ดิสนีย์ประกาศเปิดตัวแอปพลิเคชั่นอย่างเป็นทางการ โดยมีชื่อเรียกว่าดิสนีย์พลัส (Disney+) ซึ่งพร้อมเปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 12 พฤศจิกายนศกนี้ ให้บริการคอนเทนต์จาก 5 หมวด ได้แก่ ดิสนีย์ (Disney), พิกซาร์ (Pixar), มาร์เวล (Marvel), สตาร์วอร์ (Star wars) และเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก (National Geographic) เรียกได้ว่าถูกใจเหล่าสาวกซุปเปอร์ฮีโร่, การ์ตูน รวมถึงสารคดีอันเลื่องชื่อจากทุกสไตล์ ซึ่งหากเทียบกับผู้ให้บริการชื่อดังเกี่ยวกับภาพยนตร์ทุกแบบ Netflix ก็ดูมีความแตกต่างกันอยู่ไม่น้อย ทว่าทาง Disney ได้มีจุดเด่นที่ทำให้เน็ตฟลิกซ์มีร้อนมีหนาว เรามาวิเคราะห์กันว่ามีอะไรบ้าง
1. คอนเทนต์ที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า
อย่างที่เกริ่นในข้างต้น หากเราสังเกตจากคอนเทนต์ทั้งหมดที่ทาง Disney+ ให้บริการ แค่ส่วนของ Disney กับ Pixar ก็มีเหล่าการ์ตูนให้ติดตามหลายเรื่อง เช่นเดียวกับ Marvel/Star wars มีเนื้อหาภาพยนตร์ต่อเนื่องกันอย่างไม่มีวันจบก็ว่าได้ แค่เฉพาะมาร์เวลก็แตกจักรวาลได้หลายฮีโร่ ดังนั้นจึงเข้าทุกได้ทุกเพศทุกวัย และมีขอบเขตหนังที่เจาะจงมากกว่า
2. ความได้เปรียบในแง่ของการอยู่ในวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์
หากเรามองอย่างผิวเผิน Disney มีคอนเทนต์ภาพยนตร์ระดับโลกมากมาย เป็นที่รู้จักกว้างขวาง ทำให้ลูกค้าก็ได้รับความพิเศษให้รับชมเรื่องใหม่ได้รวดเร็ว ทั้งยังสามารถนำคอนเทนต์จากผู้ผลิตแหล่งอื่นได้ง่ายกว่า ข้อเสนอที่ไม่ยุ่งยาก หากเทียบกับ Netflix ก็ต้องมีการนำเสนอเนื้อหาให้น่าสนใจ ถึงจะมีการนำมาฉาย
3. ความพิเศษในราคาถูกกว่าครึ่ง
Disney+ คุณสามารถดาวน์โหลดคอนเทนต์เพื่อเก็บไว้รับชมออฟไลน์ได้อย่างไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับเนื้อที่ว่างบนอุปกรณ์ที่ใช้อยู่) อีกทั้งสตรีมเนื้อหาแบบในรูปแบบ 4K, HDR และ Dolby Atmos ได้อีกด้วย ซึ่ง 1 แอคเคาท์สามารถสตรีมเนื้อหาคอนเทนต์พร้อมกันสูงสุด 4 อุปกรณ์ ในค่าบริการเพียง 21x บาท/เดือน เทียบกับของ Netflix ซึ่งอยู่ที่ 420 บาท/เดือน ก็ครึ่งต่อครึ่ง
4. ตั้งโปรไฟล์ของคุณให้ถูกใจได้หลากหลาย
เป็นอีกหนึ่งความพิเศษของ Disney+ เพราะหนึ่งบัญชีอาจเข้าถึงได้จากหลายอุปกรณ์ ดังนั้นเพื่อความคล่องตัวในการรับชมคอนเทนต์ ทางผู้พัฒนาจึงให้เราสามารถตั้งโปรไฟล์ได้ 7 แบบ พร้อมเลือกใช้อวตาร์ได้ถึง 200 แบบจากตัวละครของ Disney, Pixar, Marvel หรือ Star Wars เป็นต้น
น่าสนใจเลยทีเดียวกับคอนเทนต์จาก Disney+ ต้องบอกว่าจุดแข็งสำคัญคือค่าบริการที่ถูกกว่าครึ่ง เพราะ Netflix เองก็เพิ่งขึ้นค่าบริการไปด้วย ดังนั้นคงต้องติดตามกันว่า การแข่งขันสตรีมมิ่งจะเป็นเช่นไร..
ที่มา : www.thewaltdisneycompany.com วันที่ : 27 สิงหาคม 2562
รีวิว Asaki A-B3557 แบตเตอรี่สำรองความจุ 10000mAh ชาร์จเร็ว 2.1A ได้สองพอร์ต
HTC A101 แท็บเล็ตใหม่ล่าสุด หน้าจอ 10 นิ้ว กล้องหลังเลนส์คู่ แบตฯ 7000mAh
realme C30 รุ่นเล็กประหยัดงบ หน้าจอ 6.5 นิ้ว แบตฯ 5000mAh สเปคดีใช้งานลื่น
สรุปจุดเด่น Xiaomi 12S Ultra นี่มันคือกล้องถ่ายภาพ แต่เป็นสมาร์ทโฟนได้ด้วย
Samsung Odyssey Neo G8 เกมมิ่งมอนิเตอร์จอโค้ง ชัดระดับ 4K ที่มาพร้อมรีเฟรชเรท 240 Hz