สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 12 สิงหาคม 2564

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Galaxy Unpacked 2021 ครั้งที่ 2 ได้ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับค่ำคืนของวันที่ 11 สิงหาคม (ตามเวลาประเทศไทย) กับการเปิดตัวดีไวซ์ใหม่ของทาง Samsung โดยไฮไลท์เด็ดของทางค่ายในครั้งนี้คือ Galaxy Z Fold 3 และ Galaxy Z Flip 3 สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพชั้นเยี่ยมและความสามารถแบบครบครัน นอกจากนั้นแล้วยังได้เปิดตัวหูฟังไรสายรุ่นใหม่ Galaxy Buds 2 และยังมีนาฬิกาอัจฉริยะ Galaxy Watch 4 ซึ่งแต่ละสมาร์ทดีไวซ์จะมีไฮไลท์เด่นอะไรบ้างไปชม

 

Samsung Galaxy Z fold 3 (5G)

สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาบนหน้าจอแบบพับได้ดีไซน์พรีเมี่ยม ด้วยวัสดุแบบ Armor Aluminum  ที่แข็งแรง ทนทาน และมีน้ำหนักเบา ผสมผสานเข้ากับหน่วยประมวลผล 5nm สุดแรงที่ถูกอัพเกรดทั้ง GPU, CPU, NPU และ RAM 12GB จึงทำให้มีประสิทธิภาพเหลือล้นที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความเร็วของคุณได้อยู่เสมอ พร้อมเป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนจอพับได้รองรับปากกา S Pen

สำหรับ Samsung Galaxy Z Fold 3 (5G) จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลด้านนอกขนาดใหญ่ขนาด 6.2 นิ้ว และจอแสดงผลหลักแบบ Infinity Flex Display ขนาด 7.6 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรท 120Hz สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมกับกล้องหลักถึง 3 ตัวและกล้องหน้า 2 ตัว รองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูงแบบ 5G พร้อมรองรับ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจที่ 4,400mAh พร้อมรองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX8

ราคาในรุ่นเริ่มต้นของ Samsung Galaxy Z Fold 3 (5G) อยู่ที่ 57,900 บาท มีให้เลือก 3 สี (Phantom Black, Phantom Green, Phantom Silver) เปิดให้จองตั้งแต่วันนี้จนถึง 22 ส.ค. 64

 

Samsung Galaxy Z flip 3 (5G)

สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หน้าจอพับได้ขนาดกระทัดรัด ที่สามารถพับไว้ในกระเป๋าเสื้อ พกไว้ในกระเป๋าถือ หรือใส่ใว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์สกินนี่ได้ พร้อมกับดีไซน์อันน่าดึงดูดและสีที่จะทำให้ทุกคนต้องเหลียวมามองคุณ แรงล้ำด้วยหน่วยประมวลผล 5nm สุดแรงที่ถูกอัพเกรดทั้ง GPU, CPU, NPU และ RAM 8GB ใช้งานได้อย่างลื่นไหลตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกสไตล์ อีกทั้งแข็งแรงทนทานด้วยอะลูมิเนียมที่แข็งแกร่งและกระจกป้องกันร้อยชีดข่วยแบบ Gorilla Glass

สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 3 (5G) จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลด้านนอกขนาดใหญ่ขนาด 1.9 นิ้ว และจอแสดงผลหลักแบบ Infinity Flex Display ขนาด 6.7 อัตรารีเฟรชเรท 120Hz สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมติดตั้งกล้องมาให้ใช้งานทั้งหมด 3 ตัว รองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูงแบบ 5G พร้อมรองรับ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจที่ 3,300mAh พร้อมรองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX8

ราคาในรุ่นเริ่มต้นของ Samsung Galaxy Z Flip 3 (5G) อยู่ที่ 34,900 บาท มีให้เลือก 4 สี (Phantom Black, Cream, Green, Lavender) และสีพิเศษอีก 3 สี (Gray, White, Pink) เปิดให้จองตั้งแต่วันนี้จนถึง 22 ส.ค. 64

 

