บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) นำทัพเทคโนโลยีสุดล้ำมาเยือนเมืองไทย ภายใต้งานโชว์เคสโซลูชั่นระดับโลก “HPE Discover More Bangkok” เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งในงานนี้ นอกจาก HPE จะได้โอกาสอัพเดทเทคโนโลยีเอ็นเตอร์ไพรส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรในระดับต่างๆ ในยุคดิจิทัล ทรานสฟอร์เมชั่นแล้ว ยังได้รับเกียรติจากแขกรับเชิญผู้ทรงคุณวุฒิอย่าง รศ.ดร. ชิต เหล่าวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ด้านการพัฒนาการศึกษาบุคลากรและเทคโนโลยี คณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก และผู้ก่อตั้งสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น “บิดาแห่งวิทยาการหุ่นยนต์ไทย” ที่ได้มาร่วมเปิดเผยถึงหนึ่งในปัจจัยการขับเคลื่อนโครงการออกแบบระบบควบคุมเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ผ่านเทคโนโลยี AI และการจัดการข้อมูล Big Data ที่ได้ HPE เป็นพันธมิตรอีกด้วย
คุณพลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ของเราในการมุ่งมั่นที่จะเข้ามาช่วยสร้างสมดุลย์ของการใช้ชีวิตและการทำงานที่ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี ผ่านการเข้าไปมีส่วนช่วยให้องค์กรและธุรกิจประสบความสำเร็จในการปฏิรูปในยุคดิจิทัล เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของคนในการใช้ชีวิตในการทำงาน และผลประกอบการในเชิงธุรกิจไปพร้อมๆ กัน เราจึงจัดงาน HPE Discover More Bangkok ภายใต้แนวคิด “Accelerating Next” เพื่อพาองค์กรและธุรกิจไปสู่โจทย์ใหม่ในการลงทุนด้านระบบโครงสร้างไอที ตามแนวโน้มใหม่ของยุค Edge to Cloud โดยอนาคตจะตกเป็นของผู้ที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วที่สุด และนวัตกรรมก็จะเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ”
“ทั้งนี้ ในแง่ของความร่วมมือในการพัฒนาประเทศตามแผนแม่บทไทยแลนด์ 4.0 ทาง HPE Thailand เล็งเห็นความสำคัญของการทำวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ภายในประเทศ ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับการเติบโตของความต้องการเทคโนโลยี AI และ Big Data จึงร่วมมือกับสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการพัฒนางานวิจัยเพื่อตอบสนองความต้องการเทคโนโลยี AI ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยความร่วมมือนี้นอกจากจะนำไปสู่การผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรี โท เอก และนักวิจัยที่มีศักยภาพในการสร้างระบบ AI ที่ประยุกต์ใช้งานได้จริงแล้ว ยังมีความจำเป็นอย่างมากในการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งถูกวางไว้เป็น Smart City และ Digital Hub ในภูมิภาค ทั้งนี้ บริษัทฯ จะทำการสนับสนุนเทคโนโลยีชั้นสูงในการประมวลผลข้อมูล มีความปลอดภัยสูง ทันสมัยและทรงประสิทธิภาพมากสำหรับงาน เช่น AI และ Deep Learning และในอนาคตยังจะมีแนวทางในการขยายภาคความร่วมมือเพิ่มเติมทั้งด้านหลักสูตรร่วมกับคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ และศูนย์เคเอกซ์ (KX Knowledge Exchange for Innovation by Kmutt) มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี อีกด้วย”
รศ.ดร. ชิต เหล่าวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ด้านการพัฒนาการศึกษาบุคลากรและเทคโนโลยี คณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก และผู้ก่อตั้งสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า “AI และ Big Data เป็นหัวใจสำคัญของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (Industry 4.0) ทั้งยังเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทุกประเทศทั่วโลก ดังนั้น ประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนา AI และ Big Data เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมในประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงเศรษฐกิจให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ถือเป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะที่กำลังจะเกิดขึ้นในพื้นที่ EEC โดยความร่วมมือกับ HPE ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาทั้งในส่วนของระบบไอทีขั้นสูง และการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในด้าน AI และ Big Data อีกด้วย”
