สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 31 ธันวาคม 2562

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

OPPO เปิดตัวสองสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของซีรีย์ RENO โดยเป็นเจนเนเรชั่นที่สามแล้ว ต้องบอกว่าเอกลักษณ์อันสุดเท่ครีปฉลามได้หายไปแล้ว กลายเป็นดีไซน์ตามสมัยนิยม ซึ่งซีรีย์ดังกล่าวก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของออปโป้ มีการออกแบบเฉดสีตัวเครื่องที่มีความเท่และล้ำลึกมากยิ่งขึ้น ทำไมถึงบอกว่าล้ำลึก นั่นก็เพราะมีถึง 4 เฉดสีในเครื่องเดียว ด้วยกระบวนการที่ฉีดพิมพ์สีตั้งแต่โลหะและกระจกทำให้การแสดงเฉดสีจะมีหลากหลายมากยิ่งขึ้นตามจุดแสงที่ตกกระทบ รายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

ทำไมถึงบอกว่ายอดจองล้นหลาม เพราะมีรายงานจากสื่อในปรเทศจีนระบุว่าหลังจากเปิดตัวมาไม่กี่วันก็มีผู้คนสนใจลงทะเบียนจับจองมากถึง 1.46 ล้านคน เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนซีรีย์ที่น่าสนใจเลยทีเดียว งานนี้ต้องลุ้นให้เข้าไทยเร็วๆ แล้วสิ!

สำหรับจุดเด่นของ OPPO RENO 3 ซีรีย์ เป็นอย่างไร

OPPO RENO 3 5G และ OPPO REN 3 PRO 5G ดีไซน์โดยรวมเหมือนกัน มาพร้อม 4 เฉดสี คือ Sunrise Impression, Moonlight White, Moon Night Black และ Blue Starry Night ซึ่งความแตกต่างจะอยู่ที่หน้าจอแสดงผล รุ่นปกติจะเป็นจอไม่โค้ง และมีทรงหยดน้ำ แบบ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ ส่วนรุ่น PRO เป็นหน้าจอขอบโค้งทั้งสองหน้า ไม่ใช้ทรงหยดน้ำ แต่จะเจาะรูมุมซ้ายบน (Punch Hole) แบบ AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรท 90Hz ความละเอียด FullHD+ รองรับการแสดงผล HDR10+/DCI-P3 ทั้งสองรุ่นจะมีโหมดถนอมสายตา และลดแสงสีฟ้า การันตีมาตรฐานจากหน่วยงาน TÜV Rheinland

จุดเด่นอื่นที่น่าสนใจของทั้งสองรุ่น คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่มีการออกแบบให้มีพื้นที่สแกนกว้างขึ้นอีก 10% เมื่อเทียบกับรุ่น OPPO RENO 2 และระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า ตัวเครื่องจะครอบทับกระจกเกรดคุณภาพ Gorilla Glass 5 ส่วนของรุ่น PRO มีลำโพงสเตอริโอระบบเสียง Dolby ATMOS สำหรับทั้งสองรุ่นมีรูไมโครโฟนทั้งหมด 2 ตัว แบ่งเป็น สนทนาหนึ่ง และสองเพื่อตัดเสียงรบกวน

นอกจากนี้ในรุ่น PRO ดูเหมือนว่า OPPO ต้องการสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะใส่ตัวระบายความร้อนมาให้ด้วย ชั้นเลเยอร์ถึง 10 เลเยอร์ครอบคลุมฮาร์ดแวร์หลักได้ครบถ้วน เพื่อประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้คุณใช้งานได้ต่อเนื่อง รวมถึงยังเพิ่มความเร็วแรงในการดาวน์โหลด้วยฟีเจอร์การใช้งาน 5G+WIFI DUAL CHANNEL เป็นการรวมพลังเพิ่มความเร็วได้สูงสุดถึง 2,490Mbps (ในห้องปฏิบัติการ) ทำให้มีความเร็วกว่า 5G เสียอีก! ทั้งนี้การออกแบบเสาสัญญาณยังสามารถรับได้รอบตัวสมาร์ทโฟน 360 องศา ไม่ว่าคุณจะใช้งานลักษณะไหน หรืออยู่ในพื้นที่อับสัญญาณก็ยังรับสัญญาณได้ง่ายขึ้น

