Samsung Galaxy Buds+ อีกหนึ่งหูฟังไร้สายที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งเปิดตัวมาพร้อมกับ Samsung Galaxy S20 Series ด้วยจุดเด่นที่ไม่ธรรมดา ทั้งดีไซน์เรียบหรูกับฟีเจอร์ที่อัดแน่นมากขึ้น ทั้งในเรื่องของคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ การตัดเสียงรบกวนรอบข้าง เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การฟังที่เหนือไปอีกขั้น พร้อมทั้งแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 11 ชั่วโมง
Samsung Galaxy Buds+ เป็นหูฟังไร้สายแบบ True Wireless มีขนาดเล็กเหมาะกับใบหูของผู้ใช้งาน แต่ละข้างมีน้ำหนักประมาณ 6.5 กรัม ตัวจุกยางหูฟังมีความนุ่ม ใส่แล้วไม่รู้สึกว่ากดทับรูหู อีกทั้งมีจุกยางมาให้เลือก 3 ขนาด S, M, L เพื่อให้เหมาะสมของแต่ละบุคคล ไม่ลื่นหลุดง่าย สวมใส่สบาย ไม่ระคายเคือง
หูฟังด้านนอกมีผิวที่เรียบลื่นมันวาว รองรับการใช้งานระบบสัมผัสด้วยการแตะเบาๆ สามารถควบคุมการทำงานได้ ดังนี้
แตะ
แตะสองครั้ง
แตะสามครั้ง
แตะค้าง
ตัวหูฟังมีไมค์ตัดเสียงภายนอก 2 ตัว และไมค์ตัดเสียงรบกวนด้านในของตัวหูฟังอีก 1 ตัว ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง อีกทั้งยังให้ปลายสายรับเสียงสนทนาได้ดียิ่งขึ้น และด้านในของหูฟังยังมีจุดเชื่อมต่อกระแสไฟ 2 จุด รวมไปถึงอักษร L หรือ R เพื่อบ่งบอกว่าเป็นหูฟังข้าง ซ้าย,ขวา
ในส่วนของเคสชาร์จหูฟัง เป็นรูปทรงวงรีมีความโค้งมน ฐานเรียบแบนสามารถตั้งวางได้ พื้นผิวมันเงาดูเรียบหรู ด้านบนของฝาสกรีนข้อความ SAMSUNG Sound by AKG
ด้านหน้าเป็นไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ของเคสชาร์จ ส่วนด้านหลังเป็นพอร์ตแบบ USB Type C
เมื่อเปิดฝาของเคสออกมาจะพบช่องเสียบหูฟัง แยกเป็นซ้ายขวาตามสัญลักษณ์ L , R มีไฟแสดงสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ และในช่องใส่หูฟังมีแกนทองเหลืองไว้สำหรับเชื่อมต่อกระแสไฟ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
การเชื่อมต่อ
เมื่อต้องการเชื่อมต่อหูฟัง Samsung Galaxy Buds+ กับสมาร์ทโฟน ให้ทำการเปิดการใช้งาน Bluetooth > ค้นหา > เลือกที่ Galaxy Buds+ > กดเชื่อมต่อ เพียงเท่านี้ก็สามารถทำการเชื่อมต่อได้แล้ว
คุณภาพของเสียง
Samsung Galaxy Buds+ ถือเป็นหูฟังไร้สายเจนเนเรชั่นที่สองของ Samsung จึงได้มีการอัพเกรดคุณภาพเสียงด้วย 2 way Dynamic Speaker System ใช้ไดรเวอร์ขับเสียง Dynamics 2 ตัว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสียงใหม่ล่าสุด และออกแบบเสียงโดย AKG แบรนด์เครื่องเสียงชื่อดัง ทำให้เสียงที่ได้นั้นมีครบทุกมิติ ทำให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกเพลิดเพลินไปกับบทเพลงได้อย่างเต็มอรรถรส
แบตเตอรี่และการใช้งาน
หูฟัง Samsung Galaxy Buds+ แต่ละข้างมีแบตเตอรี่ความจุ 85mAh ส่วนแบตเตอรี่เคสชาร์จมีความจุ 270mAh ใช้งานได้ยาวนานถึง 22 ชั่วโมง แบ่งเป็นหูฟังปกติ 11 ชั่วโมง และชาร์จกับเคสได้อีก 11 ชั่วโมง ซึ่งทางแบรนด์ยังเคลมอีกว่าใช้ระยะเวลาชาร์จเพียง 10 นาที ก็ใช้งานได้นานกว่า 3 ชั่วโมง สามารถชาร์จด้วยสาย USB Type-C
