิจ มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ และสอดคล้องกับกฎระเบียบ ซึ่งจะเข้ามาแทนที่ระบบ ERP/CRM แบบเดิม ๆ ที่ใช้มานาน ขณะที่ลูกค้ารายอื่น ๆ ใช้แพลตฟอร์มเพื่อสร้างโมบายแอปและเว็บแอปสำหรับสนับสนุนกระบวนการภายใน บริการภาคสนาม และงานส่วนหน้า ซึ่งช่วยปรับปรุงความมีประสิทธิภาพและความพึงพอใจของพนักงานได้เป็นอย่างมาก การเติบโตแข็งแกร่งเป็นประวัติการณ์ในปี 2561 มาจากบริษัทที่ใช้ OutSystems ในการพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า B2C สำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์ การสมัครบัญชี และการบริการตนเอง ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า สร้างกระแสรายได้ใหม่ ๆ และก้าวข้ามบรรดาคู่แข่ง

นี่คือตัวอย่างเพียงส่วนหนึ่งของลูกค้าใน APAC ที่เลือกใช้ OutSystems เพื่อเพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจ ขจัดความยุ่งยากซับซ้อน และยกระดับความเร็วและความคล่องตัว:

  • AXA บริษัทประกันภัยอันดับหนึ่งของโลก พัฒนาพอร์ทัลใหม่สำหรับนายหน้าประกันภัยได้เสร็จสมบูรณ์ภายในเวลาเพียงสามเดือน และนับตั้งแต่เปิดใช้งาน พอร์ทัลดังกล่าวได้ช่วยให้นายหน้าประกันภัยมากกว่า 3,000 ราย สามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านทางมือ แท็บเล็ต และพีซี ทั้งยังรองรับการเคลมประกันได้มากถึง 260,000 รายการต่อปี ซึ่งช่วยลดปริมาณงานและค่าใช้จ่ายของคอลเซ็นเตอร์ลงได้
  • McMillan Shakespeare Group (MMSG) พัฒนาแอปพลิเคชันมือถือสองตัว ซึ่งมาแทนที่ขั้นตอนการทำงานแบบใช้แรงงานคนที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยแอป Digital RFQ ใช้เวลา 12 สัปดาห์ในการสร้างโดยใช้แพลตฟอร์มจาก OutSystems แอปนี้สามารถรับคำขอใบเสนอราคาได้ถึง 7,500 คำขอต่อปี ซึ่งช่วย MMSG ขจัดปัญหาความล่าช้า 3-4 วันในการดำเนินการเอกสารคำขอใบเสนอราคา นอกจากนี้ ในเวลาเพียง 20 สัปดาห์ MMSG ยังสามารถพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่ช่วยปรับปรุง
  • กระบวนการอนุมัติการยื่นขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการร่นเวลาในการรับใบคำร้องจากสามวันโดยเฉลี่ยเหลือเพียงชั่วโมงเดียว แอปพลิเคชันนี้ สามารถจัดการใบคำร้องราว 220 คำร้องต่อสัปดาห์ จึงช่วยส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีขึ้นและนำไปสู่การเพิ่มอัตราความสำเร็จ

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มือถือออกใหม่