แก็ดเจ็ต (Gadget) | วันที่ : 4 สิงหาคม 2564
Counterpoint Research คาดการณ์ว่าในปี 2021 ยอดการจัดส่งหูฟังไร้สาย หรือ TWS ทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 33 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (ซึ่งปีที่แล้วยอดก็โตถึง 78 เปอร์เซ็นต์!) โดยบอกว่ายอดจัดส่งทั่วโลกจะอยู่ที่ราว 310 ล้านชิ้น ทุกค่ายก็จัดเต็มปล่อยโปรดักต์ใหม่ๆ ออกมาจนทำให้ทุกวันนี้ สามารถหาซื้อหูฟังไร้สายคุณภาพดี ได้ในราคาสมเหตุสมผลกัน เชื่อว่าต้องมีหลายคนที่เล็งจะเป็นเจ้าของหูฟัง 1 ใน 310 ล้านชิ้นที่จะขายออกปีนี้ วันนี้มีเช็คลิสต์คุณสมบัติหูฟังไร้สายที่สวมใส่สบายแต่เสียงดี มาแนะนำให้พิจารณากันก่อน
ดีไซน์แบบ Open-Fit ให้สวมใส่สบาย น้ำหนักเบา ออกแบบตามหลักการยศาสตร์
ประการแรกที่ต้องตัดสินใจคงหนีไม่พ้นว่าถนัดใส่หูฟังแบบอินเอียร์ที่มีจุกซิลิโคนมาให้ หรือแบบ Open-Fit ที่เน้นความสบายในการสวมใส่ ซึ่งถ้าใครที่ใช้หูฟังบ่อย บอกเลยว่าเลือกแบบ Open-Fit ไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะสวมใส่เบาสบายหูตลอดวัน และยังได้ยินสัญญาณแจ้งเตือนสำคัญรอบตัว นอกจากนี้ การออกแบบตามหลักการยศาสตร์โดยคำนึงถึงประสบการณ์ผู้ใช้ ถือว่าสำคัญมากจริงๆ ในการออกแบบหูฟังสักชิ้น เพราะแน่นอนว่าแต่ละคนมีลักษณะใบหูไม่เหมือนกัน ลักษณะการสวมใส่ก็ต่างกัน แถมหูฟังแบบ Open-Fit ไม่มีจุกซิลิโคนที่จะมารับกับสรีระใบหู ดังนั้น การออกแบบจึงต้องอาศัยทีมวิจัยและพัฒนาที่ค้นคว้าอย่างเข้มข้น ยกตัวอย่างการออกแบบ Huawei FreeBuds 4 ทีมวิจัยและพัฒนาต้องรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้จริงในจีนกว่า 10,000 รายที่อายุ เพศ และน้ำหนักส่วนสูงแตกต่างกัน มาวิเคราะห์เพื่อหาจุดร่วมจุดต่าง เพื่อให้ได้ดีไซน์ของหูฟังที่ universal สำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด เป็นไปตามหลักการยศาสตร์ ทำให้ได้หูฟังที่ลดแรงกดบริเวณหูชั้นนอกได้ เพราะปรับองศาให้จุดศูนย์ถ่วงเอียงเข้าด้านในหูไว้แล้ว แถมน้ำหนักเบาเพียงข้างละ 4.1 กรัม ดังนั้นจึงยังสวมใส่กระชับสบายหู แม้ต้องใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน
ความสามารถการตัดเสียงรบกวนรอบข้าง เพราะต่อให้เป็นหูฟัง Open-Fit สมัยนี้ก็ทำได้แล้ว
ปัญหาโลกแตกของคนชอบหูฟังที่เสียงแบบ immersive เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของดนตรีโดยปราศจากเสียงรบกวนภายนอก แต่ใส่หูฟังอินเอียร์นานๆ ก็อึดอัด จะเลือกแบบครอบหูก็พกไม่สะดวกนัก นั่นทำให้หัวเว่ยคิดค้นเทคโนโลยีที่เรียกว่า AEM หรือ “Adaptive Ear Matching” ร่วมกับเทคโนโลยี ANC 2.0 มาใช้ในหูฟังแบบ Open-Fit ที่สวมใส่สบาย โดยจะสามารถวิเคราะห์ลักษณะใบหูและลักษณะการสวมใส่หูฟังของผู้ใช้ได้ แล้วปรับจูนการตัดเสียงรบกวนให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคนโดยอัตโนมัติ เทคโนโลยีนี้ได้นำมาใช้กับฟังรุ่นล่าสุดของหัวเว่ยอย่าง Huawei FreeBuds 4 เป็นรุ่นแรก ทำให้ตัดเสียงรบกวนได้สูงสุด 25 เดซิเบล แม้จะไม่ใช่อินเอียร์ก็ตาม โดยการตัดเสียงรบกวนในระดับนี้จะทำให้ไม่ได้ยินเสียงแอร์ เสียงพัดลม หรือเสียงพูดคุยแบบห่างๆ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะจบปัญหาโลกแตกของคนที่ต้องการหูฟังตัดเสียงรบกวน แต่ไม่ชอบหูฟังแบบอินเอียร์
ขนาดไดรเวอร์และวัสดุที่เลือกใช้ในส่วนประกอบหูฟัง