ในแง่ของเทรนด์ในการก้าวสู่ยุค Edge to Cloud และไฮบริดไอทีซึ่งกำลังเป็นประเด็นในวงการเทคโนโลยีเอ็นเตอร์ไพรส์ คุณสุรชัย อรรถมงคลชัย ผู้จัดการธุรกิจไฮบริดไอที บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ด้วยหลักการของ Edge to Cloud ที่ตั้งอยู่บนหลักของการประมวลผลแบบไม่รวมศูนย์ เรามองว่า ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป คำว่า Edge หรืออุปกรณ์ปลายทางจะมีความสำคัญขึ้นมากอย่างมีนัยยะ ด้วยการประมวลผลที่ทรงประสิทธิภาพและรวดเร็ว ได้ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์ทันต่อการตัดสินใจก่อนที่จะเชื่อมต่อและส่งการประมวลผลกลับเข้าสู่คลาวด์ โดยที่ผ่านมา HPE ได้วางจุดยืนของเราอย่างชัดเจนในเรื่อง Edge to Cloud โดยเราได้มีการวางแผนการลงทุนราว 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีและการให้บริการในระยะ 4 ปีข้างหน้านี้ โดยการลงทุนมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถนำข้อมูลจากอุปกรณ์ปลายทางไปสู่คลาวด์ ทั้งนี้ ข้อมูลเหล่านี้ล้วนสามารถนำมาวิเคราะห์กลั่นกรองนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางธุรกิจ สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้งาน ด้วยการใช้ AI และ Machine Learning ในการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองการบริการได้อย่าง Real Time ด้วย เช่น Smart Hospital หรือ Autonomous Car เป็นต้น”
“นอกจากนี้ จากสภาพแวดล้อมของการปรับตัวทางธุรกิจในยุคดิจิทัลทรานสฟอร์มเมชั่น ทำให้ HPE มองเห็นประเด็นสำคัญด้านความต้องการของระบบไอที โดยเรามองว่า โครงสร้างพื้นฐานแบบผสมผสาน หรือไฮบริดไอที เป็นคำตอบสำหรับการพัฒนาและการแข่งขัน ที่หลายๆ องค์กรกำลังพยายามหา ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างพับบลิคคลาวด์ ไพรเวทคลาวด์ และระบบแทรดดิชั่นแนล ไอที ส่วนผสมตรงนี้จะเป็นสิ่งที่ตัดสินว่าคุณสามารถที่จะตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้ขนาดไหน และมีความรวดเร็วในการตอบสนองโจทย์ของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งทาง HPE มีความพร้อม เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเทคโนโลยีที่สามารถนำเอาการใช้ไฮบริดไอทีมาช่วยเป็นเครื่องมือในการดำเนินการธุรกิจของลูกค้า”
นอกจากนี้ ภายในงาน HPE Discover More Bangkok ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ๆ เช่น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ www.hpe.com
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.hpe.com วันที่ : 20 กรกฎาคม 2562
Sony เปิดตัวซีรีส์ ULT POWER SOUND เสียงเบสกระหึ่ม เต็มอารมณ์
MG4 Electric 2024 ดีไซน์สปอร์ต สมรรถนะเร้าใจ เริ่มต้น 7 แสนบาท
Huawei เปิดตัวระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ LUNA S1 เพื่อการใช้งานในภาคครัวเรือนและองค์กร
Moto G04s น่าใช้ขึ้นด้วยกล้อง 50MP เทคโนโลยี Quad pixel และลำโพง Dolby Atmos
Google Vids ปลดล็อกพลังการสร้างวิดีโอด้วย AI บน Google Workspace
Google เปิดตัว Find My Device เวอร์ชันใหม่ ค้นหาอุปกรณ์ Android ได้แม้ปิดเครื่องหรือไม่มีเน็ต!
vivo V40 SE 5G เต็มตากับจอ AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ได้ชิปเซ็ต Snapdragon 4 Gen 2
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
Nothing Ear และ Nothing Ear (a) ประกาศวันเปิดตัว มีการรีเซ็ตชื่อ และมาด้วยกัน 2 รุ่น
motorola edge 50 Pro หน้าจอ pOLED 6.7 นิ้ว ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 ชาร์จเร็ว 125W