หลังจากรอคอยกันมานานก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ยังให้กล้องถ่ายรูปแบบจัดเต็ม พร้อมพัฒนาร่วมกับกับแบรนด์เคียงบ่าเคียงไหล่อย่าง Leica เช่นเคย โดย Huawei ครั้งนี้ได้เปิดตัวด้วยกัน 2 รุ่นคือ Huawei P50 Pro และ Huawei P50 ซึ่งทั้ง 2 รุ่น จะไม่รองรับสัญญาณ 5G
การดีไซน์ของ Huawei P50 Series
Huawei P50 Series มีการเปลี่ยนแปลงหน้าจอเป็นดีไซน์รอยแหว่งขนาดเล็ก และ Huawei P50 Pro จะเป็นจอโค้ง ส่วน Huawei P50 จะไม่โค้ง ในขณะที่โมดูลกล้องหลัง จะเป็นดีไซน์เหมือนภาพที่หลุดออกมาก่อนหน้า โดยมีวงแหวนวงกลมแบ่งเป็น 2 อัน นอกจากนี้ Huawei P50 Pro จะมีรุ่นพิเศษ Collector Edition ซึ่งตัวเครื่องทั้งด้านหน้า และด้านหลังจะใช้วัสดุ Nano Crystalline ที่ทนแรกกระแทกได้ดีขึ้น ทั้งหมดทุกรุ่นจะได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
สเปคของ Huawei P50 Pro
ประเดิมด้วยจุดเด่นหลักอย่างกล้องถ่ายรูป โดย Huawei P50 Pro ยังมีการร่วมพัฒนากับแบรนด์ Leica ถูกติดตั้งมาด้วยกัน 4 เลนส์ มีการทำงานร่วมกับ AI ตามเคย สามารถซูมได้สูงสุด 100 เท่า และมาพร้อมระบบ XD Fusion Pro ช่วยให้รับแสงได้มากขึ้น เพื่อเพิ่ม Dynamic range ถึง 28% ส่วนการถ่ายวิดีโอจะบันทึกด้วยความละเอียดสูงสุด 4K
Huawei P50 Pro มาพร้อมหน้าจอโค้งพาแนล OLED กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2700x1228 พิกเซล ความหนาแน่น 450ppi อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz อัตราการตอบสนอง 300Hz และมีความถี่สูง PWM Dimming ระดับ 1440Hz ทำให้แสดงภาพได้สวย พร้อมกับการถนอมสายตา
สเปคภายในสำหรับ Huawei P50 Pro จะมีให้เลือกระหว่างชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 และ Kirin 9000 รองรับสัญญาณ 4G เท่านั้นทั้ง 2 รุ่น มีตัวเลือก RAM + ROM สูงสุด 12GB+512GB สามารถเพิ่ม NM Memory card สูงสุด 256GB ด้านระบบปฏิบัติการจะใช้เป็น HarmonyOS 2.0 ซึ่งเป็นระบบของ Huawei เอง (ไม่ง้อ Android แล้ว) ทำให้เป็นมิตร และใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นของ Huawei ได้สะดวก ต่อมาเป็นระบบเสียงลำโพงคู่ Stereo และมีแบตเตอรี่ขนาด 4,360mAh สนับสนุนชาร์จผ่านสายสูงสุด 66W และไร้สาย 50W
Huawei P50 Pro มีตัวเลือกสี 4 สีคือ สีดำ, สีทอง, สีขาว, สีชมพู และสีท้องฟ้า
สเปคของ Huawei P50
Huawei P50 จะเป็นกล้องหลัง Leica เช่นกัน แต่ถูกติดตั้งมา 3 เลนส์ และถือว่าเป็นรุ่นไม่ Pro ครั้งแรกที่มาพร้อมเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP สามารถซูมแบบ Optical ได้ถึง 5 เท่า และซูมได้สูงสุด 50 เท่า รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 13MP
หน้าจอแสดงผลไม่โค้ง พาแนล OLED กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2700x1224 พิกเซล อัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz การตอบสนอง 300Hz และมีความถี่สูง PWM Dimming ที่ 1440Hz
สำหรับชิปเซ็ต Huawei P50 จะมีให้เลือกเพียง Qualcomm Snapdragon 888 เพียงอย่างเดียว และรองรับสัญญาณ 4G เท่านั้น รันบนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0 ได้ระบบเสียงลำโพงคู่ Stereo และใส่แบตเตอรี่มาขนาด 4,100mAh สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสายสูงสุด 66W ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย
ในเรื่องของราคา Huawei P50 จะเริ่มต้นที่ 4,488 หยวน หรือประมาณ 23,000 บาท มีตัวเลือกสี 3 สีคือ สีดำ, สีทอง และสีขาว
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.gizmochina.com วันที่ : 31 กรกฎาคม 2564
HUAWEI nova 13 และ 13 Pro ชาร์จเร็วระดับ 100W ได้กล้องหน้ามุมกว้าง 60MP
แตกต่างอย่างไร Samsung Galaxy A16 4G vs Samsung Galaxy A16 5G เข้าไทยเร็วๆ นี้
รีวิว Xiaomi 14T Pro โดดเด่นด้วย Leica Summilux Optical Lens สเปคแรง Dimensity 9300+
Infinix Hot 50 4G ขุมพลัง Helio G100 ได้หน้าจอ 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+
รีวิว Xiaomi 14T กล้อง Leica ระดับมืออาชีพ ขุมพลัง Dimensity 8300-Ultra เสริม Advanced AI ครอบคลุ...
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging
ลือ! iPhone 17 และ iPhone 17 Air ยังไม่มีซูม Optical 5x ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะรุ่น Pro
OPPO Reno 13 Series ชิปเซ็ต Dimensity 8350 กันน้ำกันฝุ่น IP69 และชาร์จเร็ว 80W!
สรุปจุดเด่นและสเปค OPPO Pad 3 Pro หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ลำโพง 8 ตัว แบตฯ 9510mAh
Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกรันบน HyperOS 2 หน้าจอสี่เหลี่ยม AMOLED กว้าง 2.07 นิ้ว