Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) หูฟังเกมมิ่ง ANC เพิ่มไฟ RGB เชื่อมต่อเร็วด้วย Google Fast Pair

เว้นว่างไปถึง 2 ปีกับหูฟังไร้สาย Razer Hammerhead True Wireless จนล่าสุดได้ปล่อยรุ่นที่ 2 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยเอาใจสายเล่นเกมมากขึ้นด้วย Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) ซึ่งมาครั้งนี้ปรับโฉมทั้งตัวเคส และหูฟังที่เป็นแบบ In-Ear เต็มรูปแบบ พร้อมเพิ่มฟีเจอร์มากมายทั้ง การตัดเสียงรบกวน ANC, แสงไฟ RGB, ความอึดของแบตเตอรี่ และเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วด้วย Google Fast Pair กับ Bluetooth 5.2 ทีนี้มาดูการใช้งานจริงดีกว่าว่า Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) จะดีพอสมกับการรอคอยมา 2 ปีหรือไม่

การดีไซน์
จากเดิมตัวเคสจะเป็นแบบเก็บหูฟังแนวนอน แต่ Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) มีการปรับโฉมใหม่ เป็นเคสแบบสี่เหลี่ยมขอบมนรอบด้าน เก็บหูฟังในรูปแบบแนวตั้ง และมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น

ส่วนตัวหูฟังยังเป็นแบบหูฟังไร้สาย TWS แยก 2 ข้างซ้ายขวา และเป็นหูฟังแบบมีก้านยาวลงมา มีน้ำหนักเพียง 53 กรัม ที่สำคัญถูกปรับเปลี่ยนเป็น In-Ear แบบเต็มสูบ พร้อมจุกหูฟังแบบซิลิโคนเพื่อการสวมใส่ที่กระชับมากขึ้น (มีให้ปรับเปลี่ยน 3 ขนาด) จากเดิมจะเป็นแบบ Half In-Ear ไม่มีจุกซิลิโคน ทั้งนี้ด้านข้างหูฟังยังมีโลโก้ Razer ที่เป็นรูปงู โดยตรงนี้เป็นแสงไฟ RGB สวยงาม

การเชื่อมต่อรวดเร็วด้วย Google Fast Pair
Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) มาพร้อมระบบการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Google Fast Pair ทำให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android ได้อย่างรวดเร็ว เพียงเปิดฝาเคส และนำหูฟังออกมาใส่ไว้ที่หู จากนั้นจะมีหน้าต่างๆ Pop-Up เด้งขึ้นมาให้เชื่อมต่อทันที แต่จากที่ทดสอบบางทีก็ไม่เด้งขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็แนะนำให้เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ Android ไว้ก่อน
**** ต้องเป็นอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไป ****

ส่วนระบบปฏิบัติการ iOS ก็สามารถเชื่อมต่อได้อยู่ แต่ไม่มีรูปแบบ Pop-Up โดยเป็นการเชื่อมต่อแบบ Pair Mode ในการตั้งค่า Bluetooth ปกติ ส่วนวิธีการเชื่อมต่อให้ดึงหูฟังออกจากเคสใส่ไว้ที่หู และรอซักระยะจะได้ยินเสียง Pair  จากนั้นจะเห็นชื่อ Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) ให้เชื่อมต่อในการตั้งค่า Bluetooth

ระบบเสียงฟังได้ทุกแนว เล่นเกมดีเลย์เสียงน้อยมาก
แน่นอนว่าเป็นหูฟัง เรื่องของระบบเสียงต้องเป็นสิ่งแรกที่ขาดไม่ได้ ซึ่ง Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) ก็ทำออกมาได้ดีที่เดียว สามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบ โดยมีไดร์เวอร์เสียงขนาด 10 มิลลิเมตร พร้อมการส่งสัญญาณที่เสถียรจากระบบ Bluetooth 5.2 รวมไปถึง Game Mode ที่ช่วยลดการดีเลย์ของเสียงในขณะเล่นเกมอย่างยอดเยี่ยม โดยทำได้ถึง 60ms

• เล่นเกม : สำหรับ Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) ที่เป็นหูฟังสำหรับเล่นเกม ทำให้ใช้งานระหว่างเล่นเกมย่อมมีประสิทธิภาพสูง เสียงตรงดีเลย์น้อย และยังให้เสียงที่ชัดอย่างเช่น เสียงฝีเท้า, เสียงปืน และเสียงระเบิดเป็นต้น โดยทั้งหมดต้องอย่าลืมเข้าไปเปิดโหมด Game Mode ในแอพฯ Razer Audio เสียก่อน

• ดูหนัง : การดูหนังซีรี่ย์ใช้งานได้แบบสบายๆ เสียงไม่มีดีเลย์ และมีเสียงคนพูดที่ชัด

• ฟังเพลง : ด้านการฟังเพลงตามความรู้สึก สามารถใช้ฟังเพลงได้ทุกแนว เสียงเบสแน่นแต่ไม่ถึงกับตึงหู และมีการแบ่งเครื่องดนตรีต่างๆ ได้ดี

