LINE ส่งโซลูชั่นใหม่ MyCustomer ใช้ DATA พัฒนาธุรกิจ พิชิตใจ

บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับเครื่องมือใหม่จาก LINE อย่าง MyCustomer ที่พัฒนามาเพื่อเสริมประสิทธิภาพของ LINE Official Account หรือ LINE OA สำหรับกลุ่มธุรกิจองค์กรใหญ่ที่เน้นการบริหารจัดการ First Party Data โดยเฉพาะ

ทำให้แบรนด์รู้จัก เข้าใจ และนำข้อมูลของผู้ซื้อที่ได้ ไปวิเคราะห์ ต่อยอด สร้างสรรค์การสื่อสาร แคมเปญการตลาดที่แม่นยำ โดนใจผู้ซื้อ เป็นการเชื่อมโยงดาต้าเทคโนโลยีเข้ากับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ซื้อได้อย่างกลมกลืน ด้วย 3 สิทธิประโยชน์ ช่วยให้แบรนด์รู้จักผู้ซื้อได้ดียิ่งขึ้น

เก็บข้อมูลโดยตรงจากผู้ซื้อ (First Party Data Collection)

การเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถามหรือแบบสำรวจ Survey ช่วยให้แบรนด์สามารถเก็บข้อมูลเชิงลึกจากผู้ซื้อได้โดยตรง เพื่อนำไปวิเคราะห์ พัฒนาสู่การสื่อสาร การทำการตลาดเฉพาะบุคคล ซึ่งระบบได้ออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน แบรนด์สามารถตั้งคำถามและจัดการแบบสอบถามเองได้ตามต้องการโดยไม่จำกัด พร้อมจุดเด่นของแบบสอบถามใน MyCustomer ที่ผู้ซื้อสามารถกลับเข้ามาอัพเดทปรับเปลี่ยนข้อมูลความชอบ ความสนใจของตนเองได้ตลอดเวลา ทำให้แบรนด์ได้ดาต้าที่อัพเดท เรียลไทม์ และแม่นยำ

นอกจากนี้ แบรนด์ยังสามารถสร้างสติกเกอร์เซตเพื่อตอบแทนให้กลุ่มผู้ซื้อที่มาตอบแบบสอบถามด้วยการทำ Mission Sticker Survey กระตุ้นความน่าสนใจ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลดาต้าจากผู้ซื้อได้อีกด้วย โดยจากผลสำรวจภายใน พบว่ามีผู้ใช้งานดาวน์โหลด Mission Sticker มากกว่า 850,000 ครั้งต่อหนึ่งแคมเปญ ส่งผลให้ต้นทุนของแบรนด์ในการได้ดาต้าโดยตรงจากผู้ซื้ออยู่ที่ประมาณ 2.4 บาท ชี้ให้เห็นว่า Mission Sticker Survey เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างแรงจูงใจในการตอบคำถามของผู้ซื้อ ทำให้แบรนด์ได้ข้อมูลที่ “ใช่” กลับมาด้วยต้นทุนที่คุ้มค้า

จำแนกกลุ่มผู้ซื้อให้ชัดเจน (Segmentation based on OA User Behaviors)  

เมื่อได้ข้อมูลพฤติกรรม ความชอบ ความสนใจจากผู้ซื้อที่มีหลากหลายมากมายแตกต่างกันไปแล้ว MyCustomer ยังมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ในการช่วยแบรนด์จำแนก แบ่งกลุ่มผู้ซื้อที่อยู่บน LINE OA ว่าผู้ซื้อแต่ละกลุ่ม มีความชอบ สนใจเนื้อหาประเภทไหนได้อย่างชัดเจน เพื่อให้แบรนด์สามารถนำไปต่อยอดออกแบบการสื่อสาร ส่งข้อความไปหาผู้ซื้อแต่ละคน แต่ละกลุ่มได้อย่างตรงใจ มีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างฟีเจอร์ที่ช่วยจำแนก แบ่งกลุ่มผู้ซื้อ ได้แก่