ไดรเวอร์ คือ ตัวขับเสียงสำคัญที่จะตัดสินว่าหูฟังจะให้เสียงที่หนักแน่นทรงพลังได้มากน้อยเท่าใด ไดรเวอร์ขับเสียงในระดับที่แนะนำคือควรจะมีขนาด 10 มิลลิเมตรเป็นอย่างน้อย และถ้าต้องการเสียงเบสที่หนักแน่นทรงพลังขึ้นไปอีกระดับ ก็แนะนำไดรเวอร์ขนาด 14 มิลลิเมตรขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นขนาดใหญ่สำหรับหูฟัง TWS นอกจากนี้ อีกประเด็นสำคัญซึ่งเป็นที่ขบคิดของแบรนด์ต่างๆ ก็คือวัสดุที่จะเลือกใช้ในไดอะแฟรม (Diaphragm) ซึ่งโดยธรรมชาติควรใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่เต็มคุณภาพ สำหรับรุ่นล่าสุดอย่าง Huawei FreeBuds 4 ทีมวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ยเลือกใช้ไดอะแฟรมที่มีส่วนประกอบของพอลิเมอร์ผลึกเหลว (LCP) ซึ่งมีความยืดหยุ่นและทนทานสูง รวมถึงรองรับการตอบสนองย่านความถี่สูงสุด 40 kHz
สุดท้ายสำคัญมาก เสียงต้องไม่ดีเลย์ หรือถ้าจับคู่กับทั้งสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อปได้พร้อมกัน 2 เครื่องได้ก็ยิ่งดี
อีกหนึ่งความท้าทายของหูฟังไร้สายคือใช้แล้วภาพและเสียงต้องไปด้วยกัน แม้ว่าแวดวงหูฟังไร้สายพัฒนามาไกลแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาให้ดีก่อนเลือกซื้อหูฟังสักชิ้น เพราะถ้าลงทุนซื้อของแพงไปแต่เอามาใส่เล่นเกมหรือดูซีรีส์ แล้วภาพกับเสียงเหลื่อมกันเกินรับได้นี่ก็เสียอรรถรสอีก หัวเว่ยคำนึงถึงจุดนี้ดีจึงมีโหมด Low Latency มาให้ ซึ่งจะทำให้ค่าความหน่วงต่ำกว่า 150 มิลลิวินาที หรือแทบไม่ดีเลย์เลยนั่นเอง ดังนั้น ก่อนเลือกหูฟังอาจต้องลองดูสเปกกันให้ละเอียดว่าค่าความหน่วงของหูฟังอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อสร้างอรรถรสของเอง นอกจากนี้ ถ้าหูฟังเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์ได้มากกว่า 1 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน เช่น ต่อไว้กับแล็ปท็อปและสมาร์ทโฟนในเวลาเดียวกัน จะทำให้ไม่ต้องคอยกดสลับอุปกรณ์ให้วุ่นวาย ถ้าเกิดว่านั่งดูคอนเทนต์บันเทิงหรือประชุมอยู่ แล้วมีสายเรียกเข้า หูฟังอย่าง Huawei FreeBuds 4 รวมถึงแกดเจ็ตรุ่นล่าสุด อีกหลายชิ้นของหัวเว่ยก็จะสามารถรู้ได้เองว่าจะต้องสลับมารับเสียงจากอุปกรณ์ชิ้นไหนก่อน ข้อนี้จะทำให้เข้าใจได้เลยว่าการมีเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ไร้รอยต่อนั้นสะดวกสบายแค่ไหน
เล่ามาถึงตรงนี้หวังว่าเช็คลิสต์จะตรงใจกับหูฟังที่เลือกไว้ แต่ถ้าหากไม่ตรงเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน หรือหากใครสนใจหูฟัง Huawei FreeBuds 4 สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้แล้ววันนี้ที่ HUAWEI Online Store
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 4 สิงหาคม 2564
พรีวิว HUAWEI nova 12i ถ่ายภาพเต็มอิ่มกับกล้อง 108MP ใช้งานแอพฯ Google ได้ปกติ
มือถือใหม่ 2024 มือถือใหม่ 2567 มือถือราคาประหยัด 2024 ใช้มือถือรุ่นไหนดี
บอกต่อโปรดี HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition ที่ Shopee
4.4 นี้ เตรียมกดซื้อ HUAWEI WATCH FIT Special Edition ราคาเริ่มต้นเพียง 1,xxx
vivo TWS 4 หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน ANC ใช้นานสุดได้ถึง 11 ชั่วโมง
รีวิว HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition ป้องกันสายตา บอกลาแสงสะท้อน ตอบโจทย์ทุกเจนเนอเรชั่น ...
Nothing Ear และ Nothing Ear (a) ประกาศวันเปิดตัว มีการรีเซ็ตชื่อ และมาด้วยกัน 2 รุ่น
motorola edge 50 Pro หน้าจอ pOLED 6.7 นิ้ว ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 ชาร์จเร็ว 125W
vivo V40 SE 5G เต็มตากับจอ AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ได้ชิปเซ็ต Snapdragon 4 Gen 2
Neta V-II เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย! ดีไซน์ใหม่ สเปคครบ ราคาเริ่มต้น 5.49 แสนบาท
vivo TWS 4 หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน ANC ใช้นานสุดได้ถึง 11 ชั่วโมง
Sennheiser MOMENTUM True Wireless 4 เอียร์บัดรุ่นเรือธง กับฟีเจอร์และเทคโนโลยีเพื่อเหล่าออดิโอไฟล์