เทียบสเปกของ OPPO RENO 3 5G vs OPPO RENO 3 PRO 5G

  OPPO RENO 3 5G OPPO RENO 3 PRO 5G
หน้าจอ อัตราส่วน 20:9 ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2340 x 1080 พิกเซล)
ระบบปฏิบัติการ Color OS 7 บนพื้นฐาน Android 10 Color OS 7 บนพื้นฐาน Android 10
หน่วยประมวลผล Mediatek Dimensity 1000L Snapdragon 765G
GPU Mali-G77 Adreno 620
RAM 8GB/12GB LPDDR4x 2133MHz 8GB/12GB LPDDR4x 2133MHz
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB 128GB/256GB UFS 2.1
MicroSD Card ไม่รองรับ ไม่รองรับ
ระบบเชื่อมต่อ 5G, 4G, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz+5GHz, dual-band, Wi-Fi, Bluetooth 5.1, GPS + GLONASS, NFC 5G, 4G, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz+5GHz, dual-band, Wi-Fi, Bluetooth 5.1, GPS + GLONASS, NFC
พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C 3.1 + USB OTG USB Type-C 3.1 + USB OTG
ช่องเสียบหูฟัง รองรับ ไม่รองรับ
แบตเตอรี่ 4,025mAh รองรับการชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 4.0 (30 วัตต์) 4,025mAh รองรับการชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 4.0 (30 วัตต์)

สำหรับทั้งสองรุ่นมีสเปกกล้องหลังต่างกัน จะมีความเหมือนที่กล้องหน้าคือ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8 นิ้ว หรือ 26 มม. กับจุดหนาแน่นต่อพิกเซล 0.8µm มีโหมดการถ่ายภาพ HDR อัตโนมัติ รูรับแสง f/2.4 รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด FullHD

สเปกกล้องหลังของ OPPO RENO 3 5G

  • กล้องหลัก : ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.7 นิ้ว จุดหนาแน่นต่อพิกเซล 0.8µm ระบบโฟกัส PDAF มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
  • กล้องสอง : เลนส์ UltraWide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5 นิ้ว จุดหนาแน่นต่อพิกเซล 1.75µm
  • กล้องสาม : เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5 นิ้ว จุดหนาแน่นต่อพิกเซล 1.75µm
  • กล้องสี่ : เลนส์ตรวจจับภาพเชิงลึก ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5 นิ้ว จุดหนาแน่นต่อพิกเซล 1.75µm

สเปกกล้องหลังของ OPPO RENO 3 Pro 5G

  • กล้องหลัก : ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.0 นิ้ว จุดหนาแน่นต่อพิกเซล 0.8µm ระบบโฟกัส PDAF มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
  • กล้องสอง : เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.4 นิ้ว จุดหนาแน่นต่อพิกเซล 1.0µm ระบบโฟกัส PDAF
  • กล้องสาม : เลนส์ UltraWide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.2 นิ้ว จุดหนาแน่นต่อพิกเซล 1.4µm
  • กล้องสี่ : เลนส์ MONO ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5 นิ้ว จุดหนาแน่นต่อพิกเซล 1.75µm

เป็นอย่างไรกันบ้างกับทั้งสองรุ่นที่หยิบยกมาเทียบความแตกต่างให้ทราบกัน หลักๆ เป็นเรื่องของสเปกประมวลผลและกล้อง กับจุดเด่นที่ต่างกัน 3 อย่าง ระหว่างรุ่นปกติและรุ่น Pro คือ มีระบบระบายความร้อน, การเชื่อมต่อ 5G+DUAL BAND WIFI, ระบบเสียงสเตอริโอมาตรฐาน Dolby ATMOS ส่วน OPPO ประเทศไทยจะนำมาวางจำหน่ายหรือไม่ มาแน่นอน เรื่องที่น่าตื่นเต้นคือ รองรับการใช้งาน 5G ทั้งสองรุ่น ในราคาไม่ถึงสองหมื่นบาทด้วย!

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

วันที่ : 31 ธันวาคม 2562

มือถือออกใหม่