ระบบตัดเสียงรบกวน ANC และ Ambient Mode
แน่นอนว่า Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) เป็นหูฟังไร้สาย TWS รุ่นใหม่ก็ต้องไม่หลุดเทรนด์ ซึ่งทาง Razer ก็ได้ใส่ระบบตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancellation) มาด้วย เมื่อเปิดใช้งานก็จะเข้าสู่โหมดโลกส่วนตัวได้สบายๆ และยังมี Ambient Mode ที่ช่วยให้ฟังเสียงคนรอบข้างได้ชัดเจนขึ้น แบบไม่ต้องถอดหูฟังออกเลย

จากที่ทดสอบใช่งานจริง เวลาเปิดโหมด ANC ก็มีการตัดเสียงรบกวนได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการตัดเสียงลม และเสียงที่ไม่พึ่งประสงค์มากกว่า ไม่ถึงกับเงียบสนิทจนได้ยินรอบข้างเลย ส่วนการใช้งาน Ambient Mode ก็ได้ยินเสียงคนรอบข้างชัดขึ้น แต่อาจจะต้องปิดเสียงเพลงก่อนถึงจะได้ยินคนที่พูดด้วยชัดเจน

มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนในตัว
ภายในหูฟัง Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) ทั้ง 2 ข้าง จะมีไมโครโฟนในตัว และมีระบบตัดเสียงรบกวนสำหรับไมโครโฟนที่ชื่อว่า ENVIRONMENTAL NOISE CANCELLING หรือ ENC ซึ่งจะช่วยตัดเสียงพื้นหลังที่มารบกวนอย่างเช่น เสียงลม เป็นต้น

ปรังแต่งผ่านแอพฯ Razer Audio
Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) สามารถปรับแต่งได้ง่ายขึ้นผ่านแอพฯ Razer Audio โดยดาวน์โหลดได้จาก App Store และ Google Play Store สำหรับ Razer Audio จะมีให้ปรับแต่งทั้ง การเปิดปิด ANC, การปรับแต่งควบคุมสัมผัส, Smart Link ที่ไว้เข้าสู่ Game Mode และที่สำคัญคือปรับแต่ง Equalizer ที่จะช่วยจูนเสียงได้ตามใจชอบ หรือจะตั้งค่าตามที่กำหนดไว้ก็ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ภายในแอพฯ Razer Audio ยังสามารถดูแบตเตอรี่ของหูฟังแต่ละข้าง รวมไปถึงใช้อัปเดตซอฟแวร์จากภายในแอพฯ ได้เลย

สั่งการด้วยการสัมผัสข้างหูฟัง
การสั่งการสามารถสั่งการได้จากบริเวณข้างหูฟัง (ตรงโลโก้ Razer) ซึ่งเป็นการสั่งการแบบสัมผัส และแยกรูปแบบการสั่งการเป็น 2 แบบคือ ขณะใช้งานเสียงปกติ และขณะรับสายโทรศัพท์ โดยทั้งหมดจะมีการตั้งค่าตั้งต้นไว้อยู่แล้วตามรูปด้านล่าง แต่หากต้องการปรับแต่งเองก็ให้เข้าไปที่แอพฯ Razer Audio และเมนู Remap

ประสบการณ์แสงไฟ RGB ด้วย Razer Chroma RGB
เรียกว่าไม่เสียงชื่อความเป็นแบรนด์ Razer เพราะจุดขายของพวกเขาคือแสงไฟ Razer Chroma RGB ที่ให้แสงสีที่ครบสดใส ส่วนการปรับแต่งต้องดาวน์โหลดแอพฯ Chroma RGB มาใช้งาน ซึ่งภายในแอพฯ จะมีให้เลือกสีแบบ RGB ครบทุกสี และสามารถเลือกรูปแบบการกระพริบของแสงไฟได้ นอกจากนี้ยังสามารถเซฟสีที่ถูกใจ และปรับความสว่างได้อีกด้วย

แบตเตอรี่
เรื่องของแบตเตอรี่ Razer Hammerhead True Wireless (2nd Gen) มีการปรับปรุงแบตเตอรี่ที่อึดมากขึ้น โดยสามารถใช้งานได้สูงสุดรวม 32.5 ชั่วโมง แบ่งเป็นตัวหูฟัง 6.5 ชั่วโมง และตัวเคสอีก 26 ชั่วโมง ตรงนี้จะเป็นการปิดแสงไฟ RGB และปิดระบบ ANC พร้อมปรับระดับเสียงที่ 50%

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  5 เทคนิคดีๆ ในการเลือกซื้อเตาอบไฟฟ้าใช้ในบ้าน
• 
  Tecno POVA 6 และ POVA 6 Neo เน้นแบตเตอรี่ใหญ่จุใจ หน้าจอ 120Hz พลังเสียง Dolby Atmos

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่