Galaxy Buds 2

สุดยอดหูฟังไร้สายคุณภาพเยี่ยมที่ถูกปรับโฉมดีไซน์ใหม่ให้สวยงามและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น นอกจากด้านดีไซน์ยังมีคุณภาพเสียงชั้นเยี่ยมด้วยเสียงเบสที่หนักแน่นและเสียงสูงที่คมชัดกับวูฟเฟอร์ขนาดและทวีตเตอร์ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การฟังเพลงได้อย่างเต็มอรรถรส มีไมโครโฟนถึง 3 ตัวพร้อมด้วยเทคโนโลยี Voice Pickup Unit (VPU) สามารถแยกเสียงสนทนาออกจากเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบตัดเสียงรบกวนแบบเต็มรูปแบบ (Active Noise Canceling) สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้สูงสุดถึง 98% และนอกจากนี้ยังฟีเจอร์ Auto Switch ช่วยหยุดเสียงเพลงเพื่อสลับไปรับสายโทรศัพท์ ให้โดยอัตโนมัติ บนตัวเครื่องน้ำหนักเบาเพียง 5กรัม แต่สามารถใช้งานได้ยาวถึง 5 ชม. หากใช้คู่กับเคสจะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ชม. เลยทีเดียว

ราคาเปิดตัว Galaxy Buds 2 จะอยู่ที่ 3,900 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 4 สี (White, Lavender), Graphite, Olive)

 

Galaxy Watch4 series

นาฬิกาอัจฉริยะที่มาพร้อมกันขนาดหน้าปัด 40 มม. 44 มม. และ 46 มม. ติดตั้งฟีเจอร์การใช้งานด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมาให้อย่างเต็มรูปแบบด้วยเซนเซอร์ BioActive ที่สามารถวัดองค์ประกอบของร่างกายได้ด้วยวิธีที่สะดวกสบาย ทราบเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย มวลกล้ามเนื้อ ปริมาณน้ำในร่างกาย และอื่น ๆ  ได้อีกมาก นอกจากนี้ Galaxy Watch 4 ที่เป็นสมาร์ทวอตช์เรือนแรกที่ใช้ Wear OS ของ Samsung ทำให้สามารถเข้าใช้งานแอปฯ โปรดต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีสะดุดจากบนข้อมือ

สำหรับ Galaxy Watch 4 Series เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกที่ใช้ชิปเซ็ตแบบ 5nm ทำให้ CPU เร็วขึ้น 20% หน่วยความจำหลัก (RAM) เพิ่มขึ้น 50% และหน่วยประมวลกราฟฟิก (GPU) แรงขึ้น 10 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้สามารถเลื่อนหน้าจอได้อย่างลื่นไหล พร้อมทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้แบบไม่มีสะดุด บนหน่วยความจำขนาด 16GB ที่ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน พร้อมจัดเก็บเพลงและภาพได้มากเท่าที่ต้องการ

ราคาเปิดตัวของ Galaxy Watch 4 จะเริ่มต้นที่ 7,990 บาท (หน้าปัดขนาด 40 มม.) และ Galaxy Watch 4  classic จะเริ่มต้นที่ 11,900 บาท (หน้าปัดขนาด 46 มม.)

ปิดท้ายด้วยการเผยวิสัยทัศน์ Galaxy for the Planet ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของซัมซุงในการดำเนินธุรกิจพร้อมวางแผนวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ที่สร้างความยั่งยืนให้กับโลก ด้วยการตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และลดการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึงการกำจัดผลิตภัณฑ์ให้เกิดขึ้นภายในปี 2025 โดยมีแผนการที่วางไว้ อย่างการเปลี่ยนมาใช้วัสดุรีไซเคิลที่มีทั้งความแข็งแกร่ง สวยงาม และทนทานเพื่อผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ การเลิกใช้พลาสติกในการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์สมาร์ทโฟนอย่างสิ้นเชิง การลดการใช้พลังงานโหมดแสตนด์บายของที่ชาร์จให้เหลือต่ำกว่า 0.005 วัตต์ และการลดขยะอิเลคโทรนิคส์ให้เหลือศูนย์ ผ่านการริเริ่มโปรแกรม Galaxy Upcycling, Certified Re-Newed และ Trade-In เป็นต้น

ข้อมูลจาก: Samsung

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่