• ฟีเจอร์ Segment ที่แบรนด์สามารถเลือกเงื่อนไขหรือตัวแปร มาให้ระบบช่วยจำแนก แบ่งกลุ่มผู้ซื้อให้ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกเอากลุ่มผู้ซื้อที่เคยเห็น หรือเคยคลิกข้อความที่แบรนด์ยิง Broadcast ไปหา หรือเลือกเอากลุ่มผู้ซื้อที่เคยตอบแบบสอบถาม (สามารถระบุข้อคำถามได้) มาให้ระบบทำการจำแนก แบ่งกลุ่มให้ตามคำตอบที่ได้ ทำให้แบรนด์ทราบถึงพฤติกรรมความสนใจของผู้ซื้อที่มีแตกต่างกันไปได้อย่างเป็นระบบ โดยมีการแสดงข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างจำนวนกลุ่มผู้ซื้อที่ถูกจำแนกไว้กับจำนวนเพื่อนทั้งหมดได้อย่างชัดเจน
• ฟีเจอร์ Action Tag คือการที่แบรนด์นำเอาเครื่องมือการติดตามผลที่เรียกว่า ‘Action Tag’ ไปติดตั้งในฟีเจอร์หรือ Automation ต่างๆ เพื่อติดตามผลพฤติกรรมของผู้ซื้อที่เกิดขึ้นกับฟีเจอร์หรือเครื่องมือนั้นๆ โดยระบบจะจำแนก แบ่งกลุ่มผู้ซื้อให้ตามผลพฤติกรรมดังกล่าว ตัวอย่างเช่น หากแบรนด์นำ Action Tag ไปติดตั้งในฟีเจอร์ ‘ริชเมนู’ ระบบจะช่วยจำแนก แบ่งกลุ่มผู้ซื้อให้ตามพฤติกรรมการคลิกบนริชเมนูนั้นๆ โดยอัตโนมัติว่ามีผู้ซื้อกลุ่มไหนคลิกเนื้อหา A ผู้ซื้อกลุ่มไหนคลิกเนื้อหา B เป็นต้น หรือหากนำ Action Tag ไปติดตั้งในฟีเจอร์ ‘ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ’ ระบบสามารถช่วยจำแนก แบ่งกลุ่มผู้ซื้อให้ตามบทสนทนาที่ผู้ซื้อโต้ตอบกับบอทได้ด้วยเช่นกัน  

ยกระดับความสัมพันธ์กับผู้ซื้อแบบตัวต่อตัว (Personalized Experience)

ผู้ซื้อแต่ละคนมีความชอบและพฤติกรรมต่างกัน แบรนด์จึงต้องมีเครื่องมือที่จะช่วยทำให้ผู้ซื้อรู้สึกเป็นคนสำคัญและได้รับการปฏิบัติแบบเอ็กซ์คลูซีฟ MyCustomer ไม่เพียงช่วยให้แบรนด์เข้าใจผู้ซื้อ แต่ยังนำข้อมูลเหล่านั้นมาต่อยอด ด้วยฟีเจอร์เสริม ที่ทำให้การสื่อสารกับผู้ซื้อเป็นไปแบบเฉพาะเจาะจงตรงกับความชอบ และความต้องการของผู้ซื้อแต่ละรายมากขึ้น เช่น ฟีเจอร์ Segmented Rich Menu ให้แบรนด์สามารถเปลี่ยนรูปแบบหน้าตาของเมนูบนริชเมนูให้เป็นไปตามความต้องการและตรงใจผู้ซื้อแต่ละกลุ่มที่ถูกจำแนกไว้ ทำให้ผู้ซื้อรู้สึกและรับรู้ถึงความใส่ใจจากแบรนด์เป็นพิเศษ เช่น สำหรับแบรนด์ค้าปลีก ผู้ซื้อที่สนใจ Gadget จะเห็นริชเมนูที่นำเสนอโปรโมชั่น Gadget ผู้ซื้อที่สนใจบิวตี้ จะเห็นริชเมนูที่นำเสนอโปรโมชั่นสินค้าบิวตี้ เป็นต้น 

ฟีเจอร์ Targeting Messages ทั้งแบบ Personalized Image ข้อความในแบบรูปภาพที่สามารถใส่ชื่อและภาพโปรไฟล์ของผู้ซื้อไปบนภาพของแคมเปญหรือสินค้านั้นๆ เพื่อสื่อสารกับผู้ซื้อแต่ละคนโดยตรงตามความชื่นชอบ สื่อถึงความใส่ใจผู้ซื้อขึ้นไปอีกขั้น เสมือนเป็นการส่งบัตรเชิญแขกวีไอพีคนสำคัญให้เข้ามาดูสินค้าชิ้นโปรด สำหรับองค์กรที่มีนักพัฒนาหรือผู้เชี่ยวชาญ ยังสามารถออกแบบข้อความเป็น Flex Message ส่งหาผู้ซื้อแต่ละคน แต่ละกลุ่ม ด้วยรูปร่างหน้าตาของข้อความที่ออกแบบเองได้ตามต้องการอีกด้วย

เมื่อธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้นบนโลกออนไลน์ ขณะที่ผู้ซื้อต่างก็มีความต้องการที่หลากหลายและแตกต่างกันสุดขั้ว แบรนด์จึงจำเป็นต้องมุ่งสู่ดิจิทัล เรียนรู้การนำดาต้าเทคโนโลยีมาช่วยให้เข้าใจและรู้จักตัวตนของผู้ซื้อได้ลึกและละเอียดมากยิ่งขึ้น MyCustomer เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการตลาดด้านดาต้า ที่จะช่วยต่อยอด LINE OA  ให้แบรนด์สามารถจัดการบริหารข้อมูลผู้ซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ทั้งยอดขายและได้ใจผู้ซื้อไปเต็มๆ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MyCustomer ได้ ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Lenovo เตรียมเปิดตัวแล็บท็อป ThinkBook Plus จอม้วน-ยืดได้เอง รุ่นแรกของโลก
• 
  Vasco Translator E1 หูฟังแปลภาษาสุดล้ำ ทำให้การสื่อสารข้ามภาษาไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่