นอกจากนี้ ยังชาร์จไร้สายผ่านฟีเจอร์ PowerShare ที่มีใน Samsung Galaxy S20 Series ได้อีก ทำได้โดยไปที่เมนูตั้งค่าด่วน เลือกที่เมนู Wireless PowerShare จากนั้นกดเพื่อเปิดการใช้งาน และนำอุปกรณ์ที่ต้องการชาร์จมาวางไว้ตรงกลางเครื่อง หากชาร์จสำเร็จจำขึ้นคำว่า Charging แต่แบตเตอรี่ต้องไม่ต่ำกว่า 30% นั่นเอง
ควบคุมการใช้งานง่าย ผ่านแอปพลิเคชั่น
Samsung Galaxy Buds+ สามารถทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Galaxy Wearable เพื่อตั้งค่าหูฟัง เช่น การแตะเพื่อควบคุมการใช้งาน, ระดับการตัดเสียงรบกวน, การปรับแต่งเสียงได้ตามต้องการ อาทิ นุ่ม, ไดนามิก, ชัดเจน, บูสต์เบส เป็นต้น อีกทั้งยังเช็คระดับแบตเตอรี่ของหูฟังแต่ละข้างภายในแอปพลิเคชั่นได้ด้วยนั่นเอง
Samsung Galaxy Buds+ วางจำหน่ายในราคา 4,990 บาทจะ โดยมีให้เลือก ด้วยกัน 3 สี คือ สีดำ(ที่รีวิว), สีน้ำเงิน และสีขาว วางจำหน่ายในวันที่ 16 มีนาคม 2563 เฉพาะที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการเท่านั้น
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 15 มีนาคม 2563
Samsung LPDDR5X RAM แรงทุบสถิติโลก 10.7Gbps เน้นใช้งานร่วมกับ AI เต็มรูปแบบ
CASETiFY คอลเลกชั่นใหม่ Essentials by CASETiFY น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้
เตรียมเปิดตัว Samsung Galaxy Watch FE สมาร์ทวอทช์ราคาย่อมเยาในปีนี้
Exynos 1480 ชิปเซ็ตระดับกลางตัวใหม่จาก Samsung ประสิทธิภาพแรงขึ้น ประหยัดพลังงาน และรองรับฟีเจอร...
ไม่พลาดทุกโมเมนต์สำคัญ ด้วยกล้องสมาร์ทโฟนสุดทรงพลังจาก Galaxy S24 Series
MOMENTUM Sport หูฟังไร้สาย ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิไปพร้อมเสียงเพลง
Mercedes-Benz แนะนำ 5 ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า สำหรับรถอีวีและและปลั๊กอินไฮบริด
vivo T3 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอ AMOLED 120Hz มีกล้องความละเอียดสูงสุด 50MP กันสั่น OIS
moto Buds และ moto Buds+ หูฟังไร้สายดีไซน์มินิมอล ราคาสบายกระเป๋า มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC
Nothing Ear และ Nothing Ear (a) ประกาศวันเปิดตัว มีการรีเซ็ตชื่อ และมาด้วยกัน 2 รุ่น
vivo V40 SE 5G เต็มตากับจอ AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ได้ชิปเซ็ต Snapdragon 4 Gen 2
HONOR X7b 5G ขยับใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6020 จุใจด้วยกล้องระดับ 108MP8 ชั่วโมงที่แล้ว
HUAWEI nova 12 Series สมาร์ทโฟนกล้องสวยระดับ Hi-res แชะชัดทุกชอต13 ชั่วโมงที่แล้ว
CASETiFY คอลเลกชั่นใหม่ Essentials by CASETiFY น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้24 ชั่วโมงที่